เกิดเรื่องฉาว นักเรียนหญิง 2 คนถูกรุ่นพี่นักฟุตบอล 6 คนรุมโทรมในโรงเรียน กลางวันแสกๆ

โรงเรียนดังกาญจนบุรีฉาว นักเรียนหญิง 2 คนถูกรุ่นพี่นักฟุตบอล 6 คนรุมโทรมในโรงเรียน กลางวันแสกๆ พ่อแม่ร้องสายไหมต้องรอด สลดเด็กสุดแค่ 11 ปีเอง

จากกรณีที่เกิดเหตุนักเรียนหญิงชั้น ม.1 จำนวน 2 คน ถูกกลุ่ม รุ่นพี่นักฟุตบอลของโรงเรียน ล่อลวงไปทำร้ายร่างกายและร่วมกันกระทำชำเราในลักษณะโทรมหญิง และพร้อมถ่ายคลิปวิดีโอแบล็คเมล์ไว้ด้วย ภายในห้องพักนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี ในช่วงเวลากลางวัน โดยส่งต่อคลิปกันดูภายในกลุ่ม ผู้ปกครองได้ทราบเรื่องจากญาติในวันถัดมา จึงมาสอบถามลูกสาวและพบว่าได้เป็นความจริง จากนั้นได้ร้องเรียนไปยังเพจสายไหมต้องรอด และ พร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับพวกนักฟุตบอล 6 คน

ต่อมา นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วย รมว.มหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงานหลายคน ลงพื้นที่ติดตามคดีและได้ พบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นนักเรียนชาย 6 คน อายุระหว่าง 11 ถึง 15 ปีแค่นั้น ตำรวจจะนำผู้ก่อเหตุไปสอบปากคำร่วมกับเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพที่สำนักงานอัยการจังหวัดกาญจนบุรีต่อ ด้านโค้ชทีมฟุตบอลได้เผยว่าในวันเกิดเหตุโรงเรียนจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ โดยให้โรงเรียนขนาดเล็กใช้สถานที่จัดแข่งขันกีฬา ด้วยครูในโรงเรียนไปช่วยกันจัดกิจกรรมกีฬา ในหอพักชั่วคราวกลุ่มเด็กนักเรียนชายซึ่งเป็น นักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียนอยู่รวมกันในที่นั้น ที่เกิดเหตุเป็นหอพักชั่วคราวของนักกีฬาฟุตบอล มีนักกีฬาอาศัยอยู่รวม 35 คนด้วยกัน ครูอ้างว่าภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าเด็กนักเรียนหญิงได้เดินเข้ามาในหอพักเอง ไม่มีการบีบบังคับใดๆทั้งสิ้น นักกีฬาที่ไม่เกี่ยวข้องได้ยืนยันว่าไม่ได้ยินเสียงร้องหรือการต่อสู้ใดๆหรือแม้แต่ขัดขืนก็ไม่เห็น บางคนเห็นเพียงการใช้ผ้าห่มคลุมโปงคล้ายๆเล่นกันจับกันเฉยๆแค่นั้นเอง ผู้อำนวยการ สพม.กาญจนบุรี สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบในข้อเท็จจริงภายใน 7 วัน อนุญาตให้เด็กที่ได้รับผลกระทบหยุดเรียน 3 วัน และจัดนักจิตวิทยาเข้าพูดคุย เบื้องต้น

เลขาธิการ สพฐ. ได้สั่งย้าย ผอ.โรงเรียนที่เกิดเหตุไปปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักงานเขตแล้ว ส่วนด้านคดีตำรวจจะสอบสวนขยายผลหาผู้ร่วมก่อเหตุเพิ่มเติมและดำเนินคดีผู้แชร์คลิปวิดีโอต่อไป ทางด้านนายเอกภพเรียกร้องให้กระทรวงศึกษาธิการตรวจสอบระบบความปลอดภัยภายในโรงเรียน และสอบสวนว่าเคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อนหรือไม่ พร้อมเตือนผู้ที่แชร์หรือส่งต่อคลิปว่าจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปอีกด้วย