"เจ้ากรรมนายเวร" เขาคงมีกรรมกันมาจริงๆ
" เจ้ากรรมนายเวร "
คืออดีตผู้ที่เราเคย เข่นฆ่า เบียดเบียน
ทำร้าย ด้วย กาย วาจา ใจ ทำให้เกิด
ความเครียดแค้น อาฆาต ตามจองเวร
ข้ามภพ ข้ามชาติ
ซึ่ง แบ่งออกได้ 2 ประเภท
" เจ้ากรรมนายเวร 2 ประเภท "
1.เจ้ากรรมนายเวรที่มีตัวตน
- เกิดเป็นคนในครอบครัว พ่อ แม่ พี่น้อง
ญาติ คนใกล้ชิด เพื่อนฝูง สังเกตดูได้จาก
ทำไม เราไม่ชอบหน้าคนคนนี้เลย
ทะเลาะกัน ตบตี กัน ทำให้ทุกข์ใจ กาย
- เกิดมาในรูปแบบ สัตว์เดรัจฉาน
ไม่ถูกกับหมา คนอื่นยังเข้าใกล้ได้
แต่ พอเราเข้าใจ ทำไมถึงดุ กัด
ไม่ถูกชะตา ....ตัวอย่าง....
เราจะสังเกตได้ว่า อยู่ดีดี
ถูกงูกัดตาย ถูกควายขวิด ถูกหมากัด
ถูกแมงป่องกัด อยู่ดีดี โดนนกจิก
อยู่ดีดี โดนผึ้ง ต่อย แตน ต่อย
นี่คือ ลักษณะเจ้ากรรมนายเวร มีเหตุแห่ง
ความทุกข์ ร้อน เดือดร้อน ใจ กาย เสมอ
- เกิดในรูปแบบ วัตถุสิ่งของ เช่น
เดินๆ อยู่ตกท่อตาย
เดินๆ อยู่ค้อนเหล็กตกใส่หัวตาย
อุบัติเหตุ ที่ ไม่ได้ตั้งตัว เกิดกระทันหันการ
หลายคนชอบอุทานว่า
" เวรกรรมแท้ ๆ คงเป็นเวรเป็นกรรมนะ "
2.เจ้ากรรมนายเวรที่ไม่มีตัวตน
- ส่วนใหญ่มีกรรมกันจากอดีตชาติปางก่อน
ซึ่งเคยทำร้าย กันมา จึงตามมาจองเวร
ในรูปแบบ อมนุษย์ ผี ปีศาจ สัมภเวสี
ทุกการจองเวร ล้วนแต่มีเหตุของทุกข์เสมอ
- หนี้สิน การพนัน อบายมุข รูปแบบต่างๆ
ที่จะทำให้ชีวิตเราเสื่อม พังพินาศ
เช่น ติดหนี้การพนันจนต้องคิดสั้น
ติดค่าหวย ไม่ยอมจ่าย ก็ส่งคนมาเก็บ
- วาจา คำพูด คำนินทา ผลมาจาก
วจีกรรม ที่เราได้เคย ทำร้ายคนคนนั้น
ที่ตามจองเวร เช่น การบูลลี่
บูลลี่หน้าตา ไม่เห็นสวยเลย
บูลลี่ฐานะ ดูสิจนก็จน
พอกลับมาจองเวร ก็ทำให้ชีวิตเรา
ไม่สวย ยากจน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้
เคยสวยหน้าดี เคยร่ำรวยมีฐานะ
แต่ต้องมา เสพติดศัลยกรรม โดนโกงธุรกิจ
ทำให้หน้าเบี้ยว บวม ไม่สวย แถมยัง
เป็นหนี้อีก ชีวิตพลิกผัน อย่างไม่ตั้งตัว
- ปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมาย หลายเหตุผล
แล้วเราจะรับมือ กับ เจ้ากรรมนายเวร
อย่างไรล่ะ ?
..( วิธีรับมือกับ เจ้ากรรมนายเวร )..
*ไม่ใช่วิ่งหาแต่ หมอดู ร่างทรง ทำพิธี
*ไม่ใช่พิธีตัดกรรม แก้กรรม อวิชชาที่ทำกัน
สุดท้ายก็โดนหลอกรับขันธ์ หนักกว่าเดิมอีก
...วิธีที่ถูกต้อง....
1.สำนึกในกรรมก่อน สำนึกด้วยใจจริง
ไตร่ตรองเหตุของกรรม เราคงเคยทำ
กรรมนั้นจริงๆ อดีตเราจะจำไม่ได้
แต่เราพิจารณาได้ จากผลกรรมนั้น
ว่า ถ้าเขาทำกรรมแบบนั้นกับเราบ้าง
เราก็รู้สึกแค้นไม่ต่างกัน สำนึกด้วยใจจริง
ยอมรับผลกรรมทุกอย่างแต่โดยดี
2.ขอขมากรรม โดยให้ พระรัตนตรัย
เป็นทิพยญาณให้ ต้องใช้ผู้มีบุญญาบารมี
เปี่ยมด้วยเมตตา กรุณา อาจจะมี
สิ่งของตัวแทนความดีต่าง ๆ เช่น
ดอกไม้ บายศรี พวงมาลา พวงมาลัย
สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ จิตใจ ที่บริสุทธิ์สำนึก
ขอขมาแล้ว ก็ไม่ทำกรรมใหม่อีก
แล้วก็มานั่งขอขมาอีก ไม่ใช่นะ ต้องหยุด
การสร้างกรรมชั่วทุกอย่างเลย
3.สร้างบุญ สร้างบารมี อุทิศส่วนบุญ
ส่วนกุศล หรือ อาจจะมีการปฏิบัติบูชา
ด้วยกาย วาจา ใจ การปฏิบัติธรรม
รักษาศีล8 นุ่งขาวห่มขาว บำเพ็ญจิตใจ
มีความสำนึก มีหิริโอตัปปะ เสมอ
4.ให้เรื่องราวที่เคยผิดพลาด เป็นวิทยาทาน
สร้างธรรมทาน ให้คนรู้ว่า บาป บุญ มีจริง
กฏแห่งกรรมมีจริง มีความละอาย
เกรงกลัวต่อบาป
5.การสวดมนต์ สาธยายคำสอน
ของพระพุทธเจ้า ในบทต่างๆ
ธรรมจักร ยอดพระกัณฑ์
มิใช่ สวดเป็นนกแก้ว นกขุนทองนะ
ตั้งเอาจิตใจ ที่ศรัทธา สวด เปล่งออกมา
ถ้ารู้ความหมาย สวดแปล ก็จะดี
6. ทำความดี ทุกความดี ให้มากที่สุด
ละเว้นความชั่ว ไม่ทำกรรมใหม่เพิ่มอีก
ปรับปรุง ตัวเองใหม่ นิสัยที่เสียก็ ปรับ
ให้มีคุณธรรม จริยธรรม
....กรรม เปรียบ เหมือน เกลือ ที่ใส่ลงไป
ในน้ำ กรรมชั่วมาก ความเค็มย่อมมาก
ถ้าเราหมั่นเติมน้ำ บ่อย ๆ น้ำก็จะจืดขึ้น
ความเค็มลดลง ฉะนั้นต้องหมั่นเติม
บุญ เติมความดี มากๆ

















