#รีวิวหนังสยองขวัญ "#อบิเกล" (#Abigail) หนังแวมไพร์ที่อยู่ๆ กลายเป็นหนังบู๊สนั่นจอ

#รีวิวหนังสยองขวัญ "#อบิเกล" (#Abigail) หนังแวมไพร์ที่อยู่ๆ กลายเป็นหนังบู๊สนั่นจอ เลือดสาด โหด สุดถื่อน เพื่อนๆ ต้องร้องกรี๊ด  

ต้องบอกว่าพี่เพิ่งได้ชมตัวอย่างหนังไปไม่กี่วันก่อนหนังเข้าฉาย เรียกได้ว่าตัดออกมาค่อนข้างดี ดึงดูดคุณผู้ชมพอสมควร ซึ่งต้องบอกอีกว่าคอหนังแวมไพร์ต้องชื่นชอบหนังแนวนี้อย่างแน่นอน แต่หนังผีดิบสูบโลหิตเดี๋ยวนี้มันธรรมดาไป คนสร้างจึงต้องทำงานหนักนิดหน่อยเพื่อออกแบบคาแรกเตอร์ตัวละครให้ออกมาแตกต่าง เป็นเอกลักษณ์ แบบที่หากใครเอ่ยชื่อ "อบิเกล" ออกมาต้องนึกถึงหน้ายัยเด็กผีฟันแหลมเต็มปากสวมกระโปรงบัลเลต์เต้นไปฆ่าคนไปคนนี้เลยทีเดียว

แต่ก่อนที่จะเสพหนังตัวอย่างไป 1 ยก พี่เห็นแค่โปสเตอร์โปรโมต "อบิเกล" ก็พานให้นึกถึงภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่ยังตราตรึงอยู่ในใจเรื่อง "Let me in" หรือชื่อไทยว่า "แวมไพร์ร้าย..เดียงสา" หนังในตำนานของ "หนูโคลอี้ เกรซ มอเรตซ์" ที่เป็นแวมไพร์เหมือนกัน โดยเนื้อเรื่องก็จะเป็นเด็กสาวที่เป็นผีดูดเลือดต้องหาคนมากินเพื่อประทังชีพ แต่พอเข้าไปดู "อบิเกล" เข้าจริง ดั๊นไม่เหมือนอย่างที่คิดเอาไว้เลย เพราะ "อบิเกล" กลับมีมู้ดโทนคล้ายหนังไล่ฆ่า (Slasher) แล้วเหยื่อต้องหาวิธีการเอาตัวรอดด้วยไหวพริบหรือหากลเม็ดอะไรต่างๆ เพื่อมาต่อกรกับฆาตกรอย่างไรอย่างนั้น

หนังเปิดมาอย่างรวดเร็วพาผู้ชมเข้าไปร่วมอยู่ในแก๊งโจรที่ไม่มีใครเคยรู้จักกันมาก่อน แถมมีเงื่อนไขว่าต้องไม่บอกชื่อจริงกันอีกด้วย จึงไม่มีใครล่วงรู้ตัวตนของกันและกันเลย โดยแก๊งโจรนี้มีภารกิจคือลักพาตัว "คุณหนูอบิเกล" ผู้รักการเต้นบัลเลต์ไปไว้ในคฤหาสน์หลังงามหลังหนึ่ง พร้อมโยนโจทย์ไม่ยากให้เหล่าโจรคือต้องอยู่กับ "อบิเกล" จวบจนอีกวันหนึ่งแล้วจะได้ค่าไถ่จากพ่อของเด็กเพื่อแบ่งและแยกย้ายกันหนี นี่คือเงื่อนไขที่พาให้เหล่าตัวละครต้องมาอยู่รวมกันในบ้านหลังนี้ จนเจอดีจากนังหนู "อบิเกล" นั่นเอง

ส่วนตัวพี่มองว่าหนังปล่อยฉากตุ้งแช่ที่ไม่เกี่ยวกับแวมไพร์ค่อนข้างเยอะ แต่ก็ถือว่ากลมกล่อมทำให้รู้สึกหวาดระแวงเสมอๆ ต้องเอามือปิดตาลุ้นจนสะดุ้งไปหลายที เรียกว่าใครขวัญอ่อนก็ต้องจิกแขกคนข้างๆ ไว้จะได้อุ่นใจเหมือนมีเพื่อนเข้าไปอยู่ในหนังด้วยกัน

