ชาน่า ล้านนา LGBT กับประสบการณ์บนเรือสำราญที่ล่องไปทั่วทุกมุมโลก และ ประสบการณ์เฉียดตาย. บนเรือสำราญ ถือว่าเป็นบุคคลในวงการที่มีประสบการณ์ในการทำงานบนเรือ 16 ปี
ชาน่า ล้านนา LGBT ไทยไปทุกทวีปร้อยกว่าประเทศ 16 ปีวิถีทำงานบนเรือสำราญหรูระดับโลก
แนะนำตัวเอง ...
สมรัชนะ คือชื่อจริง ชาน่า ล้านนา เป็นชื่อนามแฝงในการเขียนหนังสือเกย์ 2 เล่ม และชื่อในวงการ เข้าสู่วัยหลักสี่ จากชีวิตเด็กบ้านนาธรรมดาคนหนึ่งที่เกิดและโตหลังเขา บนพื้นที่ราบสูงของจังหวัดเชียงราย เป็นเด็กนักเรียนทุนห้างร้านบริษัทต่างๆ จนถึง ทุนอันสูงสุดในชีวิตคือ ทุนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ ในรั้วรามคำแหง เรียนคณะรัฐศาสตร์ 3 ปีจบ ปัจจุบันอำลาวงการงานเรือสำราญระดับโลก เพื่อกลับมาใช้ชีวิตพอเพียง ตามรอยพ่อ และดูแลตอบแทนคุณแม่ ที่เชียงราย ทำ ไร่สันเวียงฟาร์มสเตย์ เพื่อเป็นที่พักและศูนย์เรียนรู้วิถีชาวนา เกษตรผสม แต่ก็ยังอยู่ในวงการสื่อ นำเสนอเรื่องราวดี ๆ ผ่านทางเพจ และเว็บไซต์ ต่างก็ดี
ไปทำงานเรือสำราญได้อย่างไร...
สมัยเรียนรามคำแหง ก็ทำงานประจำคือโรงแรม ตั้งแต่หาดาว ยันห้าดาว หลายมุมทั่วกรุงเทพฯ เลยได้ประสบการณ์เป็นใบเบิกทางไปสมัครทำงานที่เรือสำราญ ย้อนไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว สอบสัมภาษณ์ สอบภาษาอังกฤษจากสถาบัน แต่ไม่ถึงกับต้องสอบโทอิค โทเฟลอะไร ไม่จำเป็นต้องเรียนจบตรงตามสาขางานโรงแรม ท่องเที่ยว ก็ไปทำงานเรือสำราญได้ ขอให้สอบผ่าน โดยมีคุณสมบัติสามประการ คือ ความสามารถทางการสื่อสารภาษาอังกฤษ ความพร้อมในด้านร่างกาย ไม่เป็นโรคต้องห้าม และ สุดท้าย คือ มีใจรักงานด้านบริการ ที่ต้องทน ถึก และใจสู้จริง ๆ จากคอนแทรกแรก จนถึงปี 2015 เป็นเวลา 16 ปีที่โลดแล่นบนเรือสำราญ
ทำงานเรือนานแค่ไหน ...
เริ่มตั้งแต่ปี คศ. 1999 จนถึง ปี คศ. 2015 สิริรวมทั้งหมด 16 ปีแห่งความหลัง เพราะได้รับทุกอารมณ์ รสชาติ เราไม่เคยคิดว่า จากชีวิตของคนบ้านนาคนหนึ่งจะไปไกลขนาดนั้น (ระยะทางที่ไกลจริงๆ) จากที่คิดว่า ปีแรกที่ไปทำงานจะไม่กลับไปอีกแล้วเพราะทำงานทุกวัน ไม่มีวันหยุด มีแต่ช่วงเวลาเบรก ในระหว่างวัน ตามกฏหมายแรงงานลูกเรือสำราญนานาชาติ สามารถทำงานวันละ 11-13 ชั่วโมงได้โดยไม่ผิดกฏ แต่สุดท้ายเอามาเอาไปวันเวลาผ่านไปครบ 16 ปี จนปีสุดท้ายผ่าตัดไส้เลื่อน บวกกับคุณแม่ขอร้องแล้วหลายครั้งว่าอยากให้อยู่ด้วยกันที่เมืองไทย ก็เลยเลือกที่จะหยุดและอยู่เมืองไทยกับท่าน เพราะท่านอายุเยอะแล้ว
ทำงานตำแหน่งอะไร...
