หมอต่างดาว เร็ก วูลฟ์ นิตยสารยอดพิสดาร
เรื่องของการพบเห็นมนุษย์ต่างดาวมักจะคู่กับเรื่องของการโดนลักพาตัวหรือจับไปทดลองเสมอๆครับ ซึ่งเรื่องพวกนี้ก็มีเยอะพอๆกับเรื่องคนเจอผีในเมืองไทย ค่ำคืนนี้ผมได้นําเรื่องนี้มาให้ชาวห้องลึกลับหว้ากอได้อ่านกัน ซึ่งจะเป็นเรื่องเฉพาะที่เกี่ยวกับการมารักษาโรคของมนุษย์ต่างดาวครับ ^^ ถ้าดูเพ้อฝันหรือเพ้อเจ้อไปก็ถือว่าอ่านนิยายไปล่ะกันนะครับ ปราสาทมืด blue ในรอบ 30 ปีมานี้ ได้มีรายงานว่ามีมนุษย์โลกของเราที่ป่วยหนักหลายโรค ได้รับการรักษาจากแพทย์ของ UFO หายกันหลายราย โรคร้าย ๆ
เช่น โรคมะเร็ง โรคประสาท อัมพาต ไข้หวัดใหญ่ มาลาเรีย ได้รับการบำบัดจากมนุษย์ต่างดาว ต่อไปนี้คือการเปิดเผยบางรายของผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจากหมอ UFO นางแอนเดียร์ เดวิส เป็นคนไข้รายหนึ่งที่ได้รับการรักษา เธออายุ 34 ปี ชาวอเมริกัน แห่งเมืองหลุยส์วิลล์ รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อตอนอายุ 8 ปี เธอเป็นไซนัส โพรงจมูกเป็นหนอง ทำให้หายใจไม่สะดวก เป็นหวัดบ่อยมาก ต่อมาเธอเป็นหืดและหอบ หายใจไม่ออก
ต้องไปหาหมอที่โรงพยาบาล หมอได้ตรวจอาการแล้วบอกว่า “อีกหนึ่งอาทิตย์คุณมาผ่าตัดไซนัสที่โรงพยาบาล” แต่ยังไม่ทันถึงหนึ่งอาทิตย์ตามนัดหมายเลย เธอเกิดเป็นโรคคอพอกอีกโรคหนึ่ง เธอเจ็บปวดทรมานมาก จึงได้ไปหาหมอและนอนพักอยู่ในโรงพยาบาล แต่พอตอนดึกสงัด ผู้ป่วยในห้องเดียวกับเธอนอนหลับสนิท ส่วนเธอยังไม่หลับ เธอมองออกไปที่หน้าต่างก็ได้เห็นวัตถุสิ่งหนึ่งคล้ายจานบินขนาดเล็ก บินมาใกล้หน้าต่างของโรงพยาบาล จะว่าเป็นเครื่องบินก็ไม่ใช่ เพราะไม่มีเสียงดังของเครื่องยนต์ สักครู่ได้มีมนุษย์หัวโล้น ดวงตากลม ศีรษะล้าน รูปร่างล่ำสัน สูง 7 – 8 ฟุต ลอยตัวอยู่ในอากาศ แล้วโผล่เข้ามาที่หน้าต่าง
เธอตกใจมากจะร้องเรียกให้คนช่วยเหลือก็ร้องไม่ออก เหมือนถูกสะกดจิต สักครู่มนุษย์ประหลาดก็พูดว่า “ เงียบและอย่าตกใจ ฉันจะช่วยรักษาเธอให้หายป่วย” พวกเขามากันสองคน นายคนแรกใช้ไฟฉาย ๆ ที่ดวงตาและปากของเธอ แล้วบอกว่า " เธอเป็นไซนัสอย่างแรง เป็นไข้หวัด เป็นโรคคออักเสบแพ้มลพิษเกสรดอกไม้ " พูดจบ เพื่อนของเขาก็นำกล่องเล็ก ๆ คล้ายกล้องถ่ายรูป วางบนหน้าอกของเธอ ใช้สายยางสอดเข้าไปในปากของเธอ แล้วดูดหนองในโพรงจมูกออกมาทิ้ง ชั่วเพียงไม่กี่นาทีก็เสร็จ เขาเอายาจากขวดเล็ก ๆ เท่าขวดน้ำหอมฉีดใส่จมูกของเธอ
