ฆาตกรต่อเนื่องหญิงสุดโหดในประวัติศาสตร์
ภายใต้ความงามและความอ่อนโยนของเพศหญิง พวกเธอเหล่านี้กลับมอบความตายให้กับเหยื่อได้อย่างเลือดเย็น
Elizabeth Bathory
Elizabeth เป็นที่รู้จักในฉายา"เคานท์เตสเลือด" และมักจะถูกมองว่าเป็นแวมไพร์ในยุคแรกๆ เนื่องจากในอดีต Elizabeth มีชื่อเสียงจากการทรมานและสังหารทาสสาวและหญิงสาวชาวนาจำนวนมากภายในปราสาทของเธอ และเพื่อทำให้เธอมีความสุข สามีของเธอก็สร้างห้องทรมานเอาไว้ให้เธอฆาตกรรมหญิงสาวจำนวนนับไม่ถ้วน
Elizabeth มักจะลักพาตัวเหยื่อมาจากเมืองใกล้ๆ หรือล่อลวงพวกเธอเข้ามาทำงานในปราสาท ก่อนจะกระชากชิ้นส่วนออกจากร่าง ฝังหมุดหรือเข็มใต้เล็บของพวกเธอ เพื่อจะดื่มและอาบเลือดของเหยื่อผู้น่าสงสารเหล่านั้น เพราะเชื่อว่ามันจะทำให้เธออ่อนเยาว์ไปตลอดกาล และที่เลวร้ายกว่านั้นคือเธอบังคับให้หญิงสาวบางคนปรุงอาหารจากเนื้อของตัวเองและสั่งให้พวกเธอกินมันเข้าไปด้วย
แม้ครอบครัวของหญิงสาวเหล่านั้นจะขอความช่วยเหลือจากเทศบาล แต่การกระทำผิดของเธอก็ยังคงถูกมองข้ามไปเป็นเวลานานหลายปี จนกระทั่งเมื่อสามีของเธอเสียชีวิตลง ความรุนแรงของเธอก็ยิ่งเพิ่มจำนวนและความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเมื่อ Elizabeth หันความสนใจจากหญิงสาวที่ยากจนในฮังการีไปยังหญิงสาวชั้นสูงแทน จึงทำให้กษัตริย์เข้ามาแทรกแซงการกระทำของเธอ จนเธอถูกนำขึ้นไต่สวนด้วยคดีฆาตกรรมถึง 80 คดี ในปี 1611 และถูกขังไว้ในปราสาทของตัวเองจนเสียชีวิตในปี 1614
Vera Renczi
Vera Renczi เป็นหญิงสาวชาวโรมาเนียผู้มั่งคั่งที่สังหารคนรักของเธอเป็นจำนวนมาก ก่อนจะเก็บศพของพวกเขาไว้ในโลงศพที่ห้องใต้ดินภายในบ้าน เนื่องจากหญิงสาวผู้งดงามคนนี้หวาดกลัวที่จะถูกผู้ชายทิ้งหรือถูกนอกใจ เธอจึงวางยาพิษพวกเขาด้วยสารหนูจนเสียชีวิตและเก็บร่างของพวกเขาเอาไว้ .. เพราะชายที่ตายแล้วจะไม่มีวันทอดทิ้งเธอ!