ภูมิใจที่บอกกับทุกคนว่า ตอนเป็นพนักงานเรือสำราญ นั้นชาน่าทำแผนกอาหารเครื่องดื่มค่ะ เป็นบ๋อยอินเตอร์ แต่โชคดีที่ได้ฝึกทักษะ เรียนรู้จากเมืองไทย เช่นคอมพิวเตอร์ ภาษาอังกฤษพอใช้ได้ระดับหนึ่ง จึงได้มีโอกาสทำงานเป็นเลขาฯ หัวหน้าในแผนก ดูแลเรื่องเอกสาร งานแอดมิน ในช่วงกลางวัน ตอนกลางคืน ก็ทำหน้าที่เสิร์ฟอาหาร เครื่องดื่ม ซึ่งเรียกง่าย ๆ คือ waiter แต่ก็จะมีผู้ช่วยเราอีกคน
ฉายามือเสิร์ฟเงินล้าน...
งานเสิร์ฟหลายคนจะมองเป็นงานที่ต่ำต้อย ด้อยค่า แต่ส่วนตัวชาน่าคิดว่ามันเป็นงานที่ท้าทาย และเป็นงานที่สุจริต มันทำให้เราได้ฝึกความอดทน อดกลั้น มีโอกาสเจริญสติ ปฎิบัติธรรมได้แม้เราจะทำงานหนักแค่ไหน ทำงานทุกวัน รับรอง รองรับอารมณ์ของลูกค้าที่หลากหลาย บ้างดี บ้างร้าย แต่เราก็สามารถทำได้ ซึ่งจุดหนึ่งที่ตัวเองมุ่งมั่น ขยัน อดทน เพราะเราเป็นลูกชาวนา มีเป้าหมายคืออยากเก็บเงินตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ แลพี่น้อง จึงทำงานอย่างหนัก แล้วก็เก็บเงินๆๆๆ ดีที่ไม่เป็นคนยึดตึกแบรนด์เนม หรือ มีความสนใจการพนันใด ๆ เงินที่หามาจึงเก็บไว้ต่อยอดเป็นทุนต่อไปในวันที่เราเลิกทำงานเรือ สมัยก่อนที่ค่าเงินบาทสามสิบ สี่สิบ เราได้เงินรายได้จากการทำงานเรือสำราญ เดือนละสามพันเหรียญ คิดเป็นเงินไทยก็เดือนละเฉียดแสน ไปทำงานปีหนึ่งสิบเดือนก็โกยเงินมาเป็นปีละล้าน จึงเป็นที่มาของฉายาที่สื่อตั้งให้คือ มือเสิร์ฟเงินล้าน (เค้าคงไม่ได้ดูจากสภาพเส้นผมบนหนังศรีษะเน้าะ) จึงสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่หลายคน ที่อยากจะไปท่องเที่ยว ทำงาน รอบโลก แต่บางครั้งพวกเขาก็ไม่ได้สำรวจตัวเอง คิดว่าไปแล้วได้เงินเดือนเป็นแสนเลย กว่าจะได้ตำแหน่งก็ไม่ใช่เรื่องง่าย และการเริ่มต้นสมัยนั้นกับสมัยนี้ก็แตกต่างกัน จนเราต้องออกมาอธิบายเป็นจิตอาสา เป็นอาจารย์สอนงานด้านบริการเตรียมตัวเป็นลูกเรือสำราญ ให้ทุกคนได้เข้าใจกระจ่างแจ้งตามความเป็นจริง
ทำงานเรือสำราญกับความเป็นเกย์...
จริงๆ ชาน่า ที่แต่งสาว ชีวิตจริงก็เป็นเกย์ธรรมดาคนหนึ่ง แต่ถ้าออกงานก็จะแต่งเป็นลุคส์ของชาน่า #โล้นซ่าหน้าหวาน ในการทำงานบนเรือสำราญเราก็เป็นเกย์ที่แสดงออกบ้าง ไม่แสดงออกบ้าง เพราะด้วยวัฒนธรรมหลากหลาย ที่เราสัมผัส บนเรือสำราญจะมีลูกเรือ 60กว่าประเทศ ตรงนั้นเราไม่ได้แคร์เพราะลูกเรือทุกคนจะมีกฏ Sexaul Harassment คือไม่ให้ก่อกวน สร้างความรำคาญ รบกวนซึ่งกันและกัน แต่ถ้าเป็นผู้โดยสารบางประเทศเค้าไม่ได้เปิดกว้างทางเพศเกย์ หรือแม้แต่เวลาเรือสำราญไปจอดแต่ละประเทศ เช่นตะวันออกกลาง แอฟริกา บางประเทศยังต่อต้านและผิดต่อกฏหมายบ้านเมืองเค้า ซึ่ง ทำให้เราคิดว่า บางครั้งการเป็นเกย์ เป็นตัวของตัวเองก็ต้องขึ้นอยู่กับกาละเทศะ อะไรเหมาะสมที่ไหน เมื่อไหร่ หรือไม่ อย่างไร แต่ถ้าเวลาทำงานอยู่เบื้องหลัง behind the scene ชาน่าเข้าไปในครัวที เดินแบบฟูลเทิร์นยิ่งกว่า หรือแม้แต่เพื่อนร่วมงานก็จะเรียกเราว่า Miss Thailand
ได้เที่ยวไปในโลกกว้างของเกย์...
