"กัญชา" รักษาโรคได้จริง งานวิจัยชิ้นใหม่ยืนยันชัดๆ ผลสุดอึ้งหายดีเกือบ 100%

ปัจจุบันประเทศไทยอนุญาตให้สามารถปลูกกัญชงได้ แต่ต้องปลูกในพื้นที่ๆกำหนดเท่านั้น โดยจำกัดพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดน่าน จังหวัดตาก จังหวัดเพชรบูรณ์และจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งสายพันธุ์ที่นำมาปลูกนั้นต้องมีสารออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทหรือสารทีเอชซีไม่เกิน 1 เปอเซ็นต์ ส่วนกัญชาที่เป็นพืชเสพติดชนิดเดียวกันนั้นยังคงมีกฎหมายมาบังคับใช้สำหรับผู้ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับพืชชนิดนี้

ซึ่งในวงการแพทย์บ้านเราได้ออกมาเรียกร้อง ตอบโต้สร้าง"วาทกรรมกัญชาคือยาสมุนไพร" โดยได้อ้างถึงผลการวิจัยจำนวนมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ความเคลื่อนไหวของบรรดานักวิชาการทางการแพทย์ในประเทศยักษ์ใหญ่ ที่ระบุว่า สารบางชนิดในกัญชาและกระท่อมสามารถนำมารักษาโรคมะเร็ง และโรคอื่นๆ ได้ แต่ด้วยกฎหมายที่ถูกบังคับใช้จึงทำให้วาทกรรมนี้ต้องถูกแช่แข็งกลายเป็นพืชที่ต้องห้ามในสังคม

ในขณะที่สมาคมโรคลมชักของประเทศสหรัฐอเมริกาได้ออกมาเผยแพร่งานวิจัยที่ใช้สาร CBD ในกัญชารักษาโรคลมชักในเด็กและวัยรุ่นได้สำเร็จ จากผลการศึกษาพบว่า ผู้ป่วยที่ได้รักษาด้วยCBD มีอาการชัก รวมถึงความรุนแรงของอาการลดลง 45.1% และมีผู้ป่วยที่เป็น Dravet Syndrome (โรคลมชักขั้นรุนแรง) 9-13% หยุดอาการชักได้เกือบ 100% สำหรับสารCBD เป็นวิธีการรักษาที่ได้ผลดี จนถึงได้ผลดีมาก แถมปลอดภัยและมีผลข้างเคียงน้อย แน่นอนว่าอาจจะไม่ใช่ทุกคนที่ได้ผล แต่มีเด็กๆ มากมายที่ได้ประโยชน์จาก CBD มากกว่าการรักษาแบบอื่น"

โดย Cannabidiol (CBD) คือ สารหลักอย่างหนึ่งในกัญชาที่ไม่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท(ไม่เมา) ซึ่งในปัจจุบันมีสายพันธุ์กัญชาที่มี CBD สูง โดยที่มี THC (สารที่เมา) เพียงเล็กน้อยจนผู้ใช้ไม่รู้สึกมึนเมา หนึ่งในนั้นก็คือ สายพันธุ์ กัญชง(Hemp) ในประเทศไทย

แม้ CBD จะได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะยาและอาหารเสริม แต่กฎหมายกลับเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ทุกอย่างต้องถูกปิดกั้น