คดีฆาตกรรมขั้นบันได - จากเรื่องจริงสู่สารคดีของเน็ตฟลิกซ์
'คดีฆาตกรรมขั้นบันได'จากเรื่องจริงสู่สารคดีของเน็ตฟลิกซ์ ที่บอกเล่าเรื่องราวของไมเคิล ปีเตอร์สัน และคดีฆาตกรรมสุดประหลาด
ในปี 2001 แคทลีน ปีเตอร์สันถูกพบเสียชีวิตอยู่ที่ชั้นล่างของบันไดที่บ้านในนอร์ท แคโรไลนา ซึ่งเธออยู่ร่วมกับสามีและนักเขียนนวนิยายที่ชื่อไมเคิล ปีเตอร์สัน "ภรรยาของผมเกิดอุบัติเหตุ" ไมเคิล โทรแจ้งกับ 911 "เธอยังคงหายใจอยู่ เธอตกบันได" หลังจากนั้นไม่นานไมเคิลก็ถูกแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา
การไต่สวนตามมาด้วยเรื่องราวอันพลิกผันและทฤษฎีที่แสนผิดปกติ ทั้งการโยนสาเหตุการเสียชีวิตของแคทลีนไปที่การจู่โจมของนกฮูก และการเชื่อมโยงกับคดีฆาตกรรมนี้กับคดีอื่น ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนี้ได้รับการบันทึกไว้ในสารคดีความยาว 13 ตอนที่ชื่อ 'คดีฆาตกรรมขั้นบันได' และนี่คือบทสรุปเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น
การเสียชีวิตที่คล้ายคลึงกัน
ก่อนไมเคิลจะพบกับแคทลีน ย้อนกลับไปในปี 1986 เขาอาศัยอยู่กับภรรยาคนแรกที่ชื่อแพทริเซีย ปีเตอร์สัน ที่ประเทศเยอรมัน แพทริเซียเป็นครูโรงเรียนประถมศึกษาในฐานทัพทหารอเมริกันที่เยอรมัน ทั้งคู่มีลูกชาย 2 คนที่ชื่อเคลย์ตันและทอดด์ ในขณะอยู่ต่างประเทศแพทริเซียและไมเคิลได้เป็นเพื่อนกับเอลิซาเบธ แร็ทลิฟฟ์ แม่ม่ายของลูกสาว 2 คน ที่สามีของเธอถูกฆ่าตายขณะปฏิบัติภารกิจทางทหาร
ทั้ง 2 ครอบครัวสนิทกันเป็นอย่างดี จนกระทั่งในตอนเช้าของเดือนพฤศจิกายน 1985 เอลิซาเบธก็ถูกพบเสียชีวิตอยู่ที่ชั้นล่างของบันไดในบ้าน และในตอนเย็นก่อนวันที่เธอจะเสียชีวิตนั้น ไมเคิลก็ไปที่บ้านของเธอเพื่อช่วยพาลูกๆ ทั้ง 2 ซึ่งก็คือมาร์กาเร็ตและมาร์ธาเข้านอน
ในตอนแรกทุกคนดูจะเชื่อว่าเอลิซาเบธเสียชีวิตจากการตกบันได จนกระทั่งแคทลีนถูกพบว่าเสียชีวิตในวิธีที่คล้ายคลึงกัน เมื่อพี่สาวของเอลิซาเบธได้ยินเกี่ยวกับความตายของแคทลีน เธอก็โทรหาตำรวจที่รับผิดชอบคดีนี้ทันที เธอบอกกับตำรวจว่า "คุณได้ตระหนักหรือไม่ว่าสิ่งเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับแม่ของมาร์กาเร็ตและมาร์ธา และไมเคิล ปีเตอร์สันเป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับเธอ" การเสียชีวิตของเอลิซาเบธ ถูกรื้อขึ้นมาตรวจสอบอีกครั้งและถูกพิจารณาในฐานะคดีฆาตกรรม แม้คณะลูกขุนในคดีของแคทลีนจะกล่าวว่าพวกเขาแยกการเสียชีวิตของทั้งคู่ออกจากกันในขณะตัดสินคดีก็ตาม
ชีวิตสุขสันต์ในเดอร์แฮม
