ข่าวทิ้งเด็กรายวัน ใช้'ถุงยาง'เถอะถ้าไม่อยากมีตราบาปไปตลอดชีวิต
ช่วงเห็นข่าวเด็กถูกทิ้งรายวันแล้วหดหู่ใจมาก เด็กเหล่านี้เกิดมาจากการท้องไม่พึงประสงค์ พ่อแม่ไม่มีความพร้อมในการเลี้ยงดูผอ.สถาบันราชานุกูลกล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญในจำนวนของผู้ที่ตั้งครรภ์ร้อยละ 10 พบมีอาการของโรคซึมเศร้า ก่อให้เกิดความคิด ภาพลบของการเลี้ยงบุตร หรือคิดว่าตัวเองเลี้ยงลูกไม่ได้ และไม่มีกำลังใจในการเลี้ยงลูก นำไปสู่การทอดทิ้ง เป็นปัญหาสังคมที่ต้องแก้ด้วยการให้ความรู้การคุมกำเนิด หรือสามารถแก้ได้ด้วยวิธีไหนได้อีกบ้าง?
กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เปิดเผยปีที่มีเด็กทารกถูกทิ้งมากสุด มีปี 2557 จำนวน 146 คน ปี 2558 จำนวน 197 คน ปี 2559 จำนวน 164 คน และในปี 2560 ตั้งแต่ ม.ค.-พ.ค. มีจำนวน 167 ปี 2561มีจำนวน 119 ราย ส่วนใหญ่พบว่ามีการทิ้งในที่สาธารณะมากกว่าครึ่ง ซึ่งมีความผิดทางอาญา จำโทษทั้งจำและปรับ
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 306 บัญญัติว่า “ผู้ใดทอดทิ้งเด็กอายุยังไม่เกินเก้าปีไว้ ณ ที่ใดเพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
มาตรา 26 บัญญัติว่า “ภายใต้บังคับบทบัญญัติแห่งกฎหมายอื่น ไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการ ดังต่อไปนี้
(2) จงใจหรือละเลยไม่ให้สิ่งจำเป็นแก่การดำรงชีวิตหรือรักษาพยาบาลแก่เด็กที่อยู่ในความดูแลของตน จนน่าจะเกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจของเด็ก ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 26 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"
เมื่อคืนได้มีโอกาสดูข่าวลทิ้งเด็กล่าสุดที่ โพธิ์แก้ว นครปฐม นี่เอง โดนทิ้งในกองขยะ เป็นทารกเพศชายยังมีสายสะดืออยู่ ภายหลังจับตัวแม่ใจร้ายได้ สอบปากคำพบว่าเป็นลูกคนที่ 5 ไม่สามารถเลี้ยงดูได้ จึงต้องนำไปทิ้งข้างกองขยะ ทำคลอดเอง ก่อนจะนำไปทิ้งโดยมีลูกชายอีกคนนั่งรถมอเตอร์ไซค์ไปด้วย
(รูปจาก https://news.ch7.com/detail/345457 )
ก่อนหน้านี้ก็มีข่าว ๆ ทิ้งเด็กอีกมากมาย ตามอ่านได้ที่ https://www.thairath.co.th/tags/ทิ้งลูก
ปัญหาเริ่มต้นที่ครอบครัว จากสถิติของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เมื่อปีที่แล้ว พบว่ามีเด็กและเยาวชนที่ประสบปัญหาด้านต่างๆ รวมแล้วกว่า 7 หมื่นคน ซึ่งสาเหตุสำคัญล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นจากครอบครัวที่มีปัญหา ตั้งแต่พ่อแม่ที่ไม่มีความพร้อมในการเลี้ยงดูหรือการท้องเมื่อไม่พร้อม จึงเลือกตัดปัญหาด้วยการทอดทิ้งเด็กทารก
มันเป็นตราบาปนะ ต่อให้เราไม่ให้เขาเกิดมาแล้วเราไปทำแท้ง เท่ากับเราทำลายชีวิต 1 ชีวิต (อ้างอิงจากเพจ Danai Chanchaochai)
สามารถทำแท้งได้นั้นบาปหรือไม่ ลองพิจารณาจากเงื่อนไขของบาปข้อปาณาติบาต ดังนี้ดูค่ะ
๑.สัตว์นั้นมีชีวิต
๒.ผู้กระทำรู้ว่าสัตว์นั้นมีชีวิต
๓.ผู้กระทำมีความตั้งใจ(เจตนา)จะทำให้สัตว์นั้นตาย
๔.ผู้กระทำมีความพยายาม ลงมือทำบางอย่างเพื่อให้สัตว์นั้นตาย
๕.สัตว์ตายด้วยความพยายามนั้น
ฉะนั้นถ้าถามว่าบาปไหม ตอบได้ทันทีว่าบาปข้อปาณาติบาตา ๑๐๐%
สำหรับผลกรรมของการทำแท้ง ก็มีหลายรูปแบบด้วยกัน ตัวอย่างเช่น อายุสั้น ประสบอุบัติเหตุ ป่วยด้วยโรคร้าย ขี้โรค ถูกฆ่า หรือมากกว่านั้น เช่น ต้องไปอยู่ทุคติภูมิหลายภพหลายชาติ (นรก , เปรต , อสุรกาย ,สัตว์เดรัจฉาน) กว่าจะได้มาเป็นคนอีก และคงไม่ได้เกิดมาเป็นคนที่มีสภาพสมบูรณ์ได้ง่ายๆ เนื่องจากต้องรับเศษกรรมที่เหลือ หรือได้เป็นทารกที่ถูกทำแท้งเหมือนที่ตนเคยทำอีกหลายชาติ
ความรู้เรื่องคุมกำเนิดสำคัญ รักสนุกแล้วต้องรู้จักป้องกันด้วย การนับวัน การหลั่งนอก ก็ไม่ได้ป้องกัน 100% แต่แม้ถุงยางก็ไม่ได้ป้องกัน 100% แต่ก็ป้องกันได้มากกว่า ฉะนั้น อย่าอายที่จะใส่ ใช้ซะเถอะ ไม่มีผลข้างเคียงอันตราย ไม่เหมือนการกินยาคุมฉุกเฉิน นอกจาก การสวมถุงยางอนามัย เป็นการป้องกันการท้องไม่พร้อมแล้วยังป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วย

