ท้ายที่สุดการกระทำของ Vera ก็ถูกเปิดเผยเมื่อภรรยาของชู้รักของเธอลอบติดตามสามีไปยังบ้านของ Vera และพบว่าเขาไม่กลับออกมาอีกเลย เธอจึงทำการแจ้งตำรวจ และเมื่อตำรวจทำการสืบสวนก็พบกับโลงศพจำนวนกว่า 32 โลงในห้องใต้ดินภายในบ้านของ Vera นอกจากศพของคนรักแล้ว เธอยังสารภาพว่าได้สังหารสามีและลูกของเธออีกด้วย เพราะพวกเขาพยายามจะแบล็คเมล์เธอหลังจากค้นพบว่ามีอะไรอยู่ในห้องใต้ดิน
Genene Jones
สิ่งที่ทำให้ Genene แตกต่างจากฆาตกรคนอื่นๆ ก็คือเธออาจจะมีโอกาสออกมาเดินบนท้องถนนอีกครั้งในซักวันหนึ่ง ในขณะทำงานเป็นพยาบาลที่ Bexar County Medical Center ในเท็กซัสตอนยุค 1970 และ 1980 เธอลักลอบฉีดยาเพื่อฆาตกรรมคนไข้ไประหว่าง 11 - 46 คน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเด็ก และเหยื่อของเธออาจจะมีจำนวนเยอะกว่านั้น แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้เพราะโรงพยาบาลได้ทำลายบันทึกทางการแพทย์ทั้งหมดเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ
Genene ทำการสารภาพเป็นครั้งแรกในปี 1985 ว่าได้ทำการฉีดยาเด็กๆ ด้วยเฮพารินและซักซินิลโคลีน เพื่อทำให้พวกเขาป่วยหนักหลังจากนั้นเธอก็จะพยายามเข้ามาช่วยเหลือเด็กๆ เพื่อทำให้ตัวเองดูเหมือน"ฮีโร่" ยกเว้นเสียแต่ว่าเมื่อเธอล้มเหลวที่จะช่วยพวกเขา เด็กๆ เหล่านั้นก็เสียชีวิตลง
ในปี 1985 เธอถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีฆาตกรรม Chelsea McCleallan และพยายามฆ่า Ronaldo Santos เธอถูกตัดสินจำคุก99 ปี แต่อาจได้รับทัณฑ์บนในปี 2018 เนื่องจากมีช่องโหว่ในกฎหมายของรัฐเท็กซัส ทีมีขึ้นเพื่อป้องกันการแออัดยัดเยียดในคุก
Jane Toppan
Jane Toppan เกิดในปี 1857 และมีวัยเด็กที่ลำบากยากจน เธอถูกเลี้ยงดูโดยพ่อที่ติดเหล้าอย่างหนักหลังจากแม่ของเธอเสียชีวิตลง หลังจากนั้นเธอและน้องสาวก็ถูกพรากจากพ่อและถูกส่งไปยังบ้านพักหญิงบอสตันจนกว่าจะมีคนรับพวกเธอไปเลี้ยง แต่ Jane รู้ตัวว่าคงไม่มีใครอยากแต่งงานกับเธอ เธอจึงกลายเป็นพยาบาลตั้งแต่อายุยังน้อย และในฐานะพยาบาลที่เป็นที่ต้องการในโรงพยาบาลหลายแห่ง เธอได้ลงมือทำสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวกับคนไข้ของเธอ
Jane มักจะทำให้คนไข้มีสติและหมดสติด้วยยาบ่อยๆ และมักจะฆาตกรรมพวกเขาด้วยการฉีดมอร์ฟีนและอะโทรพีนเกินขนาดเมื่อเธอรู้สึก"เบื่อ" สิ่งที่น่าสยดสยองคือการที่เธอปีนขึ้นไปนอนบนเตียงของคนไข้หลังจากถูกฉีดยา เพราะเธอกล่าวในภายหลังว่าการได้นอนบนเตียงกับคนที่ใกล้ตายนั้นทำให้เธอรู้มีอารมณ์
