สาระ-การคุมกำเนิดแบบไหนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
โพสท์โดย kapuchino
การคุมกำเนิดมีหลายรูปแบบ โดยมีระดับประสิทธิภาพและข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความต้องการและสถานการณ์ของแต่ละบุคคล การคุมกำเนิดแบบที่มีประสิทธิภาพสูงสุดคือการทำหมันและการฝังยาคุมกำเนิด ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่า 99% แต่การเลือกวิธีการคุมกำเนิดควรพิจารณาจากความสะดวกสบาย ความพร้อมใจของคู่รัก และการปรึกษาแพทย์เพื่อตัดสินใจในวิธีที่เหมาะสมที่สุด โพสนี้จะสรุปวิธีคุมกำเนิดแต่ล่ะวิธีมาให้ ดังนี้
1. การทำหมัน (Sterilization)
-
การทำหมันหญิง (Tubal Ligation)
- รายละเอียด: การผ่าตัดเพื่อตัดหรือปิดท่อนำไข่เพื่อป้องกันไม่ให้ไข่เดินทางจากรังไข่ไปยังมดลูก
- ประสิทธิภาพ: มากกว่า 99% (คุมกำเนิดอย่างถาวร)
- ข้อดี: ประสิทธิภาพสูงมาก, ไม่ต้องกังวลเรื่องการคุมกำเนิดในอนาคต
- ข้อเสีย: ไม่สามารถย้อนกลับได้ง่าย, มีความเสี่ยงจากการผ่าตัด
-
การทำหมันชาย (Vasectomy)
- รายละเอียด: การตัดและปิดท่อนำอสุจิ
- ประสิทธิภาพ: มากกว่า 99% (คุมกำเนิดอย่างถาวร)
- ข้อดี: ประสิทธิภาพสูงมาก, ไม่ต้องกังวลเรื่องการคุมกำเนิดในอนาคต
- ข้อเสีย: ไม่สามารถย้อนกลับได้ง่าย, มีความเสี่ยงจากการผ่าตัด
2. การฝังยาคุมกำเนิด
- รายละเอียด: การฝังแท่งยาฮอร์โมนขนาดเล็กใต้ผิวหนังบริเวณแขน
- ประสิทธิภาพ: มากกว่า 99%
- ข้อดี: ประสิทธิภาพสูง, ใช้งานได้นาน 3-5 ปี, ไม่ต้องจำทานยาทุกวัน
- ข้อเสีย: อาจมีผลข้างเคียงจากฮอร์โมน เช่น ประจำเดือนผิดปกติ, สิวขึ้น, อาการปวดหัว
3. ห่วงอนามัย
-
ห่วงอนามัยทองแดง
- รายละเอียด: ห่วงที่ปล่อยทองแดงเพื่อป้องกันการฝังตัวของไข่
- ประสิทธิภาพ: มากกว่า 99%
- ข้อดี: ใช้งานได้นาน 10 ปี, ไม่มีฮอร์โมน
- ข้อเสีย: อาจทำให้ประจำเดือนมากขึ้นและปวดท้องมากขึ้น
-
ห่วงอนามัยฮอร์โมน
- รายละเอียด: ห่วงที่ปล่อยฮอร์โมนโปรเจสติน
- ประสิทธิภาพ: มากกว่า 99%
- ข้อดี: ใช้งานได้นาน 3-5 ปี, ลดอาการปวดประจำเดือนและประจำเดือนน้อยลง
- ข้อเสีย: อาจมีผลข้างเคียงจากฮอร์โมน เช่น สิวขึ้น, อาการปวดหัว
4. การฉีดยาคุมกำเนิด
- รายละเอียด: การฉีดยาคุมกำเนิดทุก 3 เดือน
- ประสิทธิภาพ: ประมาณ 94%
- ข้อดี: สะดวก, ไม่ต้องจำทานยาทุกวัน
- ข้อเสีย: อาจมีผลข้างเคียงจากฮอร์โมน เช่น น้ำหนักเพิ่ม, อารมณ์แปรปรวน, ประจำเดือนผิดปกติ
5. ยาเม็ดคุมกำเนิด
- รายละเอียด: ยาฮอร์โมนที่ต้องทานทุกวัน
- ประสิทธิภาพ: ประมาณ 91% (ขึ้นอยู่กับการทานยาอย่างสม่ำเสมอ)
- ข้อดี: ควบคุมประจำเดือน, ลดอาการปวดประจำเดือน, มีหลายรูปแบบให้เลือก
