"ฟรังก้า วิโอล่า" หญิงสาวผู้ไม่ยอมแต่งงานกับชายที่ข่มขืนเธอ แม้จะถูกประนามจากสังคมก็ตาม

นี่คือเรื่องราวของ ฟรังก้า วิโอล่า หญิงสาวชาวอิตาลีที่กลายเป็นที่รู้จักในช่วงต้นปี 1960 เมื่อเธอหาญกล้าที่จะลุกขึ้นมาปฎิเสธที่จะทำตามประเพณีที่ว่า #หากหญิงสาวคนใดถูกข่มขืนจะต้องแต่งงานกับชายที่ข่มขืนเธอเพื่อรักษาเกียรติ แต่ทว่ามันไม่ใช่กับฟรังก้า เพราะเธอเดินหน้าชนกับเสียงประนามจากผู้คนที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำนี้ อย่างไรก็ตามฟรังก้าและครอบครัวก็ต่อสู้ทุกวิถีทางเพื่อลากตัวชายที่ข่มขืนเธอเข้าห้องขังเพื่อรับโทษได้สำเร็จ...

ในช่วงนั้นบรรทัดฐานทางสังคมของอิตาลีมีความเชื่อว่า หากผู้หญิงคนไหนถูกข่มขืนจะถูกมองว่าเสื่อมเสียเกียรติ ทางออกก็คือต้องแต่งงานกับผู้ชายที่พรากพรหมจรรย์ของเธอไป ซึ่งในทางกฎหมายของอิตาลีในขณะนั้นระบุว่า ..."คนร้ายไม่ต้องรับโทษ ถ้าหากว่าแต่งงานกับคนที่ตัวเองข่มขืนเพื่อเป็นการชดใช้ความผิด"... โดยถือว่าการข่มขืนนั้นผิดต่อศีลธรรม แต่เป็นเรื่องที่สามารถยกโทษได้ไม่ถือเป็นอาชญากรรม และกฎหมายนี้ก็ถูกใช้เรื่อยมาจนถูกยกเลิกในปี 1981 และต่อมาในปี 1996 ก็ได้มีการระบุว่า #การข่มขืนเป็นการก่ออาชญากรรมอย่างหนึ่ง (ต้องรับโทษตามกฎหมาย)

#ถูกอดีตคู่หมั้นข่มขืน

ฟรังก้า วิโอล่า เกิดมาในครอบครัวชาวนาในประเทศอิตาลี ขณะอายุ 17 ปี เธอก็ได้หมั้นหมายกับ ฟิลิปโป้ เมโลเดีย ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกแก๊งค์มาเฟียแต่ต่อมาก็ได้ถอนหมั้นหลังจากที่หมั้นได้เพียง 6 เดือน หลังจากนั้นฟิลิปโป้ก็ได้ย้ายไปพำนักที่เยอรมันนีเป็นเวลา 1 ปี ก่อนที่จะกลับมาที่อิตาลีและตามง้อขอคืนดีกับฟรังก้าแต่ถูกปฎิเสธ

ด้วยความเจ็บใจที่ถูกอดีตคู่หมั้นปฎิเสธอย่างไม่ใยดีจึงทำให้เค้าคิดวางแผนจะลักพาตัวอดีตคู่หมั้นสาว

วันหนึ่งในปี 1966 ฟิลิปโป้กับพวกรวม 15 คนได้ไปซุ่มอยู่ที่บ้านของฟรังก้าและรอจนกระทั่งพ่อของเธอออกจากบ้านไปจึงได้ยกพวกเข้าไปลักพาตัวเธอไปกักขังไว้ในบ้านไร่ที่อยู่ไกลออกไป และลงมือข่มขืนเธอตลอดระยะเวลา 1 สัปดาห์ โดยในระหว่างนั้นก็ได้ข่มขู่ให้เธอยอมแต่งงานด้วยโดยอ้างว่าเพื่อที่จะได้ไม่ต้องถูกคนเหยียดหยาม

ที่ผ่านมาได้มีคนร้ายหลายรายที่ใช้ช่องโหว่ในการแต่งงานกับเหยื่อเพื่อชดใช้ความผิดแทนการรับโทษ รวมถึงฟิลิปโป้ด้วยเช่นกัน...

ต่อมาเมื่อได้รับการช่วยเหลือจนเป็นอิสระฟรังก้าและครอบครัวก็ได้เดินหน้าเอาผิดกับฟิลิปโป้และพรรคพวกอย่างถึงที่สุด โดยเธอนับเป็นเหยื่อรายแรกๆ ที่กล้าปฎิเสธการแต่งงานกับคนร้ายที่ข่มขืน และยังเป็นคนแรกที่ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเอง แน่นอน... การกระทำของเธอย่อมสร้างความไม่พอใจให้กับคนหัวโบราณในพื้นที่เพราะไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน

ครอบครัวของเธอต้องถูกรังควานจากคนบางกลุ่มรวมไปถึงถูกขู่เอาชีวิต แต่ในขณะเดียวกันก็ได้รับความชื่นชมจากคนที่อยู่นอกพื้นที่ในแง่ตัวอย่างการเรียกร้องความเป็นธรรมของเหยื่อที่ถูกข่มขืน การที่มีกระแสสองทางนี้เองทำให้เรื่องของเธอเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนอย่างมาก

#การลงโทษผู้กระทำผิด

หลังจากที่ต้องต่อสู้กันในชั้นศาลเป็นเวลา 2 ปี ฟิลิปโป้ก็ถูกตัดสินจำคุก 10 ปี (ก่อนจะลดลงเหลือ 7 ปี) ส่วนพรรคพวกที่มีส่วนในการกระทำผิดถูกตัดสินให้จำคุกคนละ 4 ปี

ฟิลิปโป้ถูกปล่อยตัวเป็นอิสระในปี 1976 แต่ก็ถูกมาเฟียฆ่าตายในอีก 2 ปีต่อมา...

#ฟ้าหลังฝน

ในปี 1968 ฟรังก้า วิโอล่า ก็ได้เข้าพิธีแต่งงานกับ โจเซปเป้ รุยซิ เพื่อนวัยเด็กที่คอยอยู่เคียงข้างเธอตลอดเวลา ทั้งคู่ได้รับปืนพร้อมใบอนุญาตเพื่อเอาไว้ป้องกันตัว รวมไปถึงของขวัญแต่งงานจากประธานาธิบดีอิตาลีในขณะนั้น และยังได้รับโอกาสเข้าเฝ้าพระสันตปาปาเป็นการส่วนตัวอีกด้วย

ทั้งคู่มีลูกด้วยกันทั้งหมด 3 คน (ชาย 2 หญิง 1) และยังคงอยู่ด้วยกันจนถึงปัจจุบันที่เมืองซิซิลี ประเทศอิตาลี.