จากนั้นเขาก็พูดว่า “ ขอให้เธอนอนหลับฝันดี พรุ่งนี้เช้าเธอจะหายเป็นปกติ” เธอรู้สึกว่าจมูกของเธอโล่ง ไม่มีอาการเจ็บปวด หายใจก็สะดวก เธอคิดว่า ที่พวกนั้นทำกับเธอเช่นนั้นเป็นการรักษาโรคให้เธอ พวกเขามาอย่างสันติ ไม่มุ่งหวังทำอันตรายเธอ เธอจึงไม่ตกใจกลัวอีกแล้ว กับตรงข้ามเธอรู้สึกดีใจและขอบคุณ เธอรู้สึกดีใจและขอบคุณที่พวกเขาทำเช่นนั้นกับเธอ เธอพูดอ้อมแอ้มว่า “ ขอบคุณท่านมาก ท่านมาจากไหน ?” พวกเขาตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “เรามาจากแดนไกล” “ประเทศอะไร ?” “พวกเรามาจากต่างดาว ไม่ใช่มาจากต่างประเทศ ”
ตอนแรกก็สงสัยเหมือนกันครับว่าเป็นหมอแถวๆนี้รึเปล่าฮ่าฮ่าฮ่า - - question เมื่อพวกเขาพูดจบ ก็เดินไปยังเตียงนอนของเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ซึ่งเธอป่วยเป็นอัมพาต นอนสลบไสลอยู่บนเตียงข้าง ๆ เธอ เด็กผู้หญิงคนนั้นอายุราว ๆ 7 – 8 ขวบเช่นกัน เธอรู้จักชื่อของเด็กหญิงคนนั้นในวันต่อมาว่าชื่อ ซิลเวีย นอร์ตัน พวกมนุษย์ต่างดาว ได้ปลุกซิลเวียให้ลุกขึ้น แล้วก็นวดตามแขน ขา ของเธอ
พวกเขาสัมผัสเบา ๆ ที่ศรีษะของเธอแล้วพูดว่า "พวกเราเป็นหมอ จะช่วยรักษาเธอ อย่าตกใจ ไม่ต้องกลัว และอย่าส่งเสียงดังนะครับ" คนหนึ่งเอาฆ้อนเล็ก ๆ มาเคาะที่ข้อศอกและหัวเข่าของเธอ แล้วก็นวดศีรษะของเธอ พร้อมกับพูดขึ้นว่า “ เส้นประสาทของเธอทับกัน พรุ่งนี้เธอจะหายจากการเป็นอัมพาต เดินได้ตามปกติ” อีกคนใช้ไฟฉายด้านปลายถูไปมาที่ขาข้างที่เป็นอัมพาต ทำท่าเหมือนรีดเสื้อผ้า จากนั้นเขาก็ดึงเธอให้ลุกขึ้นจากเตียง และให้เธอเดิน ซิลเวียเดินได้ทันที สักครู่เขาก็สั่งให้เธอนอน แล้วพูดว่า "เธอจงนอนพักผ่อนให้พอ พรุ่งนี้เธอก็วิ่งได้แล้ว"
จากนั้นมนุษย์ประหลาด หรือเรียกว่ามนุษย์ต่างดาว ตามที่เขาบอกว่าเขามาจากต่างดาว ได้กระโดดไปที่หน้าต่างอย่างรวดเร็ว และหายตัวไปพร้อมกับจานบินเล็ก ๆ พอรุ่งเช้า เมื่อแอนเดียร์ และซิลเวีย ตื่นขึ้น ขณะที่ ดร.โจเซฟ แฮกแมน นายแพทย์เวรประจำห้องเดินมาตรวจผู้ป่วย ทั้งสองคนบอกว่า ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ดร.โจเซฟ รีบวิ่งไปหยิบเครื่องมือตรวจร่างกายมาตรวจจมูก ปาก และตา ของแอนเดียร์ (ตอนนั้นยังเป็นเด็กหญิง) ยิ่งตื่นตาตื่นใจมากขึ้นไปอีก หมอพบว่าในโพรงจมูกของเธอแห้ง มีกลิ่นน้ำหอมโชยมาจากจมูก หมอตรวจโดยทั่วไป รวมทั้งภายในลำคอของแอนเดียร์ ปรากฏว่าเธอหายจากโรคร้ายอย่างสนิท จึงได้โทรศัพท์ไปเรียกพ่อแม่มารับกลับบ้าน
