หนุ่มมะกันฟ้องวง Nirvana ฐานละเมิดกฎเกณฑ์เกี่ยวกับภาพอนาจารเด็ก ปมภาพปกอัลบั้ม Nevermind เมื่อปี 1991
สเปนเซอร์ เอลเดน นายแบบเด็กบนหน้าปกอัลบั้ม Nevermind ของวง Nirvana เมื่อปี 1991 ตอนนี้เขาได้กลายเป็นหนุ่มวัย 30 ปี ตัดสินใจฟ้องร้องสมาชิกวง Nirvana ที่เหลือ และผู้ดูแลผลประโยชน์ของ เคิร์ต โคเบน ฐานละเมิดกฎเกณฑ์เกี่ยวกับภาพอนาจารเด็ก และแสวงผลประโยชน์ทางเพศจากเด็ก
รวมถึงข้อหาแจกจ่ายสื่อส่วนตัวที่โจ่งแจ้งทางเพศ ด้วยความประมาทเลินเล่อ ซึ่งถูกอธิบายว่าเป็น "การค้ามนุษย์ทางเพศ (sex trafficking venture)" โดยเอลเดน "ถูกบังคับให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางเพศเชิงพาณิชย์ในขณะที่อายุต่ำกว่า 18 ปี"
สเปนเซอร์ เอลเดน อ้างว่าตนเองได้รับ "ความเสียหายตลอดชีวิต" และผู้ปกครองตามกฎหมายของเขาไม่เคยลงนามในการอนุญาตให้ใช้ภาพใดๆ ของเขา รวมถึง ภาพอนาจารของเด็กเชิงพาณิชย์
.
ดังนั้น จึงขอฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย เพราะภาพดังกล่าวบนหน้าปก Nevermind ได้ทำร้ายชีวิตของเขาอย่างถาวร ส่งผลกับความทุกข์ทางอารมณ์อย่างรุนแรง, การแสดงออกทางร่างกาย, แทรกแซงพัฒนาการตามปกติ, ความก้าวหน้าทางการศึกษา ทำให้เขาสูญเสียความสามารถในการหารายได้ตลอดชีวิต, สูญเสียความเพลิดเพลินในชีวิตปกติตามที่ควรจะมี, สูญเสียค่าจ้างทั้งในอดีตและอนาคต ตลอดจน ค่าใช้จ่ายทั้งในอดีตและในอนาคต สำหรับการรักษาทางการแพทย์ต่อสภาพจิตใจ ตลอดจนความสูญเสียอื่นๆ
.
มีรายงานว่าในปี 1991 นอกจากค่าจ้างจำนวน 200 เหรียญแล้ว (ประมาณ 6,500 บาท)
ทางค่าย Geffen Records ทำเพียงส่ง ตุ๊กตาหมี กับแผ่นอัลบั้ม Nevermind ไปให้ครอบครัวของ สเปนเซอร์ เอลเดน เพิ่มเติมเท่านั้นโดยเรื่องนี้กำลังเข้าสู่ศาล และกระบวนการพิจารณาของลูกขุน คงต้องติดตามว่าสุดท้ายผลลัพธ์จะออกมาในทิศทางใด แต่ก็มีหลายคนตั้งข้อสงสัยเชิงแปลกใจอยู่ไม่น้อย จากการที่ก่อนหน้านี้ เอลเดน เคยเปิดเผยว่าภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งบนหน้าปก จนถึงกับสักคำว่า Nevermind ไว้บนแผงอก
Nevermind คืออัลบั้มชุดที่สองของวงกรันจ์ เนอร์วานา ที่มีเคิร์ท โคเบน เป็นนักร้องนำและมือกีตาร์
ซึ่งออกวางจำหน่ายในวันที่ 24 กันยายน 1991 มีเพลงดังอย่าง “Smells Like Teen Spirit” มียอดขายได้ราว 30 ล้านก๊อปปี้ทั่วโลก และเป็นหนึ่งในอัลบั้มที่อยู่ในลิสต์อัลบั้มยอดเยี่ยมตลอดกาลจากทุกสำนัก เดิมทีอัลบั้มนี้ถูกตั้งชื่อว่า Sheep ที่ทางวงต้องการถากถางปฏิกิริยาที่สาธารณชนมีต่อสงครามอ่าวเปอร์เซีย (Gulf War) ในขณะนั้น แต่หลังจากที่ทำอัลบั้มเสร็จ โคเบนก็แนะนำให้ใช้ชื่อใหม่ว่า Nevermind เพราะเป็นการสะท้อนถึงแนวคิดในการใช้ชีวิตของเขา และตั้งใจให้ผิดแกรมม่าด้วย (ที่ถูกต้องคือ Never Mind)
ขอบคุณข้อมูลภาพ

