หลังจากการเสียชีวิตของเอลิซาเบธ ครอบครัวปีเตอร์สันก็รับเลี้ยงดูมาร์กาเร็ตและมาร์ธาต่อไป ไมเคิลและลูกๆ ย้ายกลับมาที่สหรัฐอเมริกาเมื่อชีวิตแต่งงานของแพทริเซียและไมเคิลเริ่มพังทลายลงในกลางยุค 80 มาร์กาเร็ตและมาร์ธาเป็นผู้ชักนำให้ไมเคิลได้รู้จักกับแคทลีน-ภรรยาคนถัดมาของเขา เนื่องจากทั้งคู่เป็นเพื่อนเล่นกับลูกสาวของแคทลีนที่ชื่อเคทลิน ซึ่งอาศัยอยู่บนถนนเดอร์แฮม ในนอร์ท แคโรไลนา จนกระทั่งในปี 1987 ทั้ง 2 ครอบครัวก็ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน
ไมเคิลเป็นอดีตนักคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์และเขียนนวนิยายจำนวนหนึ่ง ซึ่งรวมทั้งหนังสือยอดนิยมในยุค 1990 ที่ชื่อ "WWII-era book A Time of War" ไมเคิลได้รับเงินล่วงหน้าจากสำนักพิมพ์มากกว่าครึ่งล้านดอลลาร์สำหรับการเขียนหนังสือ 1 เล่ม ส่วนแคทลีนเป็นผู้บริหารบริษัทโทรคมนาคม ทั้งคู่ร่วมกันเลี้ยงดูเด็กๆ ในบ้านหลังใหญ่ ไมเคิลกล่าวว่า "เราอยู่ด้วยกันมานานกว่า 14 ปี และมีความสุขในทุกๆ ปี"
การเสียชีวิตของแคทลีน
ครอบครัวใหญ่อันแสนสุขได้แตกสลายลงในวันที่ 9 ธันวาคม 2001 เมื่อไมเคิลโทรหา 911 เพื่อแจ้งเหตุร้ายที่เกิดกับแคทลีน ในตอนเย็นของวันนั้น ไมเคิลกล่าวว่าทั้งคู่กินอาหารเย็นร่วมกัน ก่อนจะดูหนังเรื่อง America’s Sweethearts และย้ายไปนั่งเล่นที่ริมสระน้ำ ไมเคิลอ้างว่าแคทลีนแยกตัวไปเข้านอนก่อนในขณะที่เขาสูบไปป์อยู่ด้านนอก ทนายความของไมเคิลอ้างว่าแคทลีนดื่มไวน์และกินยาแวเลียม (ยาคลายกังวล) เข้าไป ก่อนจะพยายามเดินขึ้นบันไดที่มีแสงน้อยและตกลงมา ก่อนจะเสียเลือดจนเสียชีวิต
แต่เมื่อนักสืบอาร์ท ฮอลแลนด์ แห่งสถานีตำรวจเดอร์แฮมมาถึงที่บ้านของครอบครัวปีเตอร์สัน สถานที่เกิดเหตุก็สร้างความสงสัยให้กับเขาในทันที แคทลีนนอนแผ่อยู่ที่พื้นในขณะที่หัวของเธอพาดอยู่ที่บันไดด้านหลัง นอกจากนี้ตำรวจยังเห็นขวดไวน์และแก้ว 2 ใบบนเคาน์เตอร์ครัวที่เหมือนจะบอกเป็นนัยๆ ว่าทั้งคู่ได้ผ่านยามเย็นอันผ่อนคลายและนั่งจิบไวน์ด้วยกัน ยกเว้นแต่ว่ารอยนิ้วมือของแคทลีนไม่ได้อยู่บนแก้วทั้ง 2 ใบนั้นแต่อย่างใด ที่จริงแล้วแพทย์ผู้ชันสูตรแจ้งว่าปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดของเธอต่ำมาก
นอกจากนี้แพทย์นิติเวชยังกล่าวว่าแคทลีนถูกทุบตีจนเสียชีวิตและมีบาดแผลลึกถึง 7 แผลบนหนังศีรษะ เลือดบริเวณรอบตัวของเธอส่วนใหญ่เริ่มแห้งตัว ซึ่งหมายความว่าเธอนอนอยู่ที่บันไดชั้นล่างมาเป็นเวลานาน และอาจจะนานถึง 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว ผู้เชี่ยวชาญด้านการกระจายของเลือดกล่าวว่าหยดเลือดรอบๆ ช่องบันไดนั้นเกิดจากการใช้อาวุธทุบตี
ชีวิตลับของไมเคิล