โชคร้ายที่ในเวลานั้นไม่มีใครสงสัยการกระทำของเธอเลยเพราะนิสัยอันสดใสของเธอ ทำให้เธอฆาตกรรมคนไข้ไปกว่า 31 รายภายใต้รอยยิ้มนั้น และเธอก็อาจจะหนีรอดไปได้ถ้าเธอไม่พุ่งเป้าไปยังการฆาตกรรมคนอื่นๆ นอกกำแพงโรงพยาบาลเสียก่อน Jane ถูกประกาศว่าวิกลจริตและถูกส่งไปยังโรงพยาบาลบ้า จนกระทั่งเสียชีวิตที่นั่นในปี 1938
Darya Nikolayevna Saltykova
แม้จะไม่แน่ใจว่าเหยื่อที่ขุนนางสาวชาวรัสเซียคนนี้ฆาตกรรมไปมีจำนวนเท่าไหร่ แต่ก็ประมาณได้ว่าน่ามีจำนวนมากกว่า 100 คน เพราะในระหว่างปี 1757 - 1764 เธอฆาตกรรมและทรมานทาสจำนวนมากของเธอจนพวกเขาถึงแก่ความตาย โดยที่เหยื่อส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง มีคนมากมายร้องเรียนเกี่ยวกับความตายอันน่าสยดสยองที่เกิดขึ้นในบ้านของเธอเป็นเวลานานหลายปี แต่ก็ถูกปฏิเสธและแม้กระทั่งคนร้องเรียนเองก็ถูกลงโทษเพราะพูดจาใส่ร้ายขุนนางชั้นสูง
ท้ายที่สุดญาติของเหยื่อก็รวบรวมคำร้องเข้าด้วยกันและยื่นเรื่องแก่แคทเธอรีนมหาราชินี ท้ายที่สุด Darya ก็ถูกตัดสินให้รับโทษในมอสโคว์ และห้อยป้ายเอาไว้ที่คอซึ่งเขียนว่า "ผู้หญิงคนนี้ได้ทรมานและฆาตกรรม" เธอถูกกักขังเอาไว้ในห้องใต้ดินของคอนแวนต์ จนกระทั่งเสียชีวิต แม้เธอจะถูกแจ้งข้อหาฆาตกรรมผู้คน 38 ราย แต่การสืบสวนเพิ่มเติมก็ค้นพบศพที่ตายอย่างน่าสงสัยจำนวนมากถึง 140 ศพ ภายใต้ที่พักของเธอ
Miyuki Ishikawa
หญิงผดุงครรภ์และฆาตกรต่อเนื่องชาวญี่ปุ่นรายนี้อาจฆาตกรรมเด็กทารกไปมากถึง 169 คน ทำให้เธอเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่มีเหยื่อจำนวนมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลสำหรับหญิงตั้งครรภ์ในยุค 1940 Miyuki มองเห็นพ่อแม่มากมายที่มีลูกที่พวกเขาไม่สามารถเลี้ยงดูได้ และในขณะนั้นการบริจาคทรัพยากรต่างๆ ก็มีน้อยมาก เธอจึงตัดสินใจว่าจะเป็นการดีกว่าสำหรับเด็กทารกถ้าถูกฆาตกรรมไปเสีย และด้วยเหตุผลนี้ทำให้มีเด็กทารกถูกฆาตกรรมเป็นจำนวนมากกว่า 100 ราย
หญิงผดุงครรภ์คนอื่นๆ ต่างก็รับรู้ถึงสิ่งที่ Miyuki ลงมือทำ แต่รัฐบาลก็ไม่ได้ลงมือทำอะไรเพื่อหยุดยั้งเธอ แม้จะมีพยาบาลมากมายที่ออกจากโรงพยาบาลไปด้วยความรังเกียจ แต่ Miyuki ก็ขอความช่วยเหลือจากสามีให้ช่วยปกปิดพ่อแม่ของเด็กจากการตายของลูกๆ ของพวกเขาต่อไป ทั้งคู่จะออกใบมรณบัตรปลอมและรีดไถเงินจากพ่อแม่ของเหยื่อ โดยอ้างว่าการจ่ายเงินให้พวกเขานั้นถูกกว่าค่าเลี้ยงดูเด็กเสียอีก
แม้จะมีศพของเด็กแรกเกิดจำนวนมากถูกพบหลังจากมีการค้นหาทั่วเมือง แต่ Miyuki ก็ถูกตัดสินให้จำคุกเพียง 8 ปีเท่านั้น และโทษก็ลดเหลือเพียงครึ่งเดียวหลังจากเธอยื่นอุทธรณ์
Cr.ranker
Moodymuay
























