ญาติคาใจ หมอจิตเวชวัย 60 ตกบันดับปริศนาคาบ้านพัก

สภ. เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิต ภายในบ้านพักหลังหนึ่ง

หลังจากที่ได้รับแจ้งแล้วก็รีบรุดหน้าไปตรวจสอบด้วยกำลังตำรวจชุดสืบสวนและแพทย์เวรโรงพยาบาลพุทธชินราช

และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยของมูลนิธิประสาทบุญสถาน

เมื่อไปถึงพบบ้านพักเป็นบ้านไม้ครึ่งปูน 2 มีรั้วรอบขอบชิด ประตูสแตนเลสหน้าบ้าน

ถูกเลือกุญแจเอาไว้ไม่สามารถเปิดเข้าไป นอกจากนี้ภายในบ้านยังเลี้ยงสุนัขเอาไว้หลายตัว

ซึ่งแต่ละตัวมีนิสัยดุร้าย ส่งเสียงเห่าอยู่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างเพื่องัดประตูออก

ก่อนให็ญาติสนิทเจ้าของบ้านนำสุนัขเข้ากง เนื่องจากเกรงว่าสนุขนั้นจะทำร้ายเจ้าหน้าที่ได้

เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบบริเวณทางขึ้นบันไดหน้าบ้านพบร่างผู้เสียชีวิต

ทราบชื่อเป็น ดร. กรรณิกา อายุ 60 ปี เจ้าของบ้าน อาชีพจิตแพทย์ เบื้องต้นแพทย์ชันสูตรพลิกศพ

พบมีบาดแผลที่ด้านหลังศีรษะ ข้างตัวพบโทรศัพท์มือถือและกุญแจบ้านจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ก่อนให้นำส่งนิติเวชโรงพยาบาลพุทธชินราช เพื่อชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว 9-24 ชั่วโมง

จากการสอบถาม นางวรรอนงค์ ญาติสนิท เปิดเผยว่า ดร. กรรณกา ผู้เสียชีวิต

ทำงานเป็นแพทย์ด้านจิตเวชที่ประเทศอังกฤษอยู่ประมาณ 40 ปี

และกลับมาซื้อบ้านอยู่ที่จังหวัดพิษณุโลกได้ไม่นานนัก ส่วนลูกสาวของ ดร. ก็ได้ทำงานอยู่ที่ประเทศอังกฤษเช่นกัน

โดยผู้เสียชีวิตปกติแล้วจะอยู่บ้านพักหลังนี้กับคนงานชายคนหนึ่งที่คอยช่วยดูแลบ้านและเลี้ยงสุนัขให้

แต่ได้ขอลากลับบ้านไปเยี่ยมญาติ แต่ยังไม่เดินทางกลับมา

ปกติแลัวมักจะพูดคุยกันในกลุ่มไลน์และชักชวนกันว่าให้ไปทำบุญกันอยู่บ่อย ๆ

ซึ่งผู้เสียชีวิตมักจะตอบกลับทันที เมื่อวันศุกรืที่ผ่านมา เพิ่งจะคุยกันเรื่องทำบุญ

แต่วันเสาร์ที่ผ่านมา ทักไลน์ไปหาก็ไม่ตอบ เห็นผิดสังเกตจึงได้มาดูที่บ้าน และก็พบว่านอนเสียชีวิตอย่างปริศนาอยู่หน้าบันไดบ้าน

จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า

ขณะที่ ดร. กรรณิ ปีนขึ้นบันไดไปดูสปริงเกอร์ที่ติดไว้บนหลังคาบ้าน

ซึ่งก็มีความสูงประมาร 7-10 เมตร ว่าทำงานปกติหรือไม้ เพราะต้องเปิดไว้ เพื่อคลายความร้อน ให้กับสนัขที่เลี้ยงไว้

และได้เปิดพัดลมหน้าบ้านและข้างบ้านไว้ทุกตัว

แต่บันไดที่ปีนเกิดลื่น เอียงไปทางขวา ทำให้ ดร. กรรณิกาเสียหลักพลัดตกศีรษะกระแทกขอบปูนทางขึ้นบ้านชั้นสอง

เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบกล้องวงจรปิดอีกครั้งหนึ่ง

เนื่องจากญาติและผู้รู้จักยังติดใจในการเสียชีวิต