คืบหน้าคดีละเมิดเด็กในออสซี่ จับแอดมินในไทยจำคุก146ปี ตามขยายผลอีก60ประเทศ
ความคืบหน้าคดีเลวร้ายในหน้าประวัติศาสตร์ออสเตรเลียโดยชาวไทยเชื้อสายออสซี่ จำคุก 40 ปีในออสเตรเลียเนื่องจากแพร่ภาพและวิดิโอล่วงละเมิดเด็กอย่างไม่เหมาะสมมา 6 ปีครึ่ง(เด็กอายุ 15 เดือน-13ปี) ล่าสุดมีข่าวใหม่ ออสเตรเลียเล่นข่าวใหญ่นี้เพราะเขาถือว่าการล่วงละเมิดเด็กเป็นสิ่งที่เลวร้ายมากและเป็นคดีใหญ่
สำนักข่าวมีการให้ข้อมูลขยายผลจับกุมแอดมินเว็ป และช่วยเหลือเด็กที่ถูกล่วงละเมิดได้กว่า 50 คน รวมถึงแอดมินเว็ปที่เป็นชาวไทยด้วย (เข้าใจว่าน่าจะเป็นเว็ปมืดที่มีคลิป รูปภาพ เกี่ยวกับการล่วงละเมิดเด็กโดยเฉพาะ มีการเข้ารหัสที่ซับซ้อน ยุ่งยากและ url โดยเฉพาะ)
เริ่มต้นจาก ตำรวจสากลวางโครงการทำลายเครือข่ายเว็ปมืด (Dark Web) ในปี 2017 หลังจากพบว่ามีการเผยแพร่ภาพและวิดิโอล่วงละเมิดเด็กจำนวน 11 คน อายุ ต่ำกว่า 13 ปี จึงประสานงานทั่วโลก ทั้งหน่วยสืบสวนเพื่อความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐอเมริกา ทางการนิวซีแลนด์ บัลแกเรียและประเทศอื่น ๆ รวมถึงหน่วย DSI ของไทย โดยการตรวจสอบ IP Address จากที่มาของคลิปและภาพเหล่านั้น และมีการตรวจสอบ IP ได้ว่ามาจากรัฐเซาท์ออสเตรเลีย ตำรวจจึงเร่งไล่ล่าเจ้าของ IP นั้นและนำสู่การจับกุมนายฤชา โต๊ะพุทธาที่อาศับในออสเตรเลียขณะนั้น และต่อมาก็สืบพบตัวการจากในไทย
(นักสืบBrevet Sergeant Stephen Hegarty และ Federal Agent Jonathon Coats นำสู่การจับกุมนายฤชาที่ออส)
แผนการล่อลวงเด็กด้วยขนม wifi และเกมส์ฟุตบอล นำมาสู่การจับกุมผู้ร่วมขบวนการคนไทย
ตำรวจสากลกรุงเทพมหานคร หน่วย DSI และตำรวจนานาชาติตรวจสอบพบว่าเหยื่อรายแรกเป็นคนไทย ในปี 2017 (พ.ศ.2560) นำสู่การจับกุมแอดมินรายใหญ่ในไทย คือ นายมนตรี ศาลางาม ทั้งนี้ สามารถเปิดเผยชื่อได้เพราะถูกดำเนินคดีอย่างสูงสุดและมีความปลอดภัยทางกฎหมายที่อนุญาต
(จับกุมนายมนตรีที่บ้าน)
สำนักข่าวเปิดเผยว่านายมนตรีหลอกล่อเด็กว่าที่บ้านมีขนม wifi และเกมส์ฟุตบอล แล้วทำอนาจารบันทึกภาพเผยแพร่ เขากระทำกับเด็กทั้งหมด 11 คน 1 ในนั้นเป็นหลานชายของเขาเอง ถูกจับกุมเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว (2018) ซึ่งนายมนตรีได้รับโทษจากศาลไทย จำคุก 146 ปี ในขณะที่ผู้ร่วมขบวนการเป็นครูผู้ช่วย(สายชั้นอนุบาล) โดนจำคุก 36 ปี
ตำรวจสากล่าวว่า ขณะนี้ จับแอดมินเว็ปได้แล้วในไทย ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกาจำนวนมาก และมีคนที่มีตำแหน่งใหญ่โตในสังคมด้วย ส่วนทางการนิวซีแลนด์ระบุว่ามีอีก 60 ประเทศทั่วโลกที่มีส่วนพัวพันในเว็ปนี้ ขณะนี้ช่วยเหลือเหยื่อ(เด็ก)ได้แล้วประมาณ 50 คน และมีอีกประมาณ 100 คนที่ยังช่วยเหลือไม่ได้เพราะในวิดิโอมีการปิดบังใบหน้าและรูปพรรณสัณฐาน ยากต่อการระบุตัว
สำหรับการจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องนั้น หน่วยสืบสวนเพื่อความมั่นคงของมาตุภูมิ(ของสหรัฐฯ) สืบว่ารูปภาพ และวิดิโอที่ปล่อยรายสัปดาห์นั้นมาจาก IP ADDRESS ของเครื่องใดบ้าง และหน่วยไซเบอร์ของบัลแกเรียกำลังตรวจสอบเซิร์ฟเวอร์ต่อไป ผู้ที่เป็นสมาชิกเว็ปไซต์นี้มี 63,000 คน จาก 60 ประเทศทั่วโลก
เขียนข่าวไปมือสั่นไป มันดูยิ่งใหญ่มากเลย เราทำอะไร ปล่อยภาพอะไร ทางการเขารู้หมด ยิ่งเป็นหน่วยงานของต่างประเทศ เขาเอาจริง ทำจริง เด็ดขาดมาก ข้อคิดที่ได้จากข่าวนี้คือไม่ทำสิ่งผิดกฎหมายจะดีที่สุด
















