เฟลิกซ์ ยูซูป๊อป ผู้สังหาร รัชปูติน
เฟลิกซ์ ยูซูป๊อป ผู้สังหาร รัชปูติน
เฟลิกซ์ ยูซูป๊อป เกิดในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเมื่อ 23 มีนาคม 1886 ครอบครัวที่เป็นเจ้าของเหมืองแร่ขนาดใหญ่มีผลกำไรและรายการสั่งซื้อขายจากลูกค้าชนชั้นสูงจากสินค้าจำพวกที่ทำจากขนสัตว์ของเขาเป็นอย่างมาก ในปี 1909 เขาย้ายไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยฟอร์ดวิทยาลัย เขายังเป็นสมาชิกของคลับ Bullingdon และเป็นที่ยอมรับใน Oxford University
สำหรับสังคมคนรัสเซียในนั้น เมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 1914 ยูซูป๊อปอภิเสกสมรสกับ เจ้าหญิง ไอริน่า อเล็กซานโดรว่า หลานสาวของนิโคลัสที่สองในพระราชวังอนิคอฟ (Anichkov) ในฐานะที่เป็นผู้วางแผนสังหารรัสปูติน "ครอบครัว ยูซูป๊อป ถูกกล่าวหาว่าร่ำรวยที่สุดในรัสเซีย ... เขาเป็นเพียงคนเดียวที่เป็นทายาทผู้ชายที่รอดตายของครอบครัวยูซูป๊อป พี่ชายเขาที่แก่กว่าห้าปี นิโคไลถูกฆ่าตาย ในการต่อสู้ทางสงครามกลางเมืองโดยกลุ่มทหารแดงมานานหลายปีก่อนหน้านี้. "
ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
ในช่วงแรกของช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เจ้าชายยูซูป๊อป แปลงปีกของพระราชวัง มอยเกียร์ ของเขาเป็นโรงพยาบาลสำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บ ในฐานะที่เป็นลูกชายคนเดียวของตระกูล ก็สามารถที่จะหลีกเลี่ยงการเข้าร่วมกองกำลังติดอาวุธ เขาได้เข้าไปในโรงเรียนนายร้อยทหารและเอาหลักสูตรการฝึกอบรมของเจ้าหน้าที่
แต่เขาไม่มีความตั้งใจในการเข้าร่วมรัฐบาล พฤติกรรมของเขาถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสมาชิกคนอื่นๆของราชสำนัก แกรนด์ดัชเชสโอลก้า ให้ความเห็นว่า "เขาแทบไม่ได้ทำอะไร; ไม่เต็มใจที่จะทำงานใดๆเพื่อรัฐบาลจักรวรรดิรัสเซีย" ในปี 1915 มอริซ เพเลโลกูล (Paléologue) เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสในมอสโกแสดงความคิดเห็น: "เจ้าชายเฟลิคส์ ยูซูป๊อปมีพรสวรรค์ที่มีปัญญารวดเร็วและรสนิยมความงาม แต่เขาค่อนข้างที่จะจินตนาการขี้อ้อนเกินไปมีแนวโน้มเป็นพวกรักร่วมเพศ"
ในขณะเดียวกันเขาคัดค้านอิทธิพลที่กริกอรัสปูตินมีอำนาจชี้นำซาร์และซาร์รีน่าเหมือนกับสมาชิกของราชสำนัก แต่แกรนด์ดุ๊วลาดิมีร์ แนะนำในสมุดบันทึกของเขาว่า ยูซูป๊อปได้มีความสัมพันธ์กับรัสปูติน: "เฟลิกซ์ ยูซูป๊อป ออกมาวางแผนเรื่องราวทั้งหมดกับฉันเพื่อนตบตารัสปูติน เขาได้รับความชื่นชอบภายในครั้งเดียวที่พบเจอ ...
