เด็กหญิงวัย 15 ถูกเพื่อนเป็นนกต่อ ลวงให้ 3 โจ๋ข่มขืน แม่ลั่นไม่ยอมความ อีกฝ่ายอ้างจนไร้เงินเยียวยา

จากกรณีเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 63 ร ต อ วรภัทร ศุภสวัสดิ์ รองสว สอบสวน สภ สามโคก จ ปทุมธานี แจ้งให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต๊กตึ๊งปทุมธานี พร้อมเอกสารใบส่งตัว ดญ เอ อายุ 15 ปี ชาว จ เชียงราย ไปตรวจสอบร่างกาย ร่องรอยการถูกล่วงละเมิดทางเพศ ที่โรงพยาบาลปทุมธานี เป็นหลักฐานประกอบคดี หลังจากอ้างว่าถูก 3 โจ๋ข่มขืนนั้น

วันที่ 23 กพ 63 ที่บ้านพักไม่มีเลขที่ ต สามโคก อ สามโคก จ ปทุมธานี นางดาว อายุ 39 ปี ป้าข้างบ้านผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 กพ 63 เวลาประมาณ 19 00 น นายปอนด์ขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามารับ ดญ เอ ที่บ้าน โดยที่นางสาววิว เพื่อนของผู้เสียหายชักชวนให้ไปนั่งเล่นกันข้างนอก ตอนแรกผู้เสียหายพยายามปฏิเสธ แต่เพื่อนพยายามตื้อจึงยอมไปด้วย กระทั่งมาถึงบ้านของผู้ก่อเหตุ ชื่อนายโจ้ อายุ 17 ปี ผู้เสียหายกับนางสาววิวเข้ามานั่งเล่นที่โถงกลางบ้าน ขณะนั้นผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คนอยู่ในบ้านด้วย ส่วนนายปอนด์ที่ขับรถมาส่งก็ขอกลับบ้านไปก่อน

จากนั้นหนึ่งในผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน ลากผู้เสียหายเข้าไปในห้องนอน และลงมือข่มขืนเป็นคนแรก โดยที่ นส วิว เพื่อนของผู้เสียหาย และผู้ก่อเหตุอีก 2 คน นั่งรออยู่ที่ห้องโถง จากนั้นผู้ก่อเหตุคนที่สองก็เข้ามากระทำ และต่อด้วยผู้ก่อเหตุคนที่สาม หลังจากที่ผู้ก่อเหตุทั้งสามคนลงมือเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็บอกให้ผู้เสียหายเติมเงินโทรศัพท์ให้ 10 บาท หากไม่เติมข่าวจะหลุด แต่ผู้เสียหายปฏิเสธ แล้วเดินหนีกลับบ้านมา

ในวันถัดไป ผู้เสียหายได้ปรึกษากับเพื่อนอีกคนว่าจะเข้าแจ้งความ และเดินทางไปแจ้งความ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจขอให้เรียกผู้ปกครองมาด้วย ทุกคนจึงทราบเรื่อง หลังจากเกิดเรื่อง นส วิว เพื่อนของผู้เสียหายก็หลบหนีไปอยู่กับญาติที่ จ.นครสวรรค์ เบื้องต้น ผู้ปกครองของผู้ก่อเหตุได้เข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ยแล้ว จะชดใช้ค่าเสียหายประมาณ 15000 บาท แต่แม่ของผู้เสียหายยังไม่ยินยอม และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ด้านนางมิน นามสมมติ แม่ของผู้ก่อเหตุ เปิดใจว่า ผู้ใหญ่บ้านได้โทรมาเรียกให้ตนกับผู้ปกครองของเด็กที่ร่วมก่อเหตุไปพูดคุยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ผู้เสียหายเรียกค่าเสียหายหลักแสน ตนกับผู้ปกครองคนอื่นจึงเจรจาขอลด เพราะตนก็หาเช้ากินค่ำ ไม่มีเงินเยอะ ทั้งนี้หากผู้เสียหายไม่ยอมความ และเรียกเงินค่าเสียหายเยอะ ตนคงจะต้องปล่อยให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ส่วนลูกชายของตน ตอนนี้ก็ะเครียด เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องใหญ่ ตนยืนยันว่าลูกชายไม่เคยก่อเหตุมาก่อน ก่อนที่ตนจะเข้าไปเจรจากับฝั่งของผู้เสียหาย ตนได้สอบถามทางลูกชายว่าทำจริงไหม ซึ่งลูกชายของตนก็พยักหน้ายอมรับ ยอมรับว่ารู้สึกเสียใจ ทั้งนี้ตนได้พยายามถามลูกชายแล้วว่าทำไปทำไม แต่ลูกชายก็บอกแต่ว่ามีคนพามาหา ตนคิดว่าลูกคงทำตามเพื่อน

นอกจากนี้ ทีมข่าวพบนายปอนด์ เพื่อนของผู้เสียหายที่ขับรถไปส่งที่บ้านผู้ก่อเหตุ ไม่พร้อมให้สัมภาษณ์ และกล่าวทั้งน้ำตาว่าไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น