สาวจีน ท้อง 9 เดือน กระโดดตึกโรงพยาบาลเสียชีวิต เนื่องจากครอบครัวไม่ยอมอนุญาตให้คลอดแบบผ่าตัด

ในวันเดียวกัน หญิงสาวได้เซ็นชื่อในการโอนมอบอำนาจให้กับสามีในกรณีฉุกเฉินและต้องตัดสินใจบางอย่างโดยเร่งด่วนขณะเธอไม่รู้สึกตัว

เช้่าวันต่อมา ( พฤหัสบดี 31 ส.ค.) หญิงแซ่หม่า ถูกนำตัวสู่ห้องคลอด เพื่อคลอดแบบธรรมชาติ แต่เธอได้ออกจากห้องคลอดมาหลายครั้ง เพราะ "ทนความเจ็บปวดไม่ไหว" โดยเธอพยายามเดินแม้จะเจ็บปวดมาก เพื่อมาหาสามี "ขอร้องสามีให้อนุญาต ผ่าตัดคลอด แต่สามีปฏิเสธโดยทันที แม้หมอและพยาบาลจะแนะนำสามีว่า ผ่าตัดคลอดเป็นวิธีที่ดีที่สุดในตอนนั้น" หญิงแซ่หม่าจึงต้องกลับไปในห้องคลอดเพื่อคลอดแบบธรรมชาติ

หลังนั้น พยาบาลได้ออกมาจากห้องคลอดและบอกว่า "หญิงสาวได้หายตัวไป" สุดท้ายพบว่าเธอได้เสียชีวิตจากการกระโดดจากชั้น 5 ตึกผู้ป่วยโรงพยาบาลเพื่อฆ่าตัวตาย ในเวลาประมาณ 2 ทุ่ม ตามเวลาจีน

ทางสามีของสาวแซ่หม่า ให้การว่า "พวกเขาได้รับข้อมูลจากทางหมอว่า ภรรยากำลังจะคลอดลูกแล้ว การผ่าตัดไม่จำเป็น เขาจึงให้ภรรยาอดทนคลอดแบบธรรมชาติต่อไป"

ทางหมอเจ้าของเคสนี้ระบุอย่างชัดเจนว่า "หญิงสาวออกจากห้องคลอดเพื่อมาขอร้องให้สามี อนุญาตให้ผ่าตัดคลอด แต่สามีพร้อมครอบครัว ปฏิเสธ ยืนกรานว่าต้องคลอดธรรมชาติ"

เมื่อดูจากกล้องวงจรปิดในโรงพยาบาล พบว่า หญิงสาวออกมาขอร้องสามีจริงๆ โดยถึวขั้นคุกเข่าอ้อนวอนด้วยความเจ็บปวด แต่ก็ไม่เป็นผล

ตามกฎหมายจีนแล้ว เคสนี้ การผ่าตัดคลอดจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อทางครอบครัวอนุญาตยินยอม เว้นแต่เหตุฉุกเฉินจริงๆ ทางหมอสามารถตัดสินใจได้เลย โดยไม่ต้องรอความเห็นชอบจากครอบครัวคนไข้

และในเคสนี้หญิงแซ่หม่า ได้เซนโอนอำนาจให้สามีในวันที่มาถึงโรงพยาบาลเพื่อคลอด ดังนั้นทางหมอจึงถามความเห็นชอบจากทางสามีหญิงสาวและครอบครัวทุกครั้ง ในเรื่องของการผ่าตัดคลอด

เมื่อเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ในโซเชียลจีน ได้เป็นกระแสอย่างมาก อย่างใน Weibo คนจีนได้วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ส่วนใหญ่ต่อว่าทางสามีและครอบครัว ระบุว่า เป็นส่วนทำให้หญิงสาวเสียชีวิต โดยมีความคิดเห็นที่มีผู้กดไลก์กว่า 40,000 ไลก์ ว่า "การคลอดลูกของผู้หญิง ควรจะเป็นผู้หญิงที่ตัดสินใจว่าจะคลอดแบบใด ไม่จำเป็นต้องถามผู้อื่น"

อีกความเห็นหนึ่งที่ได้รับความสนใจมาก คือ "ผู้หญิงไม่ใช่โรงงานผลิตลูก พวกเรายังเพิกเฉยกับเรื่องแบบนี้ได้อย่างไรกัน"

อ้ายจงขอให้สาวผู้นี้และลูก สู่สุคติ ครับ