และหลังจากนั้นไม่นานรัสปูตินก็จะไว้วางใจเขาอย่างสมบูรณ์ พวกเขาเห็นพบเจอกัน เกือบทุกวันๆ และพูดคุยเกี่ยวกับทุกอย่าง รัสปูตินเริ่มเข้าไปในแผนการของเขา พวกเขาเพียงแค่พูดคุยหลักทรัพย์ในระหว่างการสนทนาของพวกเขาไม่มีที่สิ้นสุดก็เกินพอสำหรับหัวข้อการพูดคุยกันในแต่ละวัน และในที่สุดรัสปูตินก็ถูกวางยาพิษ ณ วังของยูซูปป๊อป แทงด้วยมีด ยิงด้วยปืนและโยนลงแม่น้ำเนวาร์ "
การลี้ภัยทางการเมือง
เจ้าชายยูซูป๊อปพยายามที่จะกอบกู้ราชวงค์จากความอ่อนแอของราชสำนักอันมีเหตุมาจากความงมงายในตัวรัสปูติน แต่ทว่า ทุกอย่างสายเกินไป ในช่วงการปฏิวัติกุมภาพันธ์ปี 1917 เขาได้หลบหนีออกจากรัสเซียผ่านทางเรือไปยังปารีส กองทัพคอมมิวนิสต์ไล่หลังมา เขาหนึออกไปได้อย่างจวนเจียน สิ่งของที่นำติดไม้ติดมือมาได้
จึงมีเพียงเสื้อผ้าและเครื่องเพชร เขาต้องลี้ภัยและหลบหนีอย่างทุลักทุเลไปพร้อมกับครอบครัวเขาและผู้ติดตามอีกเล็กน้อย ภรรยา ลูกสาว คู่ขา และคนรับใช้ ระหว่างการลี้ภัยสิ่งที่เขาจะภาคภูมิใจที่จะเล่าให้ผู้อื่นฟังมีเพียงเรื่องการสังหารรัสปูติน หลังจากลงเรือที่อิตาลี เขาก็นั่งรถไฟต่อไปยังฝรังเศส พำนักในปารีสโดยใช้เครื่องเพชรแลกและต่อมาไปยังอังกฤษและที่พำนักสุดท้ายคือ อเมริกา
คืนสังหาร
กริกอรี เยฟิโมวิช รัสปูติน (Grigori Yefimovich Rasputin)
รัสปูติน (ค.ศ. 1869 – 1916) เป็นนักบวช ผู้ที่มีพลังจิตพิเศษที่มีบทบาทในยุคปลายราชวงศ์โรมานอฟของประเทศรัสเซีย แต่การมีบทบาทและอิทธิพลของเขานั้น เป็นสาเหตุหนึ่งที่นำไปสู่การล่มสลายของราชวงศ์โรมานอฟ
ค.ศ. 1916 เจ้าชายเฟลิกซ์ ยูสชูปอฟ (Felix Yusupov) เห็นว่าเก็บรัสปูตินไว้จะเป็นภัยต่อชาติ จึงร่วมมือกับแกรด์ดยุคดมิทรี พัฟโลวิช (Grand Duke Dmitri Pavlovich) ลวงสังหารรัสปูติน โดยจะเชิญรัสปูตินไป โดยอ้างว่าเป็นงานเลี้ยงเล็กๆ ในห้องใต้ดิน ณ วังมอยก้าของเจ้าชาย
แผนการฆ่ารัสปูตินก็เริ่มขึ้น โดยการวางยาพิษไซยาไนด์ในเครื่องดื่มและเค้กของรัสปูติน โดย ดร. จาโซแวร์ต แพทย์ทหารเป็นผู้จัดหายา (ไซยาไนด์) สอดไส้ขนมเค้กและผสมเหล้ามาเดียราเตรียมไว้ โดยมีซูโคติน นายทหารอีกคนเป็นผู้ช่วย เจ้าชายยุสซูปอฟจะเป็นคนเชิญให้รัสปูตินกินขนมและดื่มสุราผสมยาพิษ โดยมีปูริชเกวิชและแกรนด์ดยุคดิมิตรีสหายสนิทของเจ้าชายคอยสังเกตการณ์อยู่ชั้นบน
