(ฉบับเต็ม) บิ๊กตู่อัดมือระเบิด "ไม่มีรัฐบาลบ้า ทำแบบนั้นหรอก เว้นแต่ไอ้คนที่อยากจะเป็นรัฐบาล แล้วคิดจะทำ"
พล.อ ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุระเบิดที่ รพ.พระมงกุฎเกล้าว่า หากถามตนว่าคนร้ายมีวัตถุประสงค์อะไรในการก่อเหตุ ให้ไปถามคนร้าย ว่าเค้ามีวัตถุประสงค์อะไร ตนตอบแทนเค้าไม่ได้ว่าเค้ามีวัตถุประสงค์อะไร และถ้าถามว่าการก่อเหตุยึดโยงกับ3ปีคสช.หรือไม่ ตนไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นกับการสอบสวนของตำรวจ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และอย่าถือว่าการก่อเหตุเป็นการลองของท้าทายกันเลย และการครบรอบ3ปีเมื่อวาน ตนไม่อยากให้ความสำคัญมากนัก ถ้าเราให้ความสำคัญมาก จะมีผลกระทบกับการทำงานอื่น
อย่างไรรัฐบาลและคสช.ก็อยู่ตามที่กำหนดไว้ตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คสช. และ รัฐบาล ขอขอบคุณประชาชนส่วนใหญ่ได้ให้เวลา และโอกาสกับรัฐบาล และ คสช.ในการทำงานในช่วงที่ผ่านมา จนครบรอบ3ปี และเป็นไปได้ด้วยดี หลายอย่างแก้ไขได้ หลายอย่างยังแก้ไขไม่ได้ ที่มีความสลับซับซ้อน ก็ต้องใช้เวลาในการดำเนินการให้สำเร็จให้ได้ อย่างน้อยเริ่มต้นให้ได้ บางอย่างถ้าจะต้องใช้เวลานานให้เกิดความยั่งยืน ต้องทำกันต่อไป ขอขอบคุณ ในการสนับสนุนการทำงานของคสช.และรัฐบาลจนครบรอบ3ปีวานนี้ ซึ่งปัญหาต่างๆยังมีอีกมากมาย ใช้เวลามา3ปีแล้ว แก้ได้ระดับหนึ่ง
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงเรื่องกล้องวงจรปิดว่า ตนได้สั่งการเพิ่มเติมกับฝ่ายความมั่นคงว่า ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ โดยต้องไปตรวจสอบดูว่ามาตราฐานการติดตั้งกล้อง เพราะปัญหาคือกล้องบางพื้นที่ได้ติดตั้งเป็นเวลานาน และเป็นของหลายหน่วยงาน ซึ่งรัฐบาลพยายามปรับปรุงแก้ไขในเรื่องขีดความสามารถ สมรรถนะของกล้องให้ดีขึ้น แต่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ก็ทยอยดำเนินการไปตามที่ฝ่ายความมั่นคงได้เคยชี้แจงไป
ส่วนกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุ ตนสั่งให้มีการตรวจสอบโดยเร็ว ตนกังวลว่า กล้องอาจมีปัญหาอยู่บ้างเพราะเป็นการติดตั้งกล้องในพื้นที่สาธารณะในการให้บริการของโรงพยาบาล เพราะอาจมีความเข้มงวดน้อย เพราะไม่มีใครเค้าทำเหตุการณ์เหล่านี้ในโรงพยาบาล ในโลกใบนี้ไม่มีจริงๆ เพราะฉะนั้นคนที่ทำ ตนถือว่า ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง และเป็นการกระทำที่ให้อภัยไม่ได้ เพราะฉะนั้นต้องเร่งรัดดำเนินการ ส่วนจะได้ตัว ไม่ได้ตัว ต้องใช้ทุกวิถีทางในการสืบสวนสอบสวน วันนี้ พรุ่งนี้อาจจะยังไม่ได้ ต้องได้สักวัน ต้องเร่งดำเนินการให้ได้
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า "การเกิดเหตุทำนองนี้ เคยเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี53 เคยเกิดแบบนี้ ก็ลองดูว่าเกี่ยวพันเชื่อมโยงกันหรือไม่ อยากให้สื่อช่วยคิดวิเคราะห์ด้วย สิ่งสำคัญคือทำไมคนทพถึงคิดแบบนี้ ใจร้าย และไม่คำนึงถึงประชาชนผู้บริสุทธิ์ คนเจ็บคนป่วย เค้าทุกข์ทรมานอยู่แล้ว ก็ยังทำเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาอีก หวังผลอะไร ตนคิดว่าต้องสืบสวนให้ได้ อย่าไปบิดเบือนว่ารัฐบาลเป็นคนทำเอง ไม่มีรัฐบาลบ้า ทำแบบนั้นหรอก เว้นแต่ไอ้คนที่อยากจะเป็นรัฐบาล แล้วคิดจะทำ ผมไม่เคยคิดแบบนั้น "
นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมอีกว่ากับการประเมินสถานการณ์ว่า มีการประเมินอย่างต่อเนื่อง บางอย่างเป็นการประเมินโดยฝ่ายความมั่นคง ไม่อยากให้ไปโทษใคร การข่าวมีอยู่ แต่ยังมีคนที่พร้อมจะเคลื่อนไหวทั้งการก่อเหตุร้าย เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ทางการเมือง เกิดทุกพื้นที่
เมื่อวานตนเห็นข่าวต่างประเทศที่เกิดเรื่องคล้ายเราที่เกิดเหตุระเบิด แต่คนละรูปแบบ วัตถุประสงค์คนละอย่าง ส่วนเรื่องงานข่าวกรอง ก็คาดการณ์ว่าจะเกิดที่โน่น ที่นี่ ตามลำดับ ถ้าจะให้รู้ คงต้องเป็นสายลับแล้วถึงจะได้ว่าเค้าทำที่ไหน อย่างไรได้ และที่จะรู้ชัดเจนก็อยู่ที่การเข้าถึงกระบวนการ
ซึ่งเราพยายามอยู่ แต่มีใครคิดไหม ว่าจะเกิดเหตุในโรงพยาบาล ไม่มี มีคนเลวมันคิดไง อะไรก็ได้ที่จะเกิดผลกระทบกับรัฐบาลหรือไม่ ตนไม่แน่ใจตรงนี้ แต่เป็นประเด็นกนึ่งว่า ทำไมมาเกิด22พค. เป็นประเด็นสำคัญที่ต้องเอามาคิดวิเคราะห์ และทำไมต้องมาเกิดในรพ. และเป็นโรงพยาบาลทหาร และทำร้ายประชาชน ถึงแม้จะไม่ชอบทหาร อย่าลืมว่าเป็นคนไทยทั้งหมด เพราะฉะนั้น ใครก็ตามที่หวังผลทางการเมือง และคิดเข้าสู่การเมือง แล้วทำแบบนี้ ผมคิดว่า คนเหล่านี้ คงถูกลงโทษโดยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อยู่ที่ประชาชนศักดิ์สิทธิ์ที่สุด จะให้ใครเข้ามาทำอะไรต่อไปในวันหน้า
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวตอบในประเด็นการก่อเหตุที่ห้องวงษ์สุวรรณว่า "อย่าใช้คำว่าท้าทาย โจมตี เราไม่ได้รบกันอยู่ ใช้ไม่ได้ มันเป็นเรื่องของการก่อเหตุร้าย เป็นเรื่องของคนเลว ถ้าไม่เลวจริงๆทำไม่ได้หรอก มันใจร้ายไม่พอหรอก คนเหล่านี้ใจร้ายพอที่จะฆ่าใครก็ได้ หวังผลให้เกิดการบาดเจ็บ และ สูญเสีย" และ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเราต้องช่วยลดให้ได้ สร้างความร่วมมือกันให้ได้ และที่มาบอก การก่อเหตุท้าทายตน ไม่ใช่ ท้ายังไงผมไม่สู้อยู่แล้ว
เพราะผมต้องใช้กฎหมาย และทำงานให้ดีที่สุด เกี่ยวกับเรื่องมาตราการรักษาความปลอดภัย ก็เพิ่มทุกระดับ วันนี้เมื่อเกิดเหตุอย่างนี้มา ต้องเข้มงวดมากขึ้น และประชาชนก็เดือดร้อน ทุกพื้นที่มีความเสี่ยง สถานที่ราชการ เขตพระราชฐาน ตลาดคลองผดุง ทำเนียบรัฐบาล บก.ทบ กองทัพภาค และกระทรวง ทบวง กรม ตนย้ำในที่ประชุม ว่าขอให้เน้นย้ำในการรักษาความปลอดภัยเจ้าหน้าที่รปภ.บางทีจ้างมา วันนี้ต้องเข้มงวด การเข้าไปติดต่อราชการจะยากขึ้น ต้องเสียเวลาในการตรวจรถ เปิดท้ายรถ คนที่ทำแบบนี้ ทำให้เกิความวุ่นวายสับสน ในการดำรงชีวิตของพวกเรา
ในเรื่องการแถลงครบรอบ3ปี นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ทุกวันนี้ผมพยายามจะชี้แจง วันนี้ย้ำทุกกระทรวงว่าให้นำผลงานที่ทำมาชี้แจงแต่คงต้องชี้แจงอย่างต่อเนื่อง เชื่อมโยงว่าวันนี้ทำ ใครได้ประโยชน์อย่างไร ถ้าพูดถึงหลักการ มาตราการอย่างเดียว บางทีอาจไม่เข้าใจกัน ต้องทะยอยให้ข้อมูลไป เช่น การดูแลโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาจังหวัด

