นางแอนเดียร์ ยังมีประสบการณ์ว่าหมอ UFO มารักษาโรคให้เธออีกครั้งเมื่อเธอเป็นสาว ตอนอายุ 21 ปี คราวนี้เป็นสาวรุ่น เป็นนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ ที่มหาวิทยาลัยแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย เมืองซาคราเมนโต ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐ เธอป่วยเป็นมะเร็งเต้านมต้องผ่าตัด เธอนอนรอการผ่าตัดอยู่ที่โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย พอตกดึก หมอจากต่างดาวได้มาหาเธอ พวกเขาโผล่มาทางหน้าต่างเหมือนเมื่อ 13 ปีที่แล้ว พวกเขากล่าวคำว่า “สวัสดีแอนเดียร์
พวกเรามาเยี่ยมเธออีกครั้ง เรารู้ว่าเธอป่วยเป็นมะเร็ง เราจะรักษาให้เธออีกนะ” พวกเขาพูดเสร็จก็หยิบกล่องเครื่องมือออกมา ฉายแสงแบบแสงเลเซอร์ แต่แสงนวลใยคล้ายแสงจันทร์ส่องตรงที่หน้าอกเธอ คอ และใบหน้าของเธอ เพียงชั่วครู่พวกเขาก็เก็บเครื่องมือแล้วกล่าวคำอำลา “เธอหายแล้วล่ะ พรุ่งนี้เธอก็กลับบ้านได้แล้ว เราจะมาเยี่ยมเธออีก” พูดแล้วพวกเขาก็หายไปทางหน้าต่าง เมื่อตื่นเช้า แอนเดียร์ก็ล่ำลาหมอผู้ดูแลรักษา โดยบอกหมอว่าเธอหายป่วยแล้ว หมอที่รักษาก็คือ ดร.โทนี่ เพนเตอร์ ส่ายหัวไปมาเพราะไม่เชื่อ
คิดว่าเธอกลัวการผ่าตัด เธอจึงเปลี่ยนใจ หมอจึงพาเธอเข้าห้องตรวจ เพื่อฉายเอกซเรย์ดู ปรากฏว่าแอนเดียร์หายจากโรงมะเร็งเต้านมอย่างปลิดทิ้ง ไม่มีร่องรอยการฉายแสงหรือการบำบัดแต่อย่างใด ดร. โทนี่ได้แต่อุทานว่า “ประหลาด และมหัศจรรย์มาก” หมอเองแทบไม่เชื่อหู และไม่เชื่อสายตาตนเอง แต่ปรากฏการณ์อันลึกลับได้เกิดขึ้นแล้วที่โรงพยาบาลแห่งนั้น ผู้ป่วยรายหนึ่งออกความเห็นว่า หมอผีมารักษาตัวให้แอนเดียร์มากกว่า
ในกรณีนี้ ดร.แนต วิซุเวียน นักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญทางด้านดาราศาสตร์และจักรวาล ได้ให้ความเห็นว่า “มนุษย์ต่างดาวย่างก้าวมาสู่โลกของเราแล้ว โดยมนุษย์โลกของเรายังไม่รู้ตัว ผู้ที่ได้สัมผัสมีเพียงไม่กี่ราย เขาเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเหลวไหล ที่นางแอนเดียร์เล่าว่า มนุษย์ต่างดาวหัวล้าน ดวงตากลมโบ๋นั้น อาจเป็นเพียงเครื่องแต่งตัวภายนอก เพื่อป้องกันมลพิษบนพื้นโลก หรือในอวกาศก็เป็นได้ หรือมนุษย์ต่างดาวแต่งตัวแปลก ๆ เพื่อสร้างภาพลวงตาก็เป็นไปได้"
ตัวอย่างที่สอง เป็นรายของนายริช ซูมากิ อายุ 48 ปี ชาวอเมริกัน เชื้อสายญี่ปุ่น อดีตเป็นทหารผ่านศึกสงครามเวียตนาม เขาถูกพวกเวียตกงยิงที่ขา จนขาเสียกลับไปอเมริกาและรักษาอยู่หลายปี ต่อมาเป็นอัมพาต ขาข้างซ้ายที่ถูกยิงเคลื่อนไหวไม่ได้ ร่างกายเหมือนตายไปแถบหนึ่ง เวลาประมาณสองทุ่ม เขานั่งรถเข็นแบบล้อเลื่อนอัตโนมัติ และเข็นอยู่ใกล้ ๆ บ้าน ที่ติดกับสวนสาธารณะในเมืองเซนต์หลุยส์ รัสมิสซูรี่ พอดีมีมนุษย์ประหลาดสองคนเดินมาหาเขาและบอกว่า “พวกเราเป็นหมอจากต่างดาว จะรักษาโรคให้คุณตกลงไหม?” นางแอนเดียร์ เดวิส ผู้ที่เชื่อว่าตนได้รับการรักษาจากหมอต่างดาว