และแล้ววันลอบสังหารก็มาถึง เจ้าชายเชิญรัสปูตินมาดื่มน้ำชาที่บ้าน ขณะเดียวกันรัสปูตินก็อยากจะเห็นเจ้าหญิงอิรีนาที่คนอื่นว่าสวยนัก เมื่อรัสปูตินมาถึง เจ้าชายก็อ้างว่าเจ้าหญิงกำลังรับแขกคนอื่นอยู่(ความจริงก็คือ เจ้าหญิงทรงพักตากอากาศอยู่ริมทะเลดำ ไกลจากวังเป็นร้อยๆ ไมล์) จึงขอให้รัสปูตินรอที่ห้องใต้ดินก่อน ขณะเดียวกันเจ้าชายทรงให้เปิดเสียงเพลงจากหีบเสียงเบาๆ ประหนึ่งว่าเจ้าหญิงทรงกำลังมีแขกมาพบจริง
ขณะรอ รัสปูตินหงุดหงิดพอควร เจ้าชายจึงทรงเชิญกินขนมเค้กและดื่มเหล้ามาเดียรา ตอนแรกรัสปูตินปฏิเสธ แต่ก็เปลี่ยนใจหยิบขนมเค้กไปกิน 2 ก้อน ตามด้วยเหล้ามาเดียรา 2 แก้ว เจ้าชายทรงยิ้มอยู่ในใจ แต่ตะลึงเมื่อรัสปูตินไม่เป็นอะไรเลย ซ้ำยังขอให้เจ้าชายทรงดีดกีตาร์และร้องเพลงคลอ รัสปูตินนั่งฟังและยิ้มอย่างมีความสุข แม้เพลงจะจบไปหลายเพลงแล้วก็ตาม
เวลาล่วงไป 2 ชั่วโมง เจ้าชายจึงทรงวิ่งขึ้นบันไดมาต่อว่าดร. ลาโซแวร์ต(แอบซุ่มดูอยู่) ว่ายาพิษหมดอายุ แต่ ดร. ลาโซแวร์ตยืนยันว่ายาดี ส่วนดยุคดิมิตรีนั้นถอดใจ บอกว่าแผนล้มเหลวควรเลิก แต่เจ้าชายทรงยืนยันจะสังหารเอง ดยุคดิมิตรีจึงส่งปืนพกให้
เจ้าชายทรงถือปืนแอบหลังลงมา รัสปูตินกลับขอมาเดียราดื่มอีก ดื่มแล้วก็มีท่าทางคึกคักชวนไปเที่ยวบาร์ยิปซี จากนั้นเจ้าชายทรงชี้ให้รัสปูตินดูไม้กางเขนบนหลังตู้และให้สวดมนต์ พอเหยื่อหันไปเจ้าชายก็ทรงลั่นกระสุนตรงกลางหลังพอดี รัสปูตินร้องเสียงแหลมและล้มลงหงายกับพื้น พอสิ้นเสียงปืนพรรคพวกทั้งสี่ก็ลงมา ดร. ลาโซแวร์ตคลำชีพจรก็บอกว่าตายแล้ว แล้วทั้งสี่ก็สาละวนเตรียมขนศพ ปล่อยเจ้าชายทรงอยู่ตามลำพัง แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น รัสปูตินบิดตัว ใบหน้ากระตุก ลืมตาซ้ายแล้วตาขวา ตาสีเขียวขุ่นกลอกไปมาและโกรธจัด น้ำลายฟูมปาก ผุดลุกขึ้นยืน พร้อมกับกระชากอินทรธนูเครื่องแบบทหารของเจ้าชายขาดไปข้างหนึ่ง เจ้าชายทรงตกพระทัยสุดขีดกระโดดหนีวิ่งขึ้นบันไดไปชั้นบน รัสปูตินคลานตามขึ้นไปพร้อมด่าไปมา
ปูริชเกวิชได้ยินเสียงเจ้าชายและวิ่งตามรัสปูตินออกไปที่สนามวัง ซึ่งหิมะกำลังตกหนัก รัสปูตินตะโกนลั่น “ไอ้เฟลิกซ์ ไอ้เฟลิกซ์ ข้าจะฟ้องพระราชินี” ปูริชเกวิชแทบไม่เชื่อสายตาว่านั่นคือรัสปูตินที่เมื่อครู่นี้นอนตายสนิท กระนั้นก็ตามได้ลั่นกระสุนทันที 2 นัดแรกผิด นัดที่ 3 ถูกไหล่ และนัดที่ 4 ถูกศีรษะ รัสปูตินผงะหงายหลังลงมาจากประตูเหล็ก พยายามจะลุกขึ้น แต่ลุกไม่ไหว นอนกัดฟันด้วยความแค้น ปูริชเกวิชถลันเข้าเตะเต็มแรงเข้าด้านขมับ พอดีเจ้าชายยุสซูปอฟทรงหายตกพระทัย ทรงถือไม้พลองมาด้วยอันหนึ่ง พลันกระหน่ำตีด้วยอารมณ์แค้นเคืองจนเลือดแดงท่วมหิมะ