เอิ่มมม ... อันนี้เห็นด้วยอย่างมากค่ะ เพราะว่า ชีวิตตอนที่ยังเรียนปริญญาตรี มีหมอดูชื่อดังระดับประเทศได้ทำนายทายทักว่า "คุณจะได้ทำงานอะไรไม่รู้ ได้เดินทางไปหลายประเทศมาก ๆ และได้เที่ยวด้วย" ตอนนั้นครั้นจะคิดว่า เป็นแอร์ สจ๊วต คงหาได้ใช่ไม่เพราะความสูงไม่ได้มาตรฐานของชายไทย หรือภาษาอังกฤษเราก็ไม่ได้เก่งกาจ เทียบกับการสอบคัดเลือกระดับนั้น จนวันนี้ถึงได้เข้าใจว่า ได้ไปเป็นลูกเรือ แต่อยู่เรือสำราญ นี่เอง แต่ก็ได้เที่ยวไปทุกทวีป และนับจากประเทศที่เดินทางไปสัมผัสแล้ว ร้อยกว่าประเทศทั่วโลก ภายในเวลาที่เป็นลูกเรือ 16 ปี บางประเทศเรือสำราญจะเดินทางไปช่วงซัมเมอร์ โอ้ยยย ยิ่งกว่าสวรรค์ของฉันเลย บางท่าเรือ บางเมืองเรือจอดค้างคืน ได้ลิ้มรสสัมผัสวิถีชีวิต และ ท่องราตรี แบบถึงใจ ชาน่าเป็นคนชอบเที่ยวทุกรูปแบบ ธรรมชาติ ปาร์ตี้ แต่จะรับผิดชอบตัวเอง คือเป็นคนไม่ดื่มไม่เมา แต่เอาอย่างเดียวค่ะ .. (เอาใจใส่ดูแลตัวเอง ตามคำพ่อแม่สอน) เราจึงมีสติทุกครั้งในการก้าวออกไปในโลกกว้าง เพราะไม่ว่าจะทำอะไร ก็จะต้องป้องกันความปลอดภัย ใส่ใจสุขภาพ เที่ยวได้เต็มที่ แต่ต้องมีความรับผิดชอบ ถ้าเที่ยวกลางวัน บางทีวันไหนทำงานเสร็จ ก็จะไปนอนอาบแดด อุ้ยบางทีก็ไปพบปะเพื่อนใหม่ ไปดูเค้าอาบแดด ไปหาดเปลือยซึ่งมีหลายที่มากในโลกนี้ ที่มีความอิสระเสรี ไม่ว่าจะยุโรป หรือแถบทะเลแคริบเบียน
กิน เที่ยวทำงาน 16 ปีได้อะไรบ้าง...
ส่วนตัวคิดว่า ประสบการณ์และสิ่งที่เราได้มีโอกาสไปสัมผัสนั้นคิดเป็นมูลค่าเงิน ไม่ได้ เพราะจากชีวิตของเด็กบ้านนอกคนหนึ่งที่ได้ไปทั่วโลก ได้เที่ยว ได้ทำงานระดับสากล ได้เรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมจากทุกมุมโลก มันคุ้มมาก แม้ชีวิตช่วงนั้นจะผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านการเฉียดตาย ผ่านอะไร ๆ มาเยอะมาก จนคิดว่าเรา "บุญรอด" มาถึงทุกวันนี้ได้ ชีวิตวันนี้มีแต่กำไร ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราก็ถือว่า เราได้ทำดีที่สุดแล้ว บางคนถามว่าทำไมไม่กลับไปอีกทั้งๆ ที่ได้อะไรเยอะแยะมากมาย สุดท้ายชาน่าคิดว่า เรามีแผนชีวิต มีเป้าหมาย เมื่อก่อนเราอยากได้เงิน เราเป็นทาสเงิน ตอนนี้เราคิดว่า ให้เราได้ใช้เงินบริหารจัดการของมันเอง และเราเป็นคนใช้ชีวิตติดดิน สมถะ พอเพียง ประหยัดจึงสามารถลาวงการงานเรือสำราญ และเที่ยวรอบโลกได้ (ที่หลายคนแอบอิจฉา ว่าได้ไปมารอบโลก) อีกอย่างชาน่าเชื่อเสมอว่า "ล้านความดี ความกตัญญูมาเป็นที่หนึ่ง" เราเลือกที่จะอยู่เมืองไทยเพื่อดูแลจิตใจของคุณแม่ ซึ่งท่านอายุมากแล้ว กอรปกับสารพัดโลก สามวันดีสี่วันไข้ ถึงแม้แม่อาจจะอยู่กับพี่สาวหลานสาว แต่ท่านก็รู้ว่าเราอยู่เมืองไทย อยู่ใกล้ ๆ กัน วันนี้บอกเลยว่า ...วันเวลาที่เหลือคือกำไร ที่จะได้มีปัญญา ในการสะสมกรรมดี ต่อเป็นเสบียงบุญในช่วงชีวิตต่อไป
กลับมาทำเกษตรพอเพียง และฟาร์มสเตย์...