ไม่นานหลังจากพบศพของแคทลีน ไมเคิลก็ตกเป็นผู้ต้องสงสัยหลักก่อนจะถูกจับและตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาตามมา การไต่สวนคดีของเขาเริ่มต้นขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2003 อัยการแย้งว่าแรงจูงใจของเขานั้นมีความเชื่อมโยงกับรสนิยมทางเพศของไมเคิล และเชื่อว่าแคทลีนค้นพบรูปโป๊ของชายหนุ่มเป็นจำนวนกว่า 2,000 รูปในคอมพิวเตอร์ของไมเคิล นอกจากนี้ยังมีอีเมลที่ไมเคิลพูดคุยกับโสเภณีชายเป็นเวลานานกว่า 4 เดือนก่อนหน้าที่จะเกิดการฆาตกรรม และชายหนุ่มคนนั้นเป็นคนที่ไมเคิลวางแผนจะเดินทางไปพบอีกด้วย อัยการตั้งทฤษฏีว่าแคทลีนพบเข้ากับรูปและอีเมล ทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทระหว่างทั้งคู่และนำไปสู่การเสียชีวิตของแคทลีนในที่สุด
ไมเคิลถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา
ในวันที่ 10 ตุลาคม 2003 คณะลูกขุนพบว่าไมเคิลมีความผิดในข้อหาฆาตกรรมภรรยา เขาถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตโดยไม่ได้รับการลดโทษ ไมเคิลยืนยันความบริสุทธิ์ของเขาโดยกล่าวว่า "ผมไม่ได้ทำอะไร ผมบริสุทธิ์ ผมยังคงไม่เชื่อจนกระทั่งคณะลูกขุนอ่านว่าผมถูกตัดสินจำคุก" และไมเคิลก็ยังคงยืนยันความบริสุทธิ์ของเขาจนถึงทุกวันนี้ เขากล่าวในสารคดีว่า "พวกเขาโกหก พวกเขาโกง และทำทุกอย่างเพื่อลงโทษผม"
ทฤษฏีนกฮูก
ในปี 2009 อัยการนำเสนอทฤษฏีใหม่ที่อ้างถึงหลักฐานที่น่าสนใจว่า ไมเคิลไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของแคทลีน แต่ที่จริงแล้วเป็นนกฮูกต่างหาก "ทฤษฏีนกฮูก" นี้คาดว่าผู้ก่อเหตุเป็นนกฮูกพันธุ์ Barred Owl เป็นสายพันธุ์ที่พบได้ทั่วไปในเดอร์แฮม ซึ่งบินมาพันกับผมของแคทลีน ทำให้เกิดการบาดเจ็บอย่างรุนแรงและผิวหนังบนศีรษะบางส่วนจึงหลุดหายไป และทำให้แคทลีนตกลงมาเสียชีวิตที่บันไดชั้นล่าง จากการชันสูตรพลิกศพเปิดเผยว่าแคทลีนมีแผลถึง 7 แผล ซึ่งรวมทั้ง 1 แผลลึกที่ด้านหลังของหนังศีรษะ นอกจากนี้ยังมีต้นสนติดอยู่ที่มือข้างหนึ่งของเธอและในมือซ้ายของแคทลีนยังมีขนนกเล็กๆ สามเส้นติดอยู่อีกด้วย
ไมเคิลรอดตัวจากหลักฐานที่ผิดพลาด
ในปี 2011 ผู้พิพากษายกเลิกคำตัดสินและสั่งให้มีการไต่สวนคดีใหม่ หลังจากพบว่าผู้เชี่ยวชาญด้านการกระจายของเลือดให้หลักฐานที่ผิดและชี้นำไปสู่ความเข้าใจผิดในการพิพากษาคดีครั้งแรกของไมเคิล ทิโมธี พาล์มแบค แห่งภาควิชานิติวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยนิวเฮเวนให้การว่า นักวิเคราะห์นั้นโฟกัสไปที่หยดเลือดบางจุดในที่เกิดเหตุเท่านั้น และยังไม่เปิดเผยต่อคณะลูกขุนว่ามีเลือดจุดอื่นๆ ในที่เกิดเหตุที่ไม่ตรงกับสิ่งที่เขาค้นพบอีกด้วย นอกจากนี้ผลการทดสอบจำนวนมากของนักวิเคราะห์นั้นดูจะใช้เพื่อยืนยันทฤษฎีมากกว่าจะเรียงลำดับหลักฐานเพื่อหาสถานการณ์ที่อาจเป็นไปได้มากที่สุด