ร่างรัสปูตินถูกห่อด้วยพรม ทิ้งลงในปล่องน้ำแข็งในแม่น้ำเนวา 3 วันต่อมามีผู้พบศพ จากการตรวจศพพบว่ารัสปูตินไม่ได้ตายเพราะยาพิษหรือฤทธิ์กระสุนปืน แต่ตายเพราะสำลักน้ำ! รัสปูตินเสียชีวิตในวันที่ 16 ธันวาคม ค.ศ. 1916 รวมอายุ 47 ปี
(สำหรับอวัยวะเพศของรัสปูตินมีเรื่องเล่ากันว่ามีคนรับใช้ผู้ชายได้เก็บไปให้สาวใช้คนหนึ่งและปรากฏว่าได้พบสาวใช้ผู้นั้นอีกที่ปารีส ซึ่งยังเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี ไว้ในหีบไม้ขัดมัน….) (เคยอ่านเจอว่ายาว 13 นิ้ว)
สูตรคำนวณงวด 2/1/69
จิตรกรฝรั่งเผย "โฉมหน้าจริง" ฮ่องเต้เฉียนหลง ทำชาวเน็ตอึ้ง ไม่เหมือนในหนังเลยสักนิด
“บอย ภิษณุ" ประกาศขายบ้านหรูแล้ว ราคา 70 ล้าน
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
รู้จัก "มาเฟีย" สาวไทยในปอยเปต..กับเส้นทางชีวิตที่ไม่ธรรมดา
จีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์
ทายนิสัยจากการ ‘ตักข้าวกิน’
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
10 เลขเด็ดเลขดัง "สลาก 5 ภาค" งวดวันที่ 2 มกราคม 69..รีบส่องเลย ก่อนหวยหมดแผง!!
กองทัพเขมรปั่นป่วนหนัก! ทหารไร้ศรัทธา ไม่อยากตๅยเพื่อตระกูลฮุน
“Bodakko Meshi” ข้าวกล่องสุดโต่งแห่งจังหวัดอากิตะ เมื่อปลาชิ้นจิ๋ว สยบข้าวสวยทั้งกล่อง!
เสน่ห์เกินต้าน! "มิคามิ ยัว" อวดลุคบิกินี่สีนู้ดในโรงอาบน้ำ โชว์ความlซ็กซี่จนโซเชียลแทบลุกเป็นไฟ
สัตว์โลกน่าทึ่ง : ซาลาแมนเดอร์ถ้ำ "มังกรขาว" (Olm) ฟอสซิลที่มีชีวิต
ทายนิสัยจากการ ‘ตักข้าวกิน’
รู้จัก "มาเฟีย" สาวไทยในปอยเปต..กับเส้นทางชีวิตที่ไม่ธรรมดา
ฝันไกล อดีต สส.เขมร เสนอให้ซื้อ F-16 F-35 เพื่อสู้กับกองทัพไทย
บริษัทไปรษณีย์ของเดนมาร์ก จะยุติบริการส่งจดหมายในวันที่ 30 ธันวาคม หลังดำเนินงานมานานกว่า 400 ปี
“Bodakko Meshi” ข้าวกล่องสุดโต่งแห่งจังหวัดอากิตะ เมื่อปลาชิ้นจิ๋ว สยบข้าวสวยทั้งกล่อง!
ทึ่งทั่วโลก : ปรากฏการณ์ "ต้นคริสต์มาสน้ำแข็ง" นี่คือผลงานศิลปะที่สร้างสรรค์โดยธรรมชาติในช่วงฤดูหนาว ของประเทศจีน
ภาพทดสอบโทรทัศน์ "PM5544" ในตำนาน ที่ถูกใช้งานแพร่หลายที่สุดในโลก ในยุคส่งสัญญาณแบบอนาล็อกนั่นเอง
จาก “วิริยาลัยสองแห่ง” สู่สถาบันเดียวที่แข็งแกร่ง — ย้อนรอยปี 2538 จุดกำเนิดโรงเรียนเทคโนธุรกิจวิริยาลัยนครสวรรค์
เผยสาเหตุที่ทำให้ "จิมิ" หลวม..ไม่ใช่แค่เรื่องเซ็กส์เพียงอย่างเดียว