- ข้อเสีย: ต้องทานยาทุกวัน, อาจมีผลข้างเคียงจากฮอร์โมน เช่น น้ำหนักเพิ่ม, อารมณ์แปรปรวน, ปวดหัว
รายการที่กล่าวอยู่ด้านบนล้วนเป็นวิธีการคุมกำเนิด ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้คำแนะนำที่เหมาะสมและปลอดภัยต่อสุขภาพของแต่ละบุคคล
ขอบคุณรูปจาก Canva.com
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
กัมพูชาปฏิรูปการศึกษาครั้งใหญ่ “ฮุน มาเน็ต” สั่งห้ามเรียนไทย – ปลูกฝังชาติ สกัดสมองไหล
รวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ ส่วนข้อคิดประจำวันก็คือ ถึงเป็นเดือนพฤศจิกายนแล้ว ฝนก็ยังตกเยอะอยู่เน่อ ไปไหนมาไหนอย่าลืมร่มน๊า
รวมภาพตลกเฮฮาประจำวันนี้ วันที่ตื่นมาทำงานตอนเช้าก็เจอฝนพรำๆเลยเน่อ หน้าฝนปีนี้ยาวนานจริงๆ
โศกนาฏกรรม "อัจฉริยะ" ที่เข้ามหาวิทยาลัยตอน 10 ขวบ และกลายเป็นด็อกเตอร์ในวัย 16 ปี แต่ชีวิตกลับพังในวัย 30 ปี
“พรหมลิขิตบนชายหาดตุรกี” — เรื่องจริงของรักแรกที่หวนคืนหลังผ่านไปยี่สิบปี
เลขเด็ด "แม่นมาก ขั้นเทพ" งวดวันที่ 16 พฤศจิกายน 68 มาแล้ว!..คอหวยส่องด่วน!!
ส่องฐานสแกมเมอร์ "จีนเทา" ที่ล้อมรอบไทยทุกด้าน
ไอซ์รัชนกโพสต์ Facebook จะโดนฟ้องกี่คดีก็ไม่กลัว หากทำให้คนในประเทศหูตาสว่าง
“เจ็บยิ่งกว่าที่จีนลอยแพ” เวียดนามหักฮุนเซน! เมื่อผู้สร้างกลายเป็นผู้ล้างบางทางอำนาจ
ญี่ปุ่นประกาศ สร้างภาพยนตร์ Godzilla ภาคใหม่!!
แม่เลี้ยงเดี่ยวคนหนึ่ง ตั้งครรภ์โดยใช้การบริจาคอสุจิฟรี จากเฟซบุ๊ก แต่เด็กที่ออกมากลับไม่เป็นดั่งหวัง
เลขเด็ด "ทักษามหาโชค" งวดวันที่ 16 พฤศจิกายน 68..ส่องเลย เลขไหนให้โชค!Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ไอซ์รัชนกโพสต์ Facebook จะโดนฟ้องกี่คดีก็ไม่กลัว หากทำให้คนในประเทศหูตาสว่าง
เลขเด็ด "ทักษามหาโชค" งวดวันที่ 16 พฤศจิกายน 68..ส่องเลย เลขไหนให้โชค!
ญี่ปุ่นประกาศ สร้างภาพยนตร์ Godzilla ภาคใหม่!!
“เจ็บยิ่งกว่าที่จีนลอยแพ” เวียดนามหักฮุนเซน! เมื่อผู้สร้างกลายเป็นผู้ล้างบางทางอำนาจ
ส่องฐานสแกมเมอร์ "จีนเทา" ที่ล้อมรอบไทยทุกด้าน
รีวิว “ต้องรอดก่อนย่ำรุ่ง (Until Dawn)” ภาพยนตร์ระทึกขวัญที่ดัดแปลงมาจากเกมดังกระทู้อื่นๆในบอร์ด
สาระ เกร็ดน่ารู้
ตำนาน ข้าวเหนียวมะม่วง (ปลอม) เหตุเกิดที่ตำหนักพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์
เกร็ดความรู้น่าสนใจ : วิธีกินอาหารของคนไทย ธรรมเนียมไทยแท้แต่โบราณ
เรื่องเล่าของชาวจีนโพ้นทะเล ผู้ร่วมสร้างสยามในสมัยรัชกาลที่ 3
หยุดพฤติกรรมนี้ ถ้าไม่อยากให้ "มือถือร้อน-แบตเสื่อม" ไว ผู้เชี่ยวชาญแนะวิธีใช้งานที่ถูกต้อง