หรือนี่จะเป็น การประหารครั้งล่าสุดของไทย

ในปัจจุบัน ไทยยังเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ยังคงมีการลงโทษประหารชีวิตอยู่ ซึ่งใช้กับข้อหาหนักหลายๆข้อหา ทั้งฆาตกรรม ยาเสพติด ฯลฯ
ในสมัยโบราณ ไทยใช้วิธีการปั่นศีรษะในการประหารชีวิตนักโทษ ต่อมาหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ไทยได้เปลี่ยนมาใช้วิธียิงหรือที่เรียกกันว่า "ยิงเป้า" แทน นักโทษรายแรกที่ถูกประหารด้วยวิธีนี้คือ สิบเอกสวัสดิ์ มหะหมัด หัวหน้าคณะกบฏนายสิบ โดยวิธีนี้ใช้ระหว่างปี 2478 - 2545 มีนักโทษถูกประหารชีวิตด้วยวิธีนี้ 319 ราย โดยเป็นหญิง 3 ราย
จำำนวนนักโทษประหารในแต่ละปี มีดังนี้ (สถิติจากเว็บไซต์กรมราชทัณฑ์) (ปีที่เว้นไปคือปีที่ไม่มีการประหาร)
ทั้งนี้ ไม่นับรวมนักโทษที่ถูกยิงเป้าโดยทหารหรือตำรวจ ตามคำสั่งคณะปฎิวัติอีกหลายคน

ปี พ.ศ. - ราย
2478 - 1
2480 - 1
2481 - 4
2482 - 48 (18 รายในนี้เป็นนักโทษจากกรณีกบฏพระยาทรงสุรเดช)
2484 - 9
2485 - 8 (มีผู้หญิง 1 ราย จากคดีฆาตกรรม)
2486 - 12
2487 - 4
2494 - 3 (ทั้งสามเป็นจำเลยในคดีสวรรคต)
2498 - 4
2499 - 2
2502 - 3 (หนึ่งในนี้มีนายซีอุย แซ่อึ้ง ฆาตกรโรคจิตด้วย)
2503 - 8
2504 - 4
2505 -11
2506 - 15
2507 - 3
2508 - 5
2509 - 3
2510 - 7
2511 - 2
2512 - 4
2513 - 1
2514 - 2
2515 - 14
2516 - 4
2517 - 12
2520 - 14 (หนึ่งในนี้มีพลเอกฉลาด หิรัญศิริ นักโทษประหารข้อหากบฏรายล่าสุดของไทยรวมอยู่ด้วย)
2521 - 7
2522 - 7 (มีผู้หญิง 1 ราย จากคดีฆาตกรรม)
2523 - 4
2524 - 4
2525 - 5
2527 - 15
2528 - 2
2529 - 6
2530 - 16
2539 - 1
2540 - 2
2541 - 2
2542 - 16 (มีผู้หญิง 1 รายจากคดียาเสพติด)
2543 - 1
2544 - 11
2545 - 11
ปี 2546 ได้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา เปลี่ยนวิธีการประหารชีวิต จากยิงเป้า เป็นวิธีฉีดยา (Lethal injection) โดยจะมีการฉีดยาสามชนิดตามลำดับคือ โซเดียมไทโอเพนทัล เพื่อให้หลับลึก ไม่รู้สึกตัว แพนคูโรเนียมโบรไม (เพื่อหยุดการทำงานของปอด) และโพรแทสเซียมคลอไรด์ เพื่อหยุดการเต้นของหัวใจ เป็นเหตุให้เสียชีวิตในที่สุด ใช้เป็นครั้งแรกในเดือนตุลาคมปีนั้น กับนักโทษสี่ราย เป็นคดียาเสพติดสามราย ฆาตกรรมหนึ่งราย
จากนั้นก็ไม่มีการประหารชีวิตอีก จนปี 2552 หรือหกปีต่อมา ได้มีการประหารชีวิตนักโทษไป 2 ราย เป็นคดียาเสพติดทั้งสองราย
นับเป็นการประหารครั้งล่าสุดของไทย
ไม่มีใครรู้ว่านักโทษรายใดจะเป็นรายต่อไปที่จะต้องเดินเข้าสู่แดนประหาร แต่สิ่งที่พวกเราควรรู้คือ มีสติ รู้คิด ว่าสิ่งไหนถูกหรือผิด ทั้งทางธรรมและทางโลกคือกฎหมาย หากไม่เช่นนั้นแล้ว เราอาจจะเป็นรายต่อๆไปเหมือนพวกเขาก็ได้ !