การไต่สวนยังคงดำเนินไปจนกระทั่งในเดือนกุมภาพันธ์ 2017 ไมเคิลได้ทำข้อตกลงอัลฟอร์ด และยอมรับผิดในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาเพื่อแลกกับการไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีอีกครั้ง ไมเคิลได้รับการปล่อยตัวหลังจากถูกจำคุกมานานถึง 8 ปี ส่วนอัยการหวังว่าการยอมรับผิดของไมเคิลจะนำความยุติธรรมมาให้กับครอบครัวของแคทลีนได้
แม้การยอมรับผิดจะทำให้ไมเคิลมีความผิดจริง แต่มันก็ไม่ได้แก้ไขปริศนาการเสียชีวิตของแคทลีนแต่อย่างใด แคนเดซ แซมเพอรินี น้องสาวของแคทลีนตะโกนใส่ไมเคิลในระหว่างการพิจารณาคดีว่า "คุณพรากชีวิตผู้หญิงที่หาเลี้ยงคุณ ปกป้องลูกๆ ของคุณ และคนที่รักคุณอย่างโหดร้ายทารุณ"
ปัจุบันไมเคิลเป็นคุณตา/คุณปู่ของหลานๆ 2 คน เขาอาศัยอยู่ในคอนโดขนาด 2 ห้องนอน และวางแผนจะไปเยี่ยมครอบครัว พร้อมกับเขียนหนังสือเล่มใหม่อีกด้วย
ติดตามสารคดี"คดีฆาตกรรมขั้นบันได" ได้ทาง เน็ตฟลิกซ์
http://www.crossboxs.com/posts/คดีฆาตกรรมขั้นบันได
สูตรคำนวณงวด 2/1/69
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
คลิปนาทีทหารไทยโคตรเดือด ควบม้าเหล็ก รัวปืนกล กระบอกคู่ ถล่มเขมร ช่องอานม้า จนสามารถยึดครองพื้นที่ได้สำเร็จ
รวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ ส่วนข้อคิดประจำวันก็คือ บอลก็แข่งดึกวันอาทิตย์ เช้ามาผลไม่เป็นใจ ก็ยังต้องเผชิญหน้าผู้คนอีก ขอบคุณครับ
เพราะใจสั่งมา! ฝรั่งกระหน่ำซั่มสาวไทยไม่ยั้ง..บนทุ่นลอยน้ำที่หาดจอมเทียน
พ่อนอกใจเป็นชู้ กับแฟนสาวของลูกชาย
“บอย ภิษณุ" ประกาศขายบ้านหรูแล้ว ราคา 70 ล้าน
สอยอีกหนึ่ง นายพลเขมรร่วง อีกราย
สรรหาความแซ่บ! เปิดตัว "ชิราโทริ เรย์" สาวแว่นเด็กเรียนกับรหัสลับสุดร้อนแรง
โซเชียลฮาลั่น! ทหารไทยยึดฐานสำเร็จ พบปลากระป๋องไทยเพียบ ชาวเน็ตตั้งคำถาม ไหนบอกแบนสินค้าไทย?
ทัพไทยอากาศไทยบินทิ้งระเบิด คๅสิโน จนราบเป็นหน้ากลอง ทวงคืนอธิปไตยไทย
ทหารกัมพูชา รับจ้างรีวิวสินค้าพร้อมปักตะกร้าในแนวหน้า ระหว่างสู้รบกับทหารไทย
พี่หมาหน้าเหวอ หลังนุดพา แมว เข้าบ้าน แต่สัญชาตญาณบอกดังๆ นี่ไม่ใช่แมวธรรมดา
เพราะใจสั่งมา! ฝรั่งกระหน่ำซั่มสาวไทยไม่ยั้ง..บนทุ่นลอยน้ำที่หาดจอมเทียน
โยชิ..อัพเดทชีวิตหลังโสดมานาน 4 ปี
"ฮุนเซน" ยกธงขาว ยอมรื้อ "เขื่อนเกาะกง" หลังไทยงัด "ไม้แข็ง" ขู่ตัดท่อน้ำเลี้ยง
แฟนบอลลาว ออกมาปกป้องผู้ตัดสินฟุตบอลชาวลาวแล้ว!!
โซเชียลฮาลั่น! ทหารไทยยึดฐานสำเร็จ พบปลากระป๋องไทยเพียบ ชาวเน็ตตั้งคำถาม ไหนบอกแบนสินค้าไทย?
สหรัฐฯ เดินเกมต่อคว่ำบาตรครอบครัวมาดูโรและเรือขนน้ำมัน หลังยึดเรือบรรทุก
กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประชุม กดดันไทย-กัมพูชาให้ยุติการสู้รบ
อนุทิน ลั่นคนที่เสียภาษี ไม่ต้องเกณฑ์ทหาร ดราม่าชาวเน็ต แบบนี้ อุ้มคนรวย
ญี่ปุ่นเตรียมเดินเครื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกครั้ง!!








