รูทวารหนัก ไร้น้ำหล่อลื่น ! อย่าเสี่ยงมั่วเซ็กซ์ มีโอกาสแผลถลอก เลือดออก ติด HIV ควรใส่ "ถุงยางอนามัย" ทุกครั้งก่อนมีเซ็กซ์
(19 ธันวาคม 2560) นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากกรณีที่มีการ
"การจะติดเชื้อ HIV จากการมีเพศสัมพันธ์ขึ้นอยู่กับ 3 ประการ คือ 1.ปริมาณของเชื้อมากพอ 2.คุณภาพของเชื้อที่ใหม่ สดพอ และ 3.ช่องทางเข้า-ออก ดังนี้ คนเราเมื่อมีเพศสัมพันธ์กันไม่ว่าทางช่องทางใดๆ ก็มีโอกาสติดเชื้อได้เหมือนกัน โดยเฉพาะทางทวารหนัก
ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงมากที่สุด เพราะทวารหนักไม่มีน้ำหล่อลื่น มีโอกาสแผลถลอก มีเลือดออก ทำให้มีการแพร่กระจายของเชื้อ HIV จากคนหนึ่งไปสู่คู่ได้
เพราะฉะนั้น วิธีปฏิบัติเพื่อให้ตนเองปลอดภัยจากการเชื้อ HIV ได้แก่ การปฏิเสธเมื่อเห็นว่ายังอยู่ในสภาวะที่ไม่ปลอดภัย หรือเมื่อคิดจะทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ในสภาวะที่ไม่ปลอดภัย เเละต้องตระหนักอยู่เสมอว่าต้องใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี
ส่วนในกรณีที่มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักโดยไม่สวมถุงยางอนามัยถือว่าเป็นภาวะเสี่ยง จึงควรรีบไปปรึกษาแพทย์ให้เร็วที่สุดภายใน 72 ชั่วโมง เพื่อขอรับยาต้านไวรัสที่เรียกว่า เป็ป ( PEP ย่อมาจาก Post Exposure Prophylaxis )
ทั้งนี้ เป็ป ( PEP ) คือ ยาต้านไวรัสที่กินหลังสัมผัสเชื้อ HIV เพื่อป้องกันการติดเชื้อตามแพทย์สั่ง อย่างไรก็ตาม การป้องกันที่ดีที่สุด คือ การใส่ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธีทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะเมื่อมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก ควรใช้เจลหล่อลื่นที่มีน้ำเป็นตัวทำละลาย เพื่อช่วยลดการเสียดสีที่จะก่อให้เกิดบาดแผล ซึ่งเป็นช่องทางการติดต่อของเชื้อ HIV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวอีกว่า กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดให้บริการสำหรับผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงหรือคิดว่าตนเองมีโอกาสเสี่ยงต่อการรับเชื้อ HIV สามารถเข้ารับคำปรึกษาและตรวจหาการติดเชื้อได้ฟรีปีละ 2 ครั้ง โดยใช้เพียงบัตรประชาชนที่มีเลข 13 หลัก เพื่อให้รู้สถานะการติดเชื้อของตนเอง
โดยทราบผลการตรวจได้ภายในวันเดียว และเมื่อทราบผลว่าติดเชื้อ HIV สามารถรับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสได้ฟรีตามสิทธิที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ aidssti.ddc.moph.go.th หรือสายด่วนปรึกษาเอดส์และท้องไม่พร้อม โทร 1663 หรือที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422""