"อบิเกล" อีผีขี้ตอแหลไม่ปล่อยให้ทุกคนรอนานกับการเฉลยที่มาความสยอง ซึ่งมาพร้อมฉากโหดดิบเถื่อนจนน่าใจหาย ผู้จัดใส่ความน่ากลัวมาเต็มที่ในช่วงต้นเรื่อง ทำให้ผู้ชมทุกคนรับรู้ได้ว่ากำลังเข้าสู่โหมดเลือดแล้ว มันจ๊ากมากแบบชอบเลย ถึงแม้จะมีความเนิบนาบน่ารำคาญเล็กๆ ก็ตาม ก้าวเข้าสู่ช่วงที่ 2 ก็มาพร้อมความตื่นเต้น กับฉากการเอาตัวรอดของเหยื่อทุกๆ คน ฉากแหวะ ฉากเซอร์ไพรส์ก็ปล่อยออกมาเรื่อยๆ ซึ่งก็มีปล่อยมุกฮาๆ ออกมาเป็นระยะๆ ในความโก๊ะกังของตัวละครบางตัว ถือว่าทำออกมาได้ดีทีเดียว ทำเอาหลุดขำไปหลายครั้ง

แต่พอมาถึงองก์ 3 หนังเริ่มพาออกตะเข็บชายไปแดนไปนิดนึง จากที่ลุ้นๆ นั่นนี่อยู่ก็ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นเท่าไร ใส่มาแต่ฉากบู๊ๆ เหมือนหนังบู๊ไปเลยทีเดียว "อบิเกล" ที่แรกๆ ดูลึกลับมีฉากไล่ล่าก็กลายเป็นฉากแอคชั่นกระจายจนจบเรื่อง

ในส่วนของนักแสดงนำอย่าง "อบิเกล" ได้ตัวนักแสดงหน้าใหม่อย่าง "อลิชา เวียร์" ที่บอกว่าหน้าใหม่เพราะพี่ยังไม่เคยเสพผลงานของน้องนางจากเรื่องไหนๆ นั่นเอง ซึ่งอาจจะมีก็ได้ใครรู้กระซิบบอกด้วยนะ ต้องขอชื่นชมการแสดงของ "น้องอลิชา เวียร์" ด้วยเพราะทำออกมาดีเริ่ด ทั้งการแสดงสีหน้าต่างๆ จวบจนเล่นบ้าคลั่งเป็นผีที่น่าขนลุก โดยเรื่องนี้น้องต้องแสดงหลายอารมณ์เพราะเป็นผีตอแหลอยู่ในโลกมาหลายพันปีมีจริตลูกคุณสุดๆ โกหกโกเจ็ดเก่งมากลูก ทำเอาตัวละครหลงกลไปหลายครั้ง

และสำหรับใครที่ชอบหนังแนวเลือดสาดโลหิตสาดกระเซ็นเซ่นความสยองก็ต้องบอกว่าไม่ผิดหวังชัวร์ตัวหนังตัวเนื้อเรื่องก็จะประมาณแบบเอาชีวิตรอดจากแวมไพร์ เอาง่ายๆ ถามว่าตื่นเต้นมั้ยมันก็ตื่นเต้นในช่วงองก์ หนึ่ง องก์ สอง มันโอเคเลย ตื่นเต้นดี ลุ้นดี แต่พอองก์ที่ 3 อย่างที่ที่บอก มันออกนอกฝั่งไปหน่อย มีการเชือดเฉือนหักมุมเปลี่ยนฝักเปลี่ยนฝ่ายกันอุตลุด จึงทำให้หนังไปไม่สุดสักทาง จะมาสยองสยดตดแตกก็ไม่ใช่ จะไปทางลึกลับซับซ้อนซ้อนปมก็ไม่มี แต่พี่ให้ความบันเทิงความสนุกอยู่ในเกณฑ์ดีมีฉากสยองมีฉากหวาดเสียว ถามว่าตื่นเต้นไหม ก็ตื่นเต้นนะ หนังเล่นกับความรู้สึกของผู้ชมได้ในระดับหนึ่ง ก็ถือว่าใช้ได้ไม่ได้ดีมากแต่ก็ไม่ได้แย่มาก เหมือนเป็นหนังไบโพลาร์ขอท้าว่าให้ไปดู สำหรับพี่พี่ให้ 7 เต็ม 10 นะ มันเข้าทางมันโดนใจอยู่

เอาเป็นว่าดูเอามันดูเอาความตื่นเต้นดูเอาบันเทิงไม่ต้องคิดอะไรมากได้อยู่ ถึงขั้นสนุกเลยทีเดียว ส่วนใครที่หวังว่าจะเป็นหนังแวมไพร์ที่มีฉากโรแมนติกเหมือน Let Me In ก็ต้องผิดหวังไปนะ เรื่องนี้เน้นเลือดเนื้อและความเละเฟะเท่านั้นแนะนำเลยเรื่องนี้

ป.ล. หนังแบบนี้น่าจะมีภาคต่อไปได้อยู่นะ มีความรู้สึกแบบนั้น แล้วเจอกันใหม่ในภาค 2 (ถ้ามี)

ขอไว้อาลัยกับ "แองกัส คลาวด์" นักแสดงดาวรุ่งจากซีรีส์ “ยูโฟเรีย” ของ HBO ที่ได้เสียชีวิตแล้วด้วยวัยเพียง 25 ปี โดยภาพยนตร์เรื่อง "อบิเกล" ถือเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของเขา

"แองกัส คลาวด์"