บัตรประชารัฐ, บัตรเดบิตธนาคาร มีสิทธิ์รับ 1 ล้านบาททุกวันหวยออก 16 ทุกเดือน
1. การแจกโชคจะมีขึ้นทุกเดือนเป็นระยะเวลา 1 ปี สำหรับยอดใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2560 ถึง 30 เมษายน 2561 โดยจะมีการแจกโชค ตั้งแต่ เดือน มิถุนายน 2560 ถึง เดือน พฤษภาคม 2561
2. ผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการแจกโชคจากการใช้บัตรเดบิต ประกอบด้วย
ประชาชน หมายถึง บุคคลธรรมดาที่ใช้บัตรเดบิตที่ออกโดยสถาบันการเงินในไทย เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการในประเทศไทย หรือบุคคลธรรมดาที่ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อซื้อสินค้าหรือวัตถุดิบเพื่อการเกษตร (ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการเดินทาง) ผ่านอุปกรณ์รับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ไม่รวมธุรกรรม e-Commerce และการโอนเงิน
ทั้งนี้ รายการการใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อชำระค่าสินค้าที่มีสิทธิ์ลุ้นโชคมีเงื่อนไขดังนี้
1) การปรับเปลี่ยนเงื่อนไขในการให้สิทธิ์บุคคลธรรมดาที่ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่การจับรางวัลเดือนธันวาคม 2560 (ข้อมูลการใช้จ่ายเดือนพฤศจิกายน 2560) เป็นต้นไป
2) ให้สิทธิ์ลุ้นโชคบัตรทั้งในส่วนของการใช้จ่ายจากเงินสวัสดิการที่ได้รับจากรัฐบาล และ
การใช้จ่ายจากเงินที่ผู้มีรายได้น้อยเติมในบัตรสวัสดิการ (e-Money)
3) ให้สิทธิ์ลุ้นโชคได้เฉพาะรายการการใช้บัตรสวัสดิการเพื่อซื้อสินค้า หรือวัตถุดิบเพื่อการเกษตร ณ ร้านค้าที่รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยที่ไม่รวมค่าใช้จ่ายเพื่อการเดินทาง (ไม่รวมค่าโดยสารรถเมล์ รถไฟฟ้า รถ บขส. หรือรถไฟ โดยใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ)
ร้านค้า หมายถึง ร้านค้าที่ติดตั้งอุปกรณ์รับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือปรับปรุงเครื่อง โดยใช้บริการกับผู้มีสิทธิ์วางเครื่องที่ได้รับการคัดเลือกจากภาครัฐ และรับชำระค่าสินค้าและบริการจากบัตรเดบิตที่ออกในประเทศไทย หรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยมีคุณสมบัติดังนี้
(1) ร้านค้าที่เป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนก่อนวันที่ 1 มกราคม 2559 และต้องมีรายได้ไม่เกิน 500 ล้านบาท (ใช้ข้อมูลจากงบการเงินปี 2558 ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า) หรือ
(2) ร้านค้าที่เป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นไป หรือ
(3) ร้านค้าที่เป็นบุคคลธรรมดาทั้งที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หรือไม่จด VAT
ทั้งนี้ไม่รวม (1) หน่วยงานภาครัฐ และ (2) รัฐวิสาหกิจ
ทั้งนี้ การปรับเปลี่ยนเงื่อนไขในการให้สิทธิ์ร้านค้าที่รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่การจับรางวัลเดือนธันวาคม 2560 (ข้อมูลการใช้จ่ายเดือนพฤศจิกายน 2560) เป็นต้นไป
3. ผู้ใช้บัตรจะได้รับสิทธิ์ทุก ๆ ครั้งที่มีการทำรายการด้วยบัตรเดบิตที่ออกโดยสถาบันการเงินในไทยหรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยไม่มีกำหนดวงเงินขั้นต่ำที่ใช้ เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการในประเทศไทยผ่าน อุปกรณ์รับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย
4. ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับสิทธิ์ทุก ๆ ครั้งที่มีการรับชำระค่าสินค้าและบริการด้วยบัตรเดบิตที่ออกโดยสถาบันการเงินในไทย หรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (โดยไม่มีกำหนดวงเงินขั้นต่ำที่รับชำระ) ผ่านเครื่องรับบัตรที่ให้บริการโดยผู้ให้บริการที่ได้รับการคัดเลือกจากภาครัฐ คือ
กลุ่ม TAPS ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
กลุ่มกิจการค้าร่วมโครงการอีเพเม้นท์ ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
