ความรักที่นำไปสู่การฆาตกรรมที่ลึกลับ จนมีคนเอาไปทำหนัง!!

ความรักที่หลาย ๆ คนต่างอย่ากมี ชีวิตการแต่งงานที่สมบูรณ์แบบ ผู้หญิงชอบเล่นเชื่อว่ามันคงเป็นความหวังเล็ก ๆ ของผู้หญิงทุกคน ว่าต้องได้สามีดี และเป็นที่รัก ซึ่งเรื่องเล่านี้เป็นความรักที่แสนหวานชื่น ที่บทสรุปคือการฆ่าอันโหดเหี้ยม จนกลายเป็นคดีที่โด่งดังมาก หลายคนบอกว่า มันคือเค้าโครงของภาพยนตร์เรื่อง Gone Girl กับคดีความรักที่สร้างมาจากเรื่องจริงของ "คดี Scott Peterson" 

การแต่งงานความชื่นของสองคู่บ่าวสาวที่เต็มไปด้วยความรักที่มีต่อกับระหว่าง เลซี่และสก๊อตต์ ความรักนี้ดำเนินไปถึงเทศกาลคริสต์มาสอีฟ ปี 2002 เลซี่ ปีเตอร์สัน วัย 27 ปี ซึ่งตอนนั้นกำลังท้องแปดเดือนได้หายตัวไปจากบ้านอย่างลึกลับ

สก็อตต์ ปีเตอร์สัน ผู้เป็นสามีจึงเข้าแจ้งความกับตำรวจเพื่อให้ช่วยออกตามหาเมียรัก และเพราะเลซี่เป็นผู้หญิงท้องแก่ใกล้คลอด การหายตัวไปของเธอจึงเป็นข่าวไปทั่วสหรัฐอเมริกา ทุกคนต่างสนใจและเห็นอกเห็นใจในชะตากรรมของครอบครัว ปีเตอร์สัน เป็นอย่างมาก

แต่ทว่า ทางตำรวจสงสัยในตัวสก๊อตต์ตั้งแต่แรก คือส่วนใหญ่คดีคนหายหรือคนตาย ถ้าคนคนนั้นไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งบาดหมางกับใคร คนใกล้ตัวนี่แหละที่จะน่าสงสัยที่สุด หลังจากนั้นไม่นานก็มีเพื่อน คนรู้จัก ทยอยกันออกมาแฉสก๊อตต์ทีละคน ทั้งเรื่องนิสัย พฤติกรรม รวมทั้งคำพูดแปลก ๆ ที่ว่า ปีนี้ฉันจะฉลองคริสต์มาสโดยไม่มีเลซี่ รวมทั้งที่บอกว่าฉันเป็นพ่อม่ายเมียตาย หลักจากเลซี่หายไปแค่ 2 - 3 วัน ก็ช่วยกันเก็บเล็กเก็บน้อยคำพูดพิรุธต่าง ๆ เอามาแฉ

จนสุดท้ายสก๊อตต์กลายเป็นเป้าของปาปารัสซี่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะไปไหน ทำอะไร เขาถูกตามเก็บภาพเพื่อเขียนโยงเรื่องตลอด ข่าวเขาถูกขุดมาเล่นทุกวัน แล้วมันก็ขายดีด้วย สก๊อตต์ถูกขุดไปยันสมัยเด็ก

4 เดือนหลังจากเลซี่หายตัวไป ปี 2003 ร่างของเธอและลูกถูกพบที่อ่าว ซานฟรานซิสโก และสก๊อตต์ถูกจับในข้อหาฆาตกรรมเลซี่ทันที เขามีความผิดสองข้าหา คือฆ่าเลซี่ และฆ่าลูก ในการพิจารณาคดี คณะลูกขุนได้ลงมติตัดสินโทษประหารชีวิตเขา 

ในปี 2005 เขาถูกนำตัวไปคุมขังในเรือนจำรัฐ ซานเควนติน เพื่อรอรับการประหาร ...แต่ก็มีเรื่องน่าตกใจ เพราะในวันที่ 24 สิงหา 2022 ศาลฎีกาแห่งแคลิฟอร์เนีย ได้ออกมาถอนโทษประหารชีวิต เพราะสก๊อตต์ยื่นเรื่องว่า คณะลูกขุนที่ตัดสินประหารชีวิตเขาในตอนนั้น เสพข่าวจากหลายแหล่งที่รุมใส่ร้ายเขาจนเกินจริง ทำให้ลูกขุนส่วนใหญ่เอนเอียงไปในทางที่อยากให้เขาตาย ๆ ไปซ่ะ ก็เลยพากันตัดสินประหารชีวิต ซึ่งมันไม่เป็นธรรมกับเขา ลูกขุนควรมีความเป็นกลาง และพิจารณคดีโดยไม่รับเอาความโกรธแค้นมาจากสื่อ เขาก็ต่อสู้ประเด็นโทษประหารไปแบบนี้ สุดท้ายศาลเห็นด้วยกับเขา จึงถอดเขาออกจากโทษประหารชีวิต และในตอนนี้เขากลายเป็นนักโทษแบบที่ว่าขังไปเรื่อย ๆ ไม่มีกำหนด ซึ่งอาจจะมีการพิจารณีคดีใหม่ หรือยังไง ตรงนี้ยังไม่แน่ชัด เดี๋ยวทางศาลคงออกมาแถลงอีกที แต่จนถึงขณะนี้ ตัวสก๊อตต์เองเขาก็ไม่เคยยอมรับนะ ว่าเป็นคนทำเมียและลูก เขาปฏิเสธมาตลอด เขาบอกว่าเขารักเมียกับลูกมาก จะทำแบบนั้นทำไม เขาตั้งชื่อลูกไว้ล่วงหน้าแล้วด้วยซ้ำ ว่า คอนเนอร์

แต่เขาก็ถูกแฉอีกว่า เขาหน่ะไม่ได้รักลูกเมียอะไรเลย ตั้งแต่แต่งงานกับเมีย สก๊อตต์ก็แอบมีชู้มาตลอดด้วยซ้ำ เมียก็จับได้บ้างไม่ได้บ้าง คนไหนจับได้สก๊อตต์ก็เลิกไป สักพักก็ไปหาใหม่อีกแล้ว ก็วนๆ อยู่อย่างนี้ตลอดเวลาที่แต่งงานกับเลซี่มา แต่จริง ๆ แล้วการจับกุมสก๊อตต์ ก็ไม่ได้มีหลักฐานหรือพยานอะไรเลย ซึ่งตรงนี้ก็แปลกนิดหน่อย เพราะส่วนใหญ่คนที่ถูกตัดสินว่ามีความผิด จะต้องมีหลักฐานมัดตัวแน่นหนาจนดิ้นไม่หลุดใช่ไหม ยิ่งกับโทษประหารด้วยแล้ว แต่กับคดีของสก๊อตต์ ไม่มีอะไรเลย มันเป็นเพียงการ " คาดเดาตามสถานการณ์ " ทั้งหมด