ตั้งแต่จำความได้จำได้เสมอว่า พ่อกับแม่กลับมาจากทำนา เราเห็นท่านทำงานเพื่อเรา แม้จะเป็นงานที่ทำหนักได้เงินน้อย แต่ท่านก็มีความสุข วันนี้เลยกลับมาตามหาความสุข กินอยู่กับธรรมชาติ ปลูกพืชผักสวนครัว เลี้ยงไก่ไข่ กินคลีน และอาหารออแกนิค ดูแลสุขภาพ เราอยากทำเป็นศูนย์เรียนรู้และให้หลายคนได้มาสัมผัสธรรมชาติบ้านนาเหมือนที่เราชอบ จึงเปิดเป็นฟาร์มสเตย์ ราคาหลักร้อย และความสุขหาได้จนไม่มีขีดจำกัด ไม่ได้ทำเพื่อตามกระแส แต่ทำเพื่อให้ตัวเองและทุกคนได้มีความสุข สัมผัสธรรมชาติ มาพักผ่อนกินนอนใต้สวนยางพารา 5 ไร่ และ ทุ่งนา บ่อปลา เกษตรผสมอีก 5 ไร่ ที่บ้านเกิดตัวเอง ณ ต.ผางาม อ.เวียงชัย จ.เชียงราย
สถานะในปัจจุบัน...
เคยกินอยู่กับแฟนทั้งชาวต่างชาติ และชาวไทย แต่บางครั้งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เรามีไลฟ์สไตล์ชีวิตที่แตกต่างกัน ก็เลยอยู่ด้วยกันไม่ได้ ผ่านมาหลายคนแล้วค่ะ แต่ก็ถือว่าเราหมดเวรกรรมกันแค่นั้น สุดท้ายตอนนี้ก็มีความสุขที่ใช้ชีวิตอิสระ อยู่อย่างไร้คู่ แต่เราต้องอยู่อย่างมีค่า ส่วนมากก็ให้ความรักกับครอบครัว มิตรสหายที่ดี ส่วนเรื่องแฟนก็มีคบ ๆ กันแต่ก็อยู่ในขอบเขต ไม่ได้ปิดกั้นตัวเองคิดว่าถ้าใช่ก็ได้ ถ้าไม่ก็เข้าใจ
ฝากอะไร...
อยากจะบอกว่า ชีวิตเราชีวิตหนึ่งนั้นน้อยนัก สำคัญมาก ที่ได้เกิดมาแล้วมีโอกาสได้ทำอะไรหลายอย่าง บางทีเราไม่รู้หรอกว่า ชะตาชีวิตของเราจะเป็นอย่างไร ลิขิตไปทางไหน แต่ไม่่ว่าจะอย่างไรอยากให้ทุกคน และบอกกับตัวเองเสมอว่า ให้ เข้าใจ เข้าถึง และอยู่ซึ่งๆ กับมัน กับปัจจุบัน หากวันใดโชคร้ายก็ถือว่าเราได้ชดใช้กรรม วันไหนโชคดี ก็คิดว่าเป็นกุศลผลกรรมดีที่เราเคยทำ ชีวิตเฉียดตายมาก็หลายครา ใช้มันให้เกิดประโยชน์มากที่สุด อะไรที่มันเป็นความสุข ไม่เดือดร้อนใคร ไม่ผิดศีลข้อไหน ไม่ก่อกรรมทำเวรกับใคร ทำไปเถอะ และชาน่ายังคงยืนยัน เชื่อเรื่องของกรรมว่า "คนดีสำคัญที่สุด" ไม่ว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร เราทำดีแล้วนะ ...
ติดตามชาน่า
เฟซบุ๊ค ชาน่า ล้านนา หรือเพจ ต่างก็ดี Line : somratchana Tel . 061-438-3609
เคยให้สัมภาษณ์สื่อหนึ่งแต่จำไม่ได้ และไม่ได้ลิงค์ เลยขอเอามาโพสที่นี่อีกรอบ.
Cr.คุณชาน่า ล้านนา

