เขาไม่ตอบ แต่สองคนก็เข้ามาประชิดตัวเขา คนหนึ่งใช้ไฟฉาย ฉายไปตามตัวเขา แล้วบอกว่าเส้นเอ็นของเขาทำงานผิดปกติ เซลล์สมองไม่ทำงาน ขาดเลือดและแร่ธาตุ หมอต่างดาวคนหนึ่งจึงนวดศีรษะ แขน และขาของเขา สักพักหนึ่งเขารู้สึกขาสั่นไปมา จากนั้นคนหนึ่งก็นำกระบอกคล้ายไฟฉายแต่รูปร่างเป็นเหลี่ยม ฉายแสงไฟใส่ศีรษะ และแขนขาของเขา แล้วใช้กระบอกนั้นนวดตามตัว พร้อมพูดขึ้นว่า “คุณหายแล้ว กลับไปนอนให้สบายพรุ่งนี้ก็จะหายเป็นปกติ” ส่วนอีกคนก็พูดว่า “คุณอยากเดินได้ไหม ?” “อยากเดินได้สิครับ” จากนั้นทั้งสองคนก็ยกเขาทั้งรถเข็น โยนไปในอากาศสูงสัก 4 – 5 ฟุต
และเขาตกไปที่สนามหญ้าห่างจากที่เดิม 5 – 6 เมตร เขาตกกระเด็นออกจากรถเข็น ล้มกลิ้งนอนอยู่บนพื้นหญ้า มนุษย์ต่างดาวบอกว่า “คุณลุกเดินได้แล้ว พวกเราไปละนะคุณซูมากิ” พวกเขาพูดจบก็ลอยตัวขึ้นบนอากาศที่มองเห็นชัด เพราะแสงสว่างจากเสาไฟฟ้าใกล้ ๆ จานบินรูปร่างทรงกลมลำเล็ก ๆ มารับพวกเขา จากนั้นก็บินหายลับไปในท้องฟ้าเพียงชั่วพริบตา นายซูมากิหายตกตะลึง แล้วลองลุกขึ้นยืน ก็ยืนได้สำเร็จ จากนั้นเขาก็ประคองตัวเดินกลับบ้านได้ โดยทิ้งรถเข็นไว้ที่สวนสาธารณะ คนในครอบครัวเห็นเขาเดินได้ต่างก็แปลกใจ
หลายคนถามว่า “คุณทำอย่างไรจึงหาย และหายไปไหนมา” เขาไม่ตอบแต่กลับเข้าห้องนอน ปิดประตูห้องนอนทันที คืนนั้นเขานอนหลับฝันดีตลอดคืน รุ่งเช้าตื่นขึ้นมาเขารู้สึกสดชื่น สามารถเดินไปเดินมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแก่เขา อาการปวดเมื่อยที่เกิดขึ้นเป็นประจำตามนิ้วมือนิ้วเท้าและส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้หายเป็นปลิดทิ้ง เขาได้บอกกับทุกคนในครอบครัวว่า “หมอจากต่างดาวรักษาอัมพาตให้ผมหายเพียงชั่วพริบตา ขอให้ทุกคนเก็บไว้เป็นความลับ เพราะประเดี๋ยวคนอื่น ๆ จะหาว่าผมบ้า”
อีกเรื่องหนึ่ง เป็นรายของนายจูเนียร์ วอลล์ อายุ 23 ปี เป็นนักซิ่ง ชอบขับรถเร็วและขับรถแข่งสมัครเล่น คืนหนึ่งเขาขับรถมาด้วยความเร็วบนถนนหลวงสายที่ 99 ซึ่งวิ่งช่วงเมืองซาคราเมนโต รัฐแคลิฟอร์เนีย กำลังมุ่งสู่เมืองรีโน่ รัฐเนวาด้า ในช่วงกิโลเมตรที่ 225 รถของเขาเสียหลักพลิกคว่ำไปตกข้างถนนหลวง ประตูรถเปิด เขากระเด็นออกไปนอกรถยนต์ ศีรษะกระแทกกับเศษดิน เศษหิน จนศีรษะแตกเป็นแผลได้เลือด ตามตัวถลอกปอกเปิก หัวเข่าแตก เหมือนว่าหัวเข่าหลุดออกจากข้อต่อของเขา เขาลุกไม่ได้ แผลใต้หัวเขาเหวอะหวะเลือดไหลไม่หยุด
