พบศพแรงงานต่างด้าวตายอืดดินกลบ ร่องสวนปาล์มน้ำมัน
พบศพแรงงานพม่าพองอืดตายปริศนาคาสวนปาล์ม
ถูกลากศพใช้ดินและทางปาล์มปิดกลบศพน่าสงสัย ตำรวจเร่งส่งแพทย์ชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตว่าถูกฆาตกรรมหรือไม่
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 4กค.2567 ร.ต.อ.วีรศักดิ์ มะลิทอง รอง สว.(สอบสวน)สภ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุพบศพเสียชีวิตปริศนาไม่ทราบสาเหตุในสวนปาล์มน้ำมัน ซอยนาหัน 2 ม.3 ต.ฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งแล้วจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.บุญเชิญ ลิ้มประจวบพงษ์ ผกก.สภ.สิชล,พ.ต.ท.ปรุฬชัย เหมกัง รอง ผกก.(สอบสวน),แพทย์เวร รพ.สิชล,จนท.มูลนิธิเพชรเกษมนครศรีธรรมราช(สิชล) ร่วมเดินทางไปที่เกิดเหตุเพื่อร่วมกับทำการสืบสวนสอบสวนและชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุบริเวณร่องดินในสวนปาล์มน้ำมัน พบศพผู้ตายเป็นชายชาวพม่า สภาพศพพองอืดส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ศพเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3วัน นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ ไม่สวมเสื้อ มีกองดินเทกลบปิดร่างท่อนบนตั้งแต่สะเอวจนถึงลำคอ แล้วมีเศษทางมะพร้าว และเศษทางปาล์มและหญ้าปิดคลุมทับศพไว้อีกชั้น
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบผู้เสียชีวิตชื่อนายโจวเซเวน อายุประมาณ 35-40ปีเป็นแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า ได้มาทำงานก่อสร้างในพื้นที่ อ.สิชลและพื้นที่ใกล้เคียงมานานหลายเดือนแล้ว โดยเช่าบ้านอยู่เพื่อนคนงานชาวพม่าอยู่ด้วยกัน2คน
โดยจากการตรวจสอบชันสูตรพลิกศพในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถตรวจหาร่องรอยบาดแผลของศพในเบื้องต้นได้ชัดเจน เนื่องจากศพพองอืดเสียชีวิตมาหลายวันแล้ว จนท.จึงนำศพนายโจวเซเวน ไปยัง รพ.สิชล เพื่อให้แพทย์ รพ.สิชล ทำการผ่าชันสูตรศพอย่างละเอียดอีกครั้งว่าศพชาวพม่าดังกล่าวเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตว่าถูกฆาตกรรมหรือไม่ต่อไปคาดว่าจะทราบผลในเร็วๆนี้
โดยจากการตรวจที่บริเวณบ้านเช่าของผู้เสียชีวิต บริเวณใต้ถุนบ้าน จนท.พบร่องรอยการลากศพคล้ายร่องรอยการต่อสู้และยังพบเคสโทรศัพท์มือถือของผู้เสียตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานต่อไป
นอกจากนี้จากการตรวจที่เกิดเหตุ ห่างไปประมาณ100เมตรพบบ้าน2ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ซึ่งเป็นเช่าทมี่ผู้ตายมาเช่าอยู่กับเพื่อนๆชาวพม่าอีก 2 คนแต่เพื่อนชาวพม่าทั้งสองคนได้หายตัวไป ตำรวจอยู่ระหว่างการติดตามตัวเพื่อนชาวพม่าของผู้ตายมาสอบสวนปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป
โดยจากการตรวจที่บริเวณบ้านเช่าของผู้เสียชีวิต บริเวณใต้ถุนบ้าน จนท.พบร่องรอยการลากศพคล้ายร่องรอยการต่อสู้และยังพบเคสโทรศัพท์มือถือของผู้เสียตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานต่อไป
โดยล่าสุดทางตำรวจได้มีการสอบสวนปากคำผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ได้ให้การเบื้องต้นว่า ผู้ตายพร้อมเพื่อนชาวพม่าที่ทำงานก่อสร้างด้วยกันได้เบิกเงินค่าจ้างจากนายจ้างเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และพอวันอาทิตย์มีพยานเห็นคนตายถีบรถจักรยานไปซื้อเหล้าขาวในร้านค้าในหมู่บ้านมานั่งกินที่บ้านเช่ากับเพื่อนคนงานชาวพม่า และสันนิษฐานว่าน่าจะเมาและทะเลาะกัน จึงอาจจะถูกแทงฆ่ากันตอนค่ำวันนั้นเลย ก่อนเพื่อนชาวพม่าจะลากศพมาทิ้งร่องดินในสวนปาล์มน้ำมันใกล้บ้านเช่าประมาณ100เมตร โดยใช้ดินกลบร่างครึ่งท่อนตัวแล้วเอาทางปาล์มและทางมะพร้าวปิดทับร่างก่อนมีชาวบ้านมาพบศพดังกล่าว ซึ่งอย่างไรก็ตามทางตำรวจจะได้รอผลชันสูตรศพอย่างละเอียดอีกครั้ง และสืบสวนสอบสวนว่าหากเป็นการฆาตกรรมจริงก็จะได้เร่งติดตามตัวคนร้ายซึ่งเป็นเพื่อนชาวพม่ามาสอบสวนปากคำขยายผลต่อไปว่าใครเป็นคนร้ายที่แท้จริงต่อไป..





















