หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

หญิงวัย 53 ปี เตือน! ทานยาแก้ท้องผูกนาน ลำไส้ดำเสี่ยงมะเร็ง

แปลโดย มะม่วงแอปเปิ้ล

หญิงจีนวัย 53 ปี จากเมืองไหวอัน มณฑลเจียงซู ทนทุกข์ทรมานจากอาการท้องผูกเรื้อรังมาเป็นเวลานานกว่า 4 ปี เธอพยายามแก้ไขด้วยการปรับเปลี่ยนอาหารการกินในตอนแรก แต่ต่อมาเธอเริ่มลองใช้ยาชาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่างๆ ที่เพื่อนแนะนำบนโลกออนไลน์

หลังจากทานยาเหล่านี้ อาการท้องผูกของเธอก็เริ่มดีขึ้น เธอจึงทานยาเหล่านี้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน และเมื่อยาตัวใดตัวหนึ่งเริ่มไม่มีประสิทธิภาพ เธอก็จะเปลี่ยนไปลองยาตัวอื่น

ทว่า ในช่วงกลางเดือนเมษายนปีนี้ เธอก็เริ่มรู้สึกปวดท้องอย่างรุนแรง ท้องอืด และยาแก้ท้องผูกที่เคยทานได้ผล ก็กลับไม่สามารถช่วยเธอได้อีกต่อไป ด้วยความกังวล เธอจึงรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจ

หลังจากแพทย์ทำการตรวจ พบว่าผนังลำไส้ใหญ่ของเธอทั้งด้านในกลายเป็นสีดำสนิท มีลายเหมือน "ลายเสือดาว" แพทย์วินิจฉัยว่าเธอเป็นโรค "ลำไส้ดำ" ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้ไม่รักษา อาจนำไปสู่ภาวะมะเร็งลำไส้ได้

หญิงรายนี้รู้สึกตกใจกลัวกับสภาพลำไส้ของตัวเองเป็นอย่างมาก แพทย์จึงสั่งยาสมุนไพรจีนที่ช่วยบำรุงร่างกาย ขับลม และขับถ่าย ควบคู่ไปกับการรักษาด้วยวิธีฝังเข็มและการสวนทวารด้วยยาสมุนไพรจีน หลังจากได้รับการรักษา อาการท้องผูกของเธอก็เริ่มดีขึ้น

โรคลำไส้ดำ เกิดจากเซลล์ macrophage ในผนังลำไส้ใหญ่ ดูดซับสารที่มีสีน้ำตาล (melanin) ไว้เป็นจำนวนมาก ทำให้ผนังลำไส้กลายเป็นสีดำ สาเหตุหลักของโรคลำไส้ดำ คือการทานยาแก้ท้องผูกเป็นเวลานาน โดยเฉพาะยาที่มีส่วนผสมของ Senna ซึ่งเป็นยาระบายที่มีฤทธิ์แรง นอกจากนี้ โรคทางเดินอาหารบางชนิด เช่น diverticulosis, intestinal intussusception, และ ulcerative colitis ก็อาจทำให้เกิดโรคลำไส้ดำได้เช่นกัน

ผู้ป่วยโรคลำไส้ดำส่วนใหญ่ไม่มีอาการใดๆ แต่บางรายอาจมีอาการดังต่อไปนี้ ท้องผูก ท้องอืด ปวดท้อง ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ

โรคลำไส้ดำเป็นโรคที่ไม่ร้ายแรงและสามารถรักษาให้หายได้ โดยทั่วไปแพทย์จะแนะนำให้หยุดทานยาแก้ท้องผูก ปรับเปลี่ยนอาหารการกิน ทานอาหารที่มีใยอาหารสูง ดื่มน้ำให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ ในบางราย แพทย์อาจสั่งยาบางชนิดเพื่อช่วยให้อาการดีขึ้น หรืออาจแนะนำให้ทำการส่องกล้องตรวจลำไส้

วิธีป้องกันโรคลำไส้ดำที่ดีที่สุด คือการหลีกเลี่ยงการทานยาแก้ท้องผูกเป็นเวลานาน หากมีอาการท้องผูก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่ถูกต้อง ไม่ควรซื้อยามาทานเอง หากท่านมีอาการท้องผูกเรื้อรัง ปวดท้อง หรือถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาโดยเร็วที่สุด

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
วิกฤตชาวนาเขมร! ราคาข้าวตกต่ำสุดในรอบหลายปี ขายไม่ออกจนต้องเททิ้ง – ฝากความหวังไว้ที่ “ด่านไทย”คาถาโพธิบาท : บทสวดที่ไม่ได้ป้องกันภัย แต่ป้องกันใจ#น้ำมนต์แสงจันทร์เรียกเสน่ห์ความงาม : วันดี 5 พ.ย. 2568 ฤกษ์มงคล “ดาวจันทร์มหาจักร”กัมพูชาปฏิรูปการศึกษาครั้งใหญ่ “ฮุน มาเน็ต” สั่งห้ามเรียนไทย – ปลูกฝังชาติ สกัดสมองไหล“ปลาซิวอ้าว” อาหารปลายฝนต้นหนาว หมกอร่อยโศกนาฏกรรม "อัจฉริยะ" ที่เข้ามหาวิทยาลัยตอน 10 ขวบ และกลายเป็นด็อกเตอร์ในวัย 16 ปี แต่ชีวิตกลับพังในวัย 30 ปีเช็ก 4 ข้อห้าม “วันลอยกระทง” ที่คนโบราณเชื่อว่าหากทำผิด “เคราะห์จะกลับมาหาตัว”!
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
🎬 แอนนา (Anna) ลูกครึ่งสุดฮอต! เผยกำหนดการกลับสู่สนาม A\/ อีกครั้งในปี 2026กัมพูชาปฏิรูปการศึกษาครั้งใหญ่ “ฮุน มาเน็ต” สั่งห้ามเรียนไทย – ปลูกฝังชาติ สกัดสมองไหลไอซ์รัชนกโพสต์ Facebook จะโดนฟ้องกี่คดีก็ไม่กลัว หากทำให้คนในประเทศหูตาสว่าง
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
เปิดประวัติ "นับดาว แสงดาว บัวดี" มิสแกรนด์ราชบุรี 2026 สาวงามผู้ถูกปลดฟ้าผ่าองค์กร Miss Universeเม็กซิโก ลั่น นางงามถูกดูหมิ่น ในประเทศไทย ยอมรับไม่ได้ ‎“กองทัพไทย” ยืนยันว่าจะไม่ปล่อยเชลยศึกจนกว่าจะสิ้นสุดความเป็นปรปักษ์กับกัมพูชา โดยมีเงื่อนไข 4 ข้อที่กัมพูชาต้องปฏิบัติตามธปท.เตรียมออกธนบัตรใหม่ 50 บ และ 100 บ.
ตั้งกระทู้ใหม่