บุกจับเจ้าของโอเกะ ทุบตี-บังคับสาว 17 ค้ากาม

เมื่อวันที่ 30 ก.ค. พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.ตม.จว.หนองคาย พร้อมด้วย พ.ต.ท.ยศวีร์ ทองระอา สว.กก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.9, พ.ต.ท.ภูวเสฎฐ์ ชำนิมา สว.กก.3บก.ทท.3 และ พ.ต.ท.เทพพนม สุวรรณรัตน์ รอง ผกก.สส.สภ.สะเดา จ.สงขลา นำกำลังเข้าทำการจับกุมตัว น.ส.พรพิมล แซ่ตั้น อายุ 42 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดหนองคาย ที่126/2562

ข้อหาสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์, ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด ยอมจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจ โดยจับกุมได้ที่ร้านสบายสบายคาราโอเกะ ถนนประชาวิวัฒน์ซอย 3 ตำบลและอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส

พ.ต.อ.เขมรินทร์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา องค์กรเอกชน บ้านจุดสุมสากล สปป.ลาว (Village Focus International) หรือ VFI ประสานความร่วมมือมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคาย เพื่อขอความช่วยเหลือเด็กสาว ชาวลาว อายุ 17 ปี ถูกแก๊งค้ามนุษย์ข้ามชาติหลอกลวงมาทำงานในประเทศไทย

โดยขบวนการดังกล่าว ออกอุบายชักชวนมาทำงานที่ร้านอาหารในไทย โดยจะให้เงินเดือนละ 10,000-12,000 บาท แต่เมื่อมาถึงกลับให้ทำงานค้าประเวณี เมื่อเด็กสาวไม่ยอมก็จะใช้กำลังทุบตี บังคับให้อดข้าว เพื่อแลกกับการร่วมหลับนอนกับลูกค้า โดยไม่ได้รับส่วนแบ่งค่าจ้าง ต่อมาเด็กสาวชาวลาวได้ออกอุบายขอกลับไปบ้านที่ สปป.ลาว จึงพบว่าตั้งครรภ์และติดเชื้อซิฟิลิส ทำให้ลูกที่คลอดออกมาพิการจากการติดเชื้อ จึงมีการร้องเรียนดังกล่าว

ภายหลังรับเรื่อง ตม.หนองคายได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออำนาจศาลจังหวัดหนองคายออกหมายจับผู้ร่วมกระทำความผิด รวม 3 คน เป็นชาวลาว 1 คน คนไทย 2 คน คือ น.ส.พรพิมล แซ่ตั้น หรือ เจ๊ไหม และ น.ส.นันทนา หรือ เจี๊ยบ (สงวนนามสกุล) กระทั่งเข้าจับกุม น.ส.พรพิมลได้ พร้อมช่วยเหลือเด็กสาวชาวลาวได้จำนวนหนึ่ง จากการสอบปากคำ น.ส.พรพิมล ให้การภาคเสธ รับว่าเป็นเจ้าของร้านคาราโอเกะจริง แต่ไม่ได้บังคับเด็กสาวชาวลาวค้าประเวณี ซึ่งเด็กสาวทั้งหมดจะรับลูกค้าเองในราคา 1,000-1,500 บาท และจะแบ่งให้ตนครั้งละ 300 บาทเป็นค่านั่งที่ร้านเท่านั้น

ทั้งนี้ ในส่วนของน.ส.นันทนา ขณะนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำจังหวัดสงขลา หลังถูกดำเนินคดีข้อหาเป็นธุระจัดหาฯ และอยู่ระหว่างแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม และเตรียมขยายผลติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของเด็กสาวชาวลาวนั้น ขณะนี้ได้ประสานทางสหวิชาชีพมาสอบถามและเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง คัดแยกเหยื่อ ผู้ที่อาจเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์ เพื่อให้ความคุ้มครองตามกฎหมายต่อไป