ปะทะเดือด !! พระปะทะชาวบ้าน ฉุนขวางพิธีเผาศพ สาดน้ำมันใส่ สั่งให้จุดไฟเผาทั้งเป็น !!
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมาโลกออนไลน์มีการแชร์คลิปวิดีโอปะทะกันระหว่างพระสงฆ์และชาวบ้าน ภายในสำนักสงฆ์ปฏิบัติธรรมพุทธชยันตี ย่านพุทธมณฑลสาย 3 เนื่องจากชาวบ้านเข้าขัดขวางการเผาศพ ที่ทางวัดมีการเผาศพคนกลางแจ้ง โดยการก่อกองฟืนและเผานั้น จนเกิดมีการปะทะและทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น จนเกิดเป็นที่ถกเถียงกันเป็นจำนวนมากนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2560 พระเมตตาสุพจน์สุวจโน พระลูกวัด ได้เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุทางวัดได้มีการจัดพิธีเผาศพแบบดั้งเดิม เป็นศพของยายที่อาศัยอยู่และคอยช่วยงานที่วัดมานานแล้ว ทางวัดไม่มีเมรุ จึงใช้ไม้ฟืนสุมแบบเชิงตะกอนเพื่อจุดไฟเผา แต่กลับมีชาวบ้านเข้ามาห้ามไม่ให้เผา ประกอบกับทางวัดและชาวบ้านเคยมีปัญหาทะเลาะกันมาก่อนหน้านี้โดย
ในส่วนที่บอกว่าเจ้าอาวาสเอาน้ำมันราดใส่ชาวบ้านและบอกให้จุดไฟเผานั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด แต่เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเพียงการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ทำให้น้ำมันก๊าดไปโดนชาวบ้าน
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ กล่าวยืนยันว่า วันเกิดเหตุพระได้เอาน้ำมันราดใส่ชาวบ้านจริง ขณะนั้นทางพระกำลังจะจุดไฟเผาศพ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอให้พวกชาวบ้านนำเอาถังดับเพลิงมาดับไฟ ทางเจ้าอาวาสจึงหันมาเอาน้ำมันก๊าดราดใส่ตัวพวกตนแทน พร้อมบอกให้จุดไฟเผามันเลย ตนจึงบันดาลโทสะต่อยไปที่พระก่อนจะเกิดเหตุการณ์ชุลมุนตามในคลิป ตนและชาวบ้านไม่เคยนับถือสำนักสงฆ์แห่งนี้ ไม่เคยทำบุญ ต่างคนต่างอยู่ เพราะทุกคนรู้พฤติกรรมของพระที่นี่ดี ที่บางครั้งมักจะมีการคนมาส่งหมูกระทะตอน 4-5 โมงเย็น บางวันเหมือนมีการเล่นอะไรกันหลังกุฏิและดื่มน้ำอะไรบางอย่าง และบางทีก็มีพระเขมรมาอยู่ที่วัด 30-40 รูป
ด้าน ผกก.สน.ธรรมศาลา เปิดเผยว่า คดีนี้ได้เคลียร์กันลงตัวแล้ว เนื่องจากวันเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่คุมสถานการณ์อยู่ โดยมีผู้เสียหาย 2 ราย เดินทางมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานในกรณีที่บอกว่ามีพระเอาน้ำมันราดแล้วจะให้จุดไฟเผา และเบื้องต้นอาจมีการดำเนินคดีกับทางวัดในเรื่องการเผาเชิงตะกอน ตาม พ.ร.บ.สุสานและฌาปณสถาน โทษปรับ 2,000 บาท ขณะที่ สำนักงานเขตสำนักทวีวัฒนา เผยว่า จากการลงตรวจสอบพร้อมกำลังทหาร พบว่าภายในสำนักสงฆ์แห่งนี้นั้นพระส่วนใหญ่เป็นพระจากกัมพูชา โดยจะมีการตรวจสอบว่าเป็นพระที่มีการบวชถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทหารเคยเข้าจับกุมพระกัมพูชามาแล้ว 48 รูป นอกจากนี้ จะต้องมีการตรวจสอบในเรื่องของการตั้งสำนักสงฆ์ตรงที่ดินแห่งนี้ว่าเป็นการทำอย่างถูกกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากพบว่าที่ดินผืนดังกล่าวเป็นที่ดินที่มีข้อพิพาทอยู่ เพราะผู้ถือกรรมสิทธิ์เป็นบริษัทเอกชน
แหล่งที่มา: เฟซบุ๊ค Aomsin Aomyim Makpat, ทุบโต๊ะข่าว












