วิจารณ์แซ่บซีรีส์เกาหลีหมิ่นอิสลาม! คิดได้ไงให้สาวในเรื่องสวมฮิญาบนุ่งบิกินี

โดยสถานีโทรทัศน์ MBC อ้างว่าซีรีส์ Man Who Dies to Live เป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้น ประเทศที่ปรากฏในซีรีส์ก็ไม่มีอยู่จริงๆ แต่กระแสวิจารณ์ก็ยังรุนแรงถึงขั้นมีการเรียกร้องให้ยกเลิกการออกอากาศซีรีส์เรื่องนี้

ทันทีที่ Man Who Dies to Live เริ่มแพร่ภาพตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. เสียงวิจารณ์ในแง่ลบก็ดังกระหึ่มทันที โดยเฉพาะในมุมที่ว่าซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้นำเสนอภาพวัฒนธรรมอิสลามออกมาอย่างไม่เหมาะสม

ซีรีส์ที่มี ชเวมินซู, ชินซองร็อก, คังเยวอน, อีโซยอน และดาราอีกมากมายร่วมแสดง เล่าเรื่องของชายชาวเกาหลีใต้ที่ไปใช้ชีวิตอยู่ในประเทศเล็กๆ ในตะวันออกกลางถึง 40 ปี ถึงขั้นกลายเป็นคนโปรดของเจ้าครองรัฐราชอาณาจักรทางตะวันออก และเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามเป็น “ซาฮิด ฟาด อาลี” จนกำลังจะได้แต่งงานกับธิดาของเจ้าครองรัฐดังกล่าว แต่เขากลับพบว่าตัวเองมีลูกสาวอยู่ที่เกาหลีใต้ และได้รับคำสั่งว่าต้องตามหาลูกสาวให้เจอ จึงจะได้รับอนุญาตให้แต่งงาน

โดยในใบปิดของซีรีส์ ชเวมินซู ได้แต่งตัวในชุดแบบมุสลิม แต่ที่ถูกวิจารณ์หนักก็คือ ซีรีส์ได้สร้างประเทศสมมุติที่มีประชาชนต่างชาติพันธุ์ ทั้งคนผิวขาว, คนอาหรับ และคนเกาหลี ซึ่งทั้งหมดรับบทเป็นประชาชนของประเทศสมมุติ และแต่งตามแบบมุสลิม

ในซีรีส์มีกระทั่งหญิงสาวชาวตะวันตกที่สวมฮิญาบแบบคนมุสลิม แต่นุ่งชุดบิกินีโชว์ความเซ็กซีในฉากริมสระว่ายน้ำ ทั้งๆ ที่ปกติแล้วหญิงสาวมุสลิมจะต้องสวมเสื้อผ้ามิดชิด เพื่อปิดบังเนื้อหนังร่างกาย

ซึ่งเมื่อซีรีส์แพร่ภาพออกไป ผู้ชมที่อยู่ในต่างประเทศก็แสดงความเห็นออกมาทันที ส่วนใหญ่เป็นความไม่พอใจ และมีการล่ารายชื่อเพื่อเรียกร้องให้กับ MBC ยกเลิกการออกอากาศซีรีส์เรื่องนี้ … “นี่เข้าข่ายเป็นการล้อเลียนคนมุสลิม ไม่ควรมีซีรีส์เรื่องนี้ออกอากาศอี่ก” ชาวเน็ตคนหนึ่งแสดงความเห็น

ขณะที่ฝ่ายขณะที่ทาง MBC ได้อธิบายว่า “Man Who Dies to Live มีเนื้อหาที่เป็นการแต่งขึ้นจากจินตนาการเกี่ยวกับประเทศที่ชื่อว่า บูดูอันเทีย โปรดเข้าใจด้วยว่าชื่อตัวละคร, ชื่อสถานที่ และการออกแบบต่างๆ เป็นการแต่งขึ้นทั้งหมด MBC ไม่ได้มีเจตนาจะบิดเบือนภาพของศาสนา, วัฒนธรรม หรือประชาชนกลุ่มใดๆ และเราต้องขออภัยด้วยหากทำให้ผู้ชมรู้สึกไม่พอใจกับซีรีส์เรื่องนี้”

เราอยากจะย้ำอีกครั้งว่าไม่มีความตั้งใจที่จะลบหลู่ ค่านิยม, วัฒนธรรม, ศาสนา หรือประชาชนในโลกอาราบิก และประเทศอิสลามอย่างแน่นอน MBC รู้สึกเสียใจ และต้องขอโทษอย่างเป็นทางการต่อผู้ชมที่อาจจะรู้สึกถูกดูหมิ่น ซึ่งขอให้มั่นใจได้เลยว่าต่อไป MBC จะระมัดระหว่างในการสร้างผลงานอย่างถึงที่สุดแน่นอน”

อย่างไรก็ตามผู้ชมโดยเฉพาะจากต่างชาติต่างไม่พอใจกับคำอธิบาย และชี้ว่าแม้ MBC จะอ้างว่าเรื่อง และรายละเอียดทั้งหมดเป็นการแต่งขึ้นมาใหม่ แต่ก็มีภาพให้เห็นหลายฉากว่าซีรีส์ไปถ่ายทำที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และวัฒนธรรมที่เห็นในซีรีส์ก็เป็นวัฒนธรรมของชาติอิสลามอย่างแน่นอน

“ตกลงเราทำซีรีส์ล้อเลียนประเทศอื่น, วัฒนธรรมอื่น และศาสนาอื่น แล้วก็บอกว่าแต่งขึ้นเอาก็ได้ใช่ไหม” ชาวเน็ตคนหนึ่งแสดงความเห็น และไม่พอใจกับคำขอโทษของ MBC เช่นเดียวกับอีกคนที่บอกว่า “จะแต่งขึ้นยังไงก็ตามซีรีส์ก็ลบหลู่มุสลิมอยู่ดี เลิกออกอากาศเถอะ แบบนี้เป็นการให้ข้อมูลคนดูผิดชัดๆ”