เมื่อวันที่ 9 พ.ค.62 เวลา 23.50 น. ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำโดยนายมานะ สิมมา ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกฎหมาย สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง และนายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผอ.ส่วนกำกับสืบสวนและปราบปราม พร้อมด้วยฝ่ายปกครองจังหวัดอุดรธานี นำโดยนายปราโมทย์ ธัญญพืช รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี และพ.ต.ท.สุภัทธ์ ธรรมธนารักษ์ ผอ. กองคดีการค้ามนุษย์กรมสอบสวนคดีพิเศษ
.
หลังมูลนิธิรณสิทธิ์ได้ร้องเรียนและแจ้งเบาะแสให้เข้าตรวจสอบสถานประกอบการ ชื่อ ร้านต.ใหญ่ ตั้งอยู่ใน ซอยประชาราษฎ์ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี มีการลักลอบนำเด็กหญิงชาวไทยอายุต่ำกว่า 18 ปี มาค้าประเวณี ซึ่งเข้าข่ายเป็นการกระทำผิดฐานค้ามนุษย์
จากการตรวจสอบพบว่าร้านดังกล่าว มีพนักงานหญิงบริการจำนวน 10 คน และจากการตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชน พบว่ามีพนักงานหญิงซึ่งมีอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 4 คน แยกเป็นหญิงอายุ 16 ปี 1 คน หญิงอายุ 17 ปี 3 คน
.
โดยร้าน ต.ใหญ่นี้ เจ้าของเป็นภรรยาของนายดาบตำรวจสังกัด สภ.เมืองอุดรธานี ทางร้านมีพฤติการณ์เปิดเป็นร้านคาราโอเกะบังหน้า แต่มีพฤติกรรมค้าประเวณีแอบแฝง โดยพนักงานของทางร้านหากมีลูกค้าซื้อบริการทางเพศจะต้องเสียค่าใช้จ่ายให้กับทางร้านเพื่อพาหญิงบริการออกไปร่วมประเวณีภายนอกร้านการเข้าจับกุมในครั้งนี้เนื่องมาจาก
การร้องเรียนของครูอาจารย์ว่ามีลูกศิษย์ออกไปขายบริการทางเพศที่ร้านดังกล่าว ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองจึงได้วางแผนเข้าทำการจับกุม
ผลการจับกุมพบเด็กอายุ 16 และ 17 ปี ที่ยังศึกษาอยู่ในสถานศึกษาภายในจังหวัดอุดรธานี มาทำงานให้บริการที่ร้าน ต.ใหญ่ ด้วย ซึ่งอาจารย์ที่ให้ข้อมูลร้องเรียนได้มาร่วมตรวจสอบพร้อมกับยืนยันว่าหนึ่งในหญิงบริการภายในร้านนั้นคือลูกศิษย์ของตน
.
จากการสืบสวน พบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้องกับเจ้าของร้านในฐานะเป็นสามี ซึ่งเข้าข่ายกรณีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ทางกองคดีการค้ามนุษย์กรมสอบสวนคดีพิเศษได้มาร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง จะได้เสนออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อขออนุมัติเป็นคดีพิเศษและรับโอนสำนวนการสอบสวนจาก สภ.เมืองอุดรธานี ไปทำการสอบสวน
.
ทั้งนี้ พนักงานฝ่ายปกครองชุดจับกุมได้แจ้งข้อหาเบื้องต้น 3 ข้อหา
1.ค้ามนุษย์
2.เป็นธุระจัดหาหญิงมาเพื่อค้าประเวณี
3.ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต
พร้อมมีการเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ให้ออกคำสั่งปิดร้านต.ใหญ่มีกำหนด 5 ปี ตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 22/2558 ต่อไป
หลังจากนี้พนักงานหญิงทั้ง 10 คน เจ้าหน้าที่จะนำตัวไปทำการสัมภาษณ์คัดแยกผู้เสียหาย โดยมีทีมสหวิชาชีพของบ้านพักเด็กจังหวัดอุดรธานี รวมทั้งให้ความคุ้มครองและฟื้นฟูเยียวยาผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ต่อไป.
.
.
.