2 น.ศ.ไทยถูกแทงตายคาห้องพักที่สหรัฐฯ
เมื่อเช้าวันที่4 กันยายน ที่่ผ่านมา มีรายงานว่า เกิดเหตุคดีฆาตกรรม ในอพาร์ทเมนต์เเห่งหนึ่ง ที่เมืองซีแอตเทิล วอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ภายในห้องพักพบศพหญิงไทย 2 ราย สภาพถูกแทงตามร่างกายจนเสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่า เป็นนักศึกษาหญิงไทยที่หายตัวไปก่อนหน้านี้
โดยเวบไซต์ siamtownus.com ได้รายงานระบุว่า เมื่อเวลา 9.20 น. ของเช้าวันอังคารที่ 4 กันยายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจของเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตันและรถพยาบาลฉุกเฉินได้มุ่งหน้าไปยัง Malloy Apartments เลขที่ 4423 15th Avenue Northeast., Seattle, WA 98105 หลังจากที่ผู้จัดการอพาร์ทเมนต์ได้โทรแจ้งหลังเข้าตรวจสอบห้องพัก ซึ่งคาดว่ามีการแจ้งจากเพื่อนของนักศึกษาไทยสองรายว่าขาดการติดต่อไปกว่า 72 ชั่วโมง
หลังจากตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าได้พบศพหญิงสองรายเสียชีวิตในห้องพัก สภาพถูกแทงตามร่างกายอย่างสาหัส คาดว่าเป็นนักศึกษาหญิงไทย ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังไม่มีการระบุชื่อหรือสาเหตุของการเสียชีวิต อีกทั้งยังไม่มีข้อมูลของผู้ต้องหาและยังไม่มีการจับกุมใดๆเกิดขึ้น
อพาร์ทเมนต์ดังกล่าวตั้งอยู่ติดกับมหาวิทยาลัยวอชิงตัน (University of Washington) โดยส่วนใหญ่ผู้พักอาศัยจะเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัย โดยรายงานข่าวยังระบุอีกว่าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีนักศึกษาไทยโทรหาเพื่อนที่ไทยและเล่าว่า รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตนเอง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังไม่มีการสรุปว่าเป็นนักศึกษารายเดียวกับหญิงสองรายที่เสียชีวิต โดยทั้งหมดต้องรอสรุปจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้งหนึ่ง
ด้านนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จ.ปทุมธานี เป็นอาของ น.ส.กรกมล หลีนวรัตน์ หรือน้องแอ๋ม นักศึกษาป.โท กล่าวว่า หลานสาวเสียชีวิตคาห้องพักในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางมหาวิทยาลัยที่หลานสาวไปเรียนต่อปริญญาโท เห็นว่าน้องแอ๋มไม่ได้ไปเรียนหนังสือกว่า 10 วันแล้ว จึงติดต่อกลับมายังหอพัก เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเปิดห้องไป พบว่าน้องแอ๋มถูกแทงเสียชีวิต พร้อมเพื่อนรูมเมตที่เป็นสาวทอม แต่ตำรวจสหรัฐยังไม่ยืนยันถึงสาเหตุและรายละเอียดของคดี
นายกฤษฎากล่าวเพิ่มเติมว่า น้องแอ๋ม เรียนจบนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เกียรตินิยมอันดับสอง และได้ไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในบอสตัน จนจบปริญญาโทด้านกฎหมาย ต่อมาก็ไปเรียนต่อปริญญาอีกใบที่มหาวิทยาลัยในซีแอตเทิล จนกระทั่งมาเสียชีวิตดั่งกล่าว
โดยเมื่อช่วงวันแม่ที่ผ่านมา น้องแอ๋มได้เดินทางกลับบ้าน มาพบคุณพ่อและพี่ๆ หลังจากนั้นได้เดินทางกลับไปเรียนต่อ เมื่อประมาณ 10 วันที่แล้ว จนกระทั่งไม่สามารถติดต่อได้
โดยปกติแล้วหลานสาวไม่เคยเกเรหรือติดต่อไม่ได้ ทางมหาวิทยาลัยแจ้งมาว่าไม่ได้ไปเรียนหนังสือ ซึ่งทำให้ครอบครัวกังวลใจมาก หอพักจึงเข้าไปตรวจสอบในห้องและพบว่าเป็นศพเสียชีวิตแล้ว
ส่วนคุณพ่อของน้องแอ๋มยังทำใจไม่ได้ และคุณแม่ได้เสียชีวิตไปแล้ว ตอนนี้ต้องรอตำรวจสหรัฐตรวจสอบ สืบสวนหาข้อเท็จจริงก่อน ตอนนี้ครอบครัวเตรียมประสานงานสถานทูตไทยประจำประเทศสหรัฐ ในการช่วยตรวจสอบและช่วยเหลือแล้ว
ขณะที่บรรดาผู้อาศัยในอพาร์ตเมนต์ต่างพูดคุยกันถึงความรู้สึกตกใจและวิตกกังวล หลังจากที่ตำรวจแจ้งว่าพบศพสองสาวในอพาร์ตเมนต์ แอนนา ซิเนมอน เพื่อนบ้านให้สัมภาษณ์ฟ็อกซ์นิวส์ ว่า “น่ากลัวมากที่ได้ยินข่าว เพราะว่าอยู่ใกล้ที่ที่ฉันอยู่มากค่ะ”
ด้าน ริชาร์ด จอห์นสัน เพื่อนบ้านอีกคนกล่าวว่า เหตุการณ์นี้ทำให้อึ้งและคิดไปได้ว่า นี่เราอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัยอย่างที่คิดหรือไม่
อย่างไรก็ตามได้มีการสอบถามกับเพื่อนนักศึกษาด้วยกันว่า หมือนมีลางร้ายบอกเหตุ เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา น้องแอ๋มได้โทรศัพท์มาหาญาติที่ประเทศไทยว่า รู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิต กลัวว่าจะเกิดเหตุร้ายหลังจากนั้นก็ได้ขาดการติดต่อไป ขณะที่สำนักข่าวเอพีรายงานว่าอาจจะเกิดความขัดเเย้งส่วนตัว เนื่องจากพบว่ากลอนประตูถูกล็อคจากด้านใน แต่ก็ไม่ตัดทิ้งประเด็นคนร้ายที่มาจากบุคคลภายนอก ทางตำรวจฝ่ายสอบสวน มาร์ก เจมิสัน กล่าวว่า จะยังไม่เปิดเผยชื่อผู้ตายจนกว่าการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้นสมบูรณ์




