5. ทุกรายการใช้จ่ายของผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการในแต่ละเดือน ที่ผ่านการ settlement หรือกระบวนการสมบูรณ์แล้ว จะถูกนำมาจับรางวัลในเดือนถัดไป
6. การจับรางวัลจะเกิดขึ้นโดยการสุ่มรหัสอ้างอิง (Reference Number) ผ่านระบบคอมพิวเตอร์
7. การประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์รับรางวัลจะเกิดขึ้นทุกวันที่ 16 ของเดือน ผ่านเว็บไซต์ www.epayment.go.th และสื่อต่าง ๆ โดยเริ่มประกาศครั้งแรกในวันที่ 16 มิถุนายน 2560
- ธนาคารเจ้าของบัตร (กรณีผู้ใช้บัตรเดบิต) หรือธนาคารผู้วางอุปกรณ์รับชำระเงินทางอิเลกทรอนิกส์ (กรณีร้านค้า) จะดำเนินการติดต่อผู้ได้รับรางวัล ผู้ได้รับรางวัลต้องยืนยันความต้องการรับรางวัลกับธนาคาร และยินยอมให้ธนาคารส่งเลขประจำตัวประชาชน/เลขนิติบุคคล/เลขที่หนังสือเดินทาง เลขบัญชีธนาคาร และที่อยู่ ให้กับสำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง เพื่อใช้ในการโอนเงินรางวัลและการนำส่งหลักฐานการหักภาษี ณ ที่จ่าย
- สำนักงานปลัดกระทรวงการคลังจะเป็นผู้โอนเงินรางวัลเข้า 1) บัญชีธนาคารหลักที่ผูกไว้กับบัตรเดบิตซึ่งผู้โชคดีใช้แล้วถูกรางวัล 2) บัญชีของร้านค้าที่เปิดกับธนาคารผู้ให้บริการวางเครื่อง โดยเงินรางวัลที่จ่ายจะเป็นยอดสุทธิหลังหักภาษี ณ ที่จ่าย แล้วผู้ได้รับรางวัลต้องชำระภาษีตามที่กฏหมายกำหนด 3) หากเป็นรางวัลที่เกิดจากการใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและเงินรางวัลไม่เกิน 10,000 บาท เงินรางวัลจะโอนเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ แต่หากเงินรางวัลมากกว่า 10,000 บาท เงินรางวัลจะโอนเข้าบัญชีของผู้ที่ได้รับรางวัล
- หากผู้ได้รับรางวัลไม่ได้รับการติดต่อจากธนาคาร โปรดติดต่อ Call Center ของธนาคารเจ้าของบัตร (กรณีผู้ใช้บัตรเดบิต) หรือธนาคารผู้วางอุปกรณ์รับชำระเงินทางอิเลกทรอนิกส์ (กรณีร้านค้า) ทั้งนี้สิทธิในการรับรางวัลมีกำหนดระยะเวลา 3 เดือนนับจากวันสิ้นเดือนที่ประกาศ
8. คณะกรรมการขอสงวนสิทธิ์ให้ผู้ได้รับโชครับรางวัลสูงสุดได้เพียง 1 รางวัลเท่านั้นในแต่ละเดือน โดยพิจารณาจากรางวัลที่ได้มูลค่าสูงที่สุด หากปรากฏว่าได้รับรางวัลมากกว่า 1 รางวัล คณะกรรมการจะนำรายชื่อสำรองลำดับถัดไปมาเข้ารับรางวัลแทน
9. หากตรวจพบภายหลังว่า ผู้มีสิทธิ์ได้รับรางวัลมีการทุจริตจะถือว่าหมดสิทธิ์ได้รับรางวัล
10. ในกรณีที่ผู้ได้รับรางวัลเสียชีวิตให้ทายาทรับเงินรางวัลแทนได้
11. ผู้ใช้บัตรหรือร้านค้าที่ไม่ประสงค์เข้าร่วมโครงการ สามารถแจ้งธนาคารที่ใช้บริการบัตรเดบิตหรือติดตั้งเครื่องรับบัตรเพื่อขอตัดชื่อออก หากมิได้แจ้งถือว่าสมัครใจเข้าร่วมโครงการดังกล่าว
12. บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการรับ-ส่งข้อมูล ตลอดจนคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับโครงการแจกโชคจากการใช้บัตรเดบิต ไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมรับโชคจากโครงการฯ
13. คณะกรรมการมีสิทธิ์ในการนำชื่อ นามสกุล และรายละเอียดอื่นใดของผู้ที่ได้รับรางวัล ทั้งภาพและเสียงออกเผยแพร่โฆษณาประชาสัมพันธ์ ตามที่คณะกรรมการเห็นสมควร โดยไม่ต้องขออนุญาตหรือจ่ายค่าตอบแทน
14. คณะกรรมการขอสงวนสิทธิ์ ดังต่อไปนี้
- การเปลี่ยนแปลงการประกาศผลรางวัล
- ชะลอ ระงับหรือตัดสิทธิการแจกรางวัลได้ตามเหตุแห่งกรณี โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
- พิจารณาข้อโต้แย้งหรือข้อพิพาทจากการประกาศรางวัล
- ตัดสิทธิผู้มีสิทธิได้รับรางวัล และเรียกคืนเงินรางวัล ในกรณีตรวจพบภายหลังว่ามีการทุจริต
15.การตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด
หมายเหตุ
กระบวนการจับรางวัลในเดือนสุดท้ายอาจล่าช้าเนื่องจากต้องรอการจัดการข้อมูลการใช้จ่าย (settlement) ให้เรียบร้อย และอาจจะประกาศชื่อผู้มีสิทธิ์รับรางวัลหลังวันที่ 16 พฤษภาคม 2561

















