ทลายแก๊งวัยรุ่นผลิตลีนผสมสูตรเองส่งขายออนไลน์ฟันกำไรอื้อ

สืบเนื่องจากตำรวจไซเบอร์ ได้รับเรื่องร้องเรียนว่า มีผู้โพสต์ขายสารเสพติดชนิดใหม่ที่กลุ่มวัยรุ่นนิยมใช้เรียกว่า “ลีน” หรือ “LEAN” ผ่านบัญชีเฟซบุ๊กบัญชีหนึ่ง.ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 5,000 คน ตำรวจจึงตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเพจดังกล่าวมีการโพสต์ประกาศ โฆษณา เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าที่น่าจะเข้าข่ายสินค้าผิดกฎหมาย หรือ สินค้าประเภทอาหารที่ไม่ปลอดภัยจริง เนื่องจากสินค้าอาจเป็นอันตรายต่อเด็กและเยาวชน ที่อาจหลงเชื่อสั่งซื้อสินค้ามาบริโภค

โดยการตรวจสอบพบว่า “ลีน” เป็นสินค้าที่เยาวชนจำนวนมากนิยมซื้อมาบริโภคเพื่อให้เกิดอาการมึนเมา โดยมักจะจำสูตรจากกลุ่มวัยรุ่นด้วยกัน แล้วนำตัวยาต่าง ๆ มาผสมกันเพื่อบริโภค จากข้อมูลพบว่า “ลีน” นั้นมักมีส่วนผสมของยา Promethazine Hydrochloride หรือ “ยาโปรเมทาซีน” รูปแบบเภสัชภัณฑ์เป็นยาน้ำเชื่อมใสสีม่วง รสหวาน ที่มีจำหน่ายในท้องตลาด และยา “ทรามาดอล” (Tramadol) ซึ่งจัดเป็นยากลุ่มแก้แพ้และแก้ปวด ที่มีความจำเป็นต่อการรักษาโรค เมื่อนำมาผสมกับน้ำอัดลมเพื่อดื่ม จะส่งผลให้เกิดอาการเมา เคลิ้ม ง่วง มึน หรือวัยรุ่นบางกลุ่มยังใช้ยาตัวดังกล่าว ผสมกับน้ำต้มใบกระท่อม และน้ำจากสารสกัดของกัญชา หรือที่เรียกกันว่า “สี่คูณร้อย” ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน

ต่อมา ตำรวจ กก.2 บก.สอท.2 ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข นำกำลังหมายค้นจากศาล เข้าตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 2 จุด โดยจุดที่ 1 บ้านหลังหนึ่ง ถ.เลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กรุงเทพฯ พบนายรณรงค์ อายุ 33 ปี เป็นผู้ดูแลบ้าน ผลการตรวจค้น พบผลิตภัณฑ์ ยี่ห้อจำนวนหนึ่งพร้อมอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต และส่วนผสมต่าง ๆ เช่น วัตถุออกฤทธิ์รวม 545 เม็ด และ น้ำหวาน 4 ขวด

จุดที่ 2 บ้านหลังหนึ่ง ถ.เลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ แขวงหนองแขม
เขตหนองแขม กรุงเทพฯ พบนายสิทธิพล เป็นผู้ดูแลบ้าน ผลการตรวจค้น พบอุปกรณ์บรรจุขวด สติ๊กเกอร์ กล่องลังกระดาษ ที่ใช้กับผลิตภัณฑ์จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน ประกอบการดำเนินคดี

เบื้องต้นนายรณรงค์ ให้ข้อมูลว่า ตนเองเป็นเพียงลูกจ้างของนายนรเสฏฐ์ เจ้าของเพจ มานานกว่า 1 ปี โดยทำหน้าที่รับออเดอร์จากลูกค้า และผสมตัวยาลงในเครื่องดื่มผลิตภัณฑ์ รวมทั้งบรรจุลงขวด จากนั้นส่งให้ลูกค้าผ่านทางบริษัทขนส่งเอกชน โดยจำหน่ายในราคาขวดละ 100 - 150 บาท ตามยอดสั่งซื้อ โดยมียอดสั่งซื้อเฉลี่ยหลายร้อยขวดต่อเดือน

ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ มีไว้ในครองครองวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 โดยไม่ได้รับอนุญาต ” ตาม พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติดฯ ม.35(5), ม.94, ม.149 วรรคสาม และ “ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 มาตรา 12 ประกอบมาตรา 101” นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สน. หนองแขม ดำเนินคดีตามกฎหมาย

นางอรัญญา เทพพิทักษ์ ผอ.ศรป. เตือนว่า ยาที่ตรวจยึดได้เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท หากบริโภคไปแล้วจะมีอาการง่วงซึม หากบริโภคในปริมาณมาก หรือ บริโภคร่วมกับเครื่องดื่มที่เป็นแอลกอฮอล์ จะทำให้เพิ่มการออกฤทธิ์ในการกดประสาท อาจส่งผลให้เกิดอาการหายใจไม่ออก หรือร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้.