หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

อันตรายจากการกินน้ำตาลมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ

โพสท์โดย wsut

น้ำตาลทรายที่เรากินเข้าไปจะผ่านกระเพาะอาหารไปยังลำไส้เล็กและจะถูกแยกออกเป็นสองชนิดเราเรียกว่าน้ำตาลกลูโคส (glucose) และน้ำตาลฟรุกโตส(fructose) ทั้งคู่จะถูกดูดดึงเข้าสู่กระแสเลือดเมื่อน้ำตาลกลูโคส (glucose)เข้าสู่กระแสเลือด อินซูลิน (Insulin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่ร่างกายผลิตได้เองจากตับอ่อนช่วยร่างกายในการปรับระดับน้ำตาลในเลือด ไม่ให้สูงเกินไป (Hyperglycemia) หรือต่ำเกินไป (Hypoglycemia) จะถูกหลั่งออกมาเพื่อดึงเอาน้ำตาลกลูโคสออกไปเป็นพลังงานให้กับอวัยวะส่วนต่างๆของร่างกาย  ถ้าเหลือก็จะเก็บไว้เป็นพลังงานสำรองไว้ที่ตับและกล้ามเนื้อ  แต่ถ้ายังเหลืออีกก็จะเปลี่ยนเป็นไขมันที่ชื่อว่าไตรกลีเซอไรด์ (Trigleceride)กระบวนการในส่วนนี้ถ้ากลูโคส (glucose) มากเกินไปทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดค้างสูงก็จะนำไปสู่โรคเบาหวาน

      แหล่งที่มาของกลูโคสในร่างกายมนุษย์ได้จากอาหารจำพวกแป้งซึ่งพบเห็นได้ทั่วไป เช่น ข้าว ขนมปัง ขนมจีน เค้ก ผลิตภัณฑ์จากแป้งสาลี แป้งข้าวเจ้า หรือแม้แต่ผักจำพวกฟักทอง มันเทศ มันแกว ผลไม้ หรืออาหารรสหวานต่างๆ

ส่วนน้ำตาลฟรุกโตส(fructose)เมื่อเข้าสู่ร่างกายและถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดมันจะวิ่งตรงเข้าไปที่ตับเพื่อให้ตับเผาผลาญและเตรียมส่งไปให้ร่างกายใช้งาน แต่ถ้าอวัยวะต่างๆได้รับพลังงานจากกลูโคส (glucose) ไปหมดแล้วทั้งพลังงานสำรองที่ตับก็เต็มแล้วอีก ตับก็จะเปลี่ยนพวกฟรุกโตส(fructose) ส่วนที่เหลือเป็นไขมันที่ชื่อว่าไตรกลีเซอไรด์ (Trigleceride) แล้วก็เอาไปสะสมไว้ตามส่วนต่างๆของร่างกายเป็นไขมันสะสมแทรกผิวหนังไขมันในช่องท้องทำให้เราอ้วนลงพุงจนอาจนำไปสู่ไขมันพอกตับ  หากร่างกายมีไตรกลีเซอไรด์สูง จะส่งผลต่อร่างกาย ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน โรคตับอ่อนอักเสบ โรคไขมันเกาะตับ และมะเร็งเต้านมได้

     น้ำตาลฟรุกโตส(fructose)เป็นน้ำตาลที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติซึ่งพบในผลไม้เป็นหลัก เช่น แอปเปิ้ล อินทผาลัม ลูกแพร์ และลูกพรุน

แต่ยังรวมถึงในผักด้วย (เช่นหน่อไม้ฝรั่ง เห็ด หัวหอม และพริกแดง) น้ำผึ้ง หัวบีทน้และอ้อย ฟรุกโตสบริสุทธิ์ผลิตในเชิงพาณิชย์จากข้าวโพดหรือซูโครสในรูปแบบผลึกเพื่อใช้เป็นส่วนผสมในอาหารบรรจุหีบห่อและเครื่องดื่ม

 

     เราจะรู้ได้อย่างไรว่าไตรกลีเซอไรด์สูง?  ไตรกลีเซอไรด์จะถูกขจัดออกจากเลือดได้อย่างรวดเร็ว ภายใน 2-3 ชั่วโมง หลังจากที่เรารับประทานอาหาร แต่หากตรวจเลือดหลังจากที่งดการรับประทานอาหารมาแล้ว 8-12 ชั่วโมง แล้วพบว่ามีค่า ไตรกลีเซอไรด์ มากกว่า 200 mg/dL นั่นหมายถึง ร่างกายของคุณกำลังมีปัญหาในการขจัดไตรกลีเซอไรด์ โดยไขมันไตรกลีเซอไรด์ระดับปกติจะอยู่ที่ 50-150 mg/dL

เมื่อตรวจพบว่ามีไตรกลีเซอไรด์สูง สิ่งแรกที่ควรทำคือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเอง โดยปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้

โพสท์โดย: wsut
อ้างอิงจาก: https://www.sikarin.com/
https://www.tools.in.th/
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
wsut's profile


โพสท์โดย: wsut
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: wsut
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
สิบเลขขายดี สลากตัวเลขสามหลัก N3 งวด 1/11/68อาบน้ำอยู่ดีๆ เสือโผล่มาซะงั้นเลขเด็ด "ทักษามหารานี" งวดวันที่ 1 พฤศจิกายน 68..ส่องเลย เลขไหนเข้าวิน!ทึ่งทั่วไทย : "พระธาตุกลางน้ำ" พื้นที่อันซีน แห่งจังหวัดหนองคาย“บิ๊กโจ๊ก” ระเบิดลูกใหญ่! ปมทุจริตสะเทือน สตช. “บิ๊กต่อ” และตำรวจอีกกว่า 200 นายถูกชี้มูลAI วิเคราะห์เลขท้าย 2 ตัว งวดวันที่ 1 พฤศจิกายน 68..โดยใช้สถิติย้อนหลัง 20 ปี
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
เด็กชายวัย 10 กับรอยยิ้มสุดท้าย เรื่องจริงของแซมมี่ ทูช ที่โลกต้องไม่ลืมจบในรูแมงมุม ปฏิบัติการจับซัดดัม ฮุสเซน ที่โลกไม่มีวันลืมจากชายไร้ใบหน้า สู่เจ้าบ่าวในโบสถ์เดิม เรื่องจริงของดัลลัส วีนส์ที่โลกต้องยอมใจงานวิจัยจากญี่ปุ่น พบว่า ผมหงอกไม่ใช่แปลว่า แก่ เสมอไป
ตั้งกระทู้ใหม่