ปารีสเดือด! ฝรั่งเศสจับกุมม็อบเสื้อกั๊กเหลือง 700 ราย ส่งตำรวจ 89,000 นายคุมทั้งประเทศ

8 ธ.ค. ที่ผ่านมา สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ก่อนการประท้วงของม็อบ “เสื้อกั๊กเหลือง” ตำรวจฝรั่งเศสมีการจับกุมผู้ประท้วง 317 รายล่วงหน้าภายใต้ “มาตรการป้องกัน” เพื่อหลีกเลี่ยงการยกระดับการประท้วง และส่งกำลังตำรวจ 89,000 นายไปประจำการทั่วประเทศเพื่อควบคุมสถานการณ์ หลังจากการประท้วงช่วงสุดสัปดาห์ดำเนินมาเป็นสัปดาห์ที่ 4 แม้ว่าทางรัฐบาลฝรั่งเศสจะประกาศยอมระงับการขึ้นภาษีน้ำมันแล้วก็ตาม
.
ในกรุงปารีส มีตำรวจถูกส่งมาประจำการราว 8,000 นาย รวมทั้งมีการใช้ยานพาหนะติดอาวุธวิ่งบนถนนฌ็องเซลีเซ่ ใจกลางกรุงปารีส และยิงแก๊สน้ำตาระหว่างปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุม
.
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ประท้วงไม่พอใจที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มคนรวยของฝรั่งเศส จนค่าครองชีพของชนชั้นล่างพุ่งสูงขึ้นจนไม่อาจยอมรับได้ จึงออกมารวมตัวกันเพื่อประท้วงรุนแรงบนถนนฌ็องเซลิเซ่ และการประท้วงเมื่อวานนี้ (8 ธ.ค.) ได้กลายเป็นเหตุจลาจลที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปีของฝรั่งเศส
.
เจ้าหน้าที่ระบุว่ามีผู้ชุมนุมออกมาร่วมประท้วงราว 31,000 คนทั่วประเทศ และมีประชาชนราว 700 คนถูกควบคุมตัว โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ประท้วงในกรุงปารีส
.
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอย่างหอไอเฟล พิพิธภัณธ์ลูฟวร์ พิพิธภัณฑ์ดอร์เซ่ รวมถึงโรงภาพยนตร์ ห้องสมุด รถไฟใต้ดิน และห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ต่างประกาศปิดให้บริการในวันเสาร์ที่ผ่านมา นอกจากนี้การแข่งขันฟุตบอลและการแสดงคอนเสิร์ตล้วนถูกยกเลิก
.
สถานทูตของประเทศต่างๆ ประจำกรุงปารีสได้ออกประกาศเตือนให้ประชาชนของประเทศตนเองหลีกเลี่ยงการเดินทางมาเยือนฝรั่งเศสหรือเลื่อนการเดินทางออกไป
.
สถานีโทรทัศน์ช่อง BFMTV รายงานว่าผู้ประท้วง 32 รายในจำนวนทั้งหมดที่ถูกจับกุม ถูกตั้งข้อหาวางแผนก่อความรุนแรงและสร้างความเสียหาย โดยตำรวจพบก้อนหิน ลวดสลิง และค้อนในกระเป๋าของพวกเขาเป็นหลักฐาน หากพิสูจน์ได้ว่ามีความผิดจริง พวกเขาอาจเผชิญโทษจำคุก 1 ปีและปรับเป็นเงิน 30,000 ยูโร (1.12 ล้านบาท