เขาตกใจมาก ปวดและเจ็บแทบทนไม่ไหว จะลุกก็ลุกไม่ขึ้น เขามองเห็นแสงกะพริบ ๆ อยู่บนท้องฟ้า แล้วพุ่งมาที่ยอดภูเขา เขารู้สึกดีใจมากคิดว่ามีเครื่องบินตรวจการณ์บินผ่านมา เขาอาจได้รับความช่วยเหลือจากตำรวจสายตรวจ แต่เขาไม่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของเครื่องบินเลย มองเห็นมีแต่แสงหลากสีจากวัตถุประหลาดคล้ายกับจานบิน
ขณะกำลังเพ่งอยู่นั้น ก็มีแสงคล้ายแสงลำกล้องจากกระบอกไฟฉาย แต่แสงแรงมากจนเขาตาพร่าไปหมด แสงส่องตรงมาที่ตัวเขา ขณะที่เขางุนงงอยู่นั้น ก็มีมนุษย์หน้าตาประหลาดสองคน ศีรษะโล้นและใหญ่กว่าของคนเรา ดวงตากลมโบ๋ สูง 7 ฟุตขึ้นไป มายืนตรงหน้าเขาแล้วพูดว่า “ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องตกใจ พวกเราจะช่วยคุณ” จากนั้น คนหนึ่งใช้เข็มแหลม ๆ คล้ายเข็มฉีดยาแทงขาเขา ทำให้เขาชาและหายเจ็บทันที อีกคนเอามีดแหลมและคมมากปาดขาเขาตรงที่เป็นแผลและหัวเข่า พร้อมกับพูดว่า “กระดูกของคุณเลื่อน เอ็นขาดไปสองเส้น แต่ไม่เป็นไร” เขาได้รับการทำศัลยกรรมจากมนุษย์ประหลาดสองคนนั้น โดยใช้แสงจากไฟฉาย ฉายไปตามบาดแผล มีความร้อนเล็กน้อย มองเห็นมีควันเกิดขึ้นตรงที่ถูกฉายแสง สักครู่บาดแผลของเขาก็หายสนิท เกือบจะเป็นปกติ เพียงชั่วครู่เขาก็พูดว่า “คุณลุกขึ้นเดินได้ตามปกติ ไหนคุณลองเดินตามเรามาซิ”
มนุษย์ต่างดาวสั่งนายจูเนียร์ให้ลุกเดิน และนายจูเนียร์ก็เดินได้โดยไม่รู้สึกเจ็บปวดอีก พวกเขาทั้งสองช่วยกันยกรถยนต์ที่พลิกคว่ำขึ้นบนถนนแล้วพูดว่า “คุณเข้าไปขับรถเดินทางต่อไปได้ รถคุณไม่เป็นอะไร” นายจูเนียร์ เดินเข้าไปนั่งในที่คนขับ สตาร์ทรถยนต์เสียงดังแกร็ก ๆ และไม่ติด พวกเขาคนหนึ่งไปเปิดกระโปรงหน้ารถยนต์
แล้วใช้มือชี้ไปที่เครื่องยนต์ ทันใดนั้นรถก็ติดทันที “เอาละ คุณขับรถไปได้และอย่าขับรถเร็วเกินอัตรา เพราะจะทำให้คุณตายได้” พวกเขาพูดจบก็หายตัวไปกับความมืดข้างทาง นายจูเนียร์พูดตามหลังไปว่า “ขอบคุณ ๆ” และไม่ทันที่จะได้สอบถามว่าพวกเขาเป็นใครมาจากไหน พวกเขาได้อันตราธานหายไปอย่างฉับไวจนมองไม่ทัน นายจูเนียร์ขับรถไปถึงจุดหมายได้ตามปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้าพวกมนุษย์ประหลาดไม่ช่วยเหลือผ่าตัดให้เขา
โดยใช้มีดเพียงอันเดียวผ่าตัด และเย็บบาดแผลให้เขาด้วยแสงเลเซอร์จากกระบอกไฟฉายให้เขา ป่านนี้เขาคงตายไปแล้วเพราะทนบาดแผลไม่ไหวแห่งความเจ็บปวดไม่ไหว หรืออาจกลายเป็นอาหารของสัตว์ร้ายในป่าทึกระหว่างทางไปแล้วก็ได้ เขาครุ่นคิด และบอกตัวเองว่า นั่นต้องเป็นมนุษย์ต่างดาวแน่นอน












