โจ๋ 14 ยิงอริ กระสุนปลิวถูกเด็กหญิง 15 ปี เจ็บสาหัส
โจ๋ 14 ยิงอริ กระสุนปลิวถูกเด็กหญิง 15 ปี เจ็บสาหัส
เมื่อเวลา 23.10 น.วันที่ 8 ธันวาคม 2567 ร.ต.อ.สมโชค ษารักษ์ รอง สว ( สอบสวน ) สภ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธปืน มีคนเจ็บสาหัส 1 ราย เหตุเกิดบนถนนสายนาพรุ – จังหุน หมู่ 2 ต.นาพรุ อ.พระพรหม จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วพร้อมด้วย พ.ต.อ.สงบ จันทร์สิงห์ ผกก.สภ.พระพรหม และตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจ รีบ
เดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบคนเจ็บทราบชื่อนางสาวปิยดา อายุ 15 ปี อยู่บ้าน ต.ช้างซ้าย อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช บาดเจ็บถูกอาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงเข้าหน้าผาก อาการสาหัส จึงเร่งนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลพระพรหม แต่อาการสาหัส จึงส่งต่อโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช
จากการสอบสวนเบื้องต้นของตำรวจทราบว่า ก่อนเกิดเหตุคนเจ็บและเพื่อนชายหญิง 5 - 6 คน ขี่รถจักรยานยนต์ 2 – 3 คัน กลับจากร้านสะดวกซื้อ ปั้ม ปตท.นาพรุ มุ่งหน้ากลับบ้านพัก ต.ช้างซ้าย อ.พระพรหม แต่ระหว่างทาง กลุ่มคนเจ็บจอดรถริมถนนเพื่อปัสสาวะ ทันใดนั้นมีอริเป็นชายวัยรุ่นไม่ต่ำกว่า 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังแล้วคนซ้อนท้ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงใส่กลุ่มคนเจ็บจำนวน 1 นัด มีคนเจ็บ 1 คน หลังก่อเหตุขี่รถหลบหนีไป เบื้องต้นตำรวจรู้คนก่อเหตุแล้ว เป็นเยาวชน อายุ 14 – 16 ปี ไม่ต่ำกว่า 2 คน เป็นอริกับวัยรุ่นชายในกลุ่มคนเจ็บ ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามตัวมาสอบสวน ดำเนินคดีตามกฏหมาย
ขณะที่นายปิยะ อายุ 43 ปี พ่อของคนเจ็บ กล่าวยืนยันว่า ลูกสาวไม่ใช่คู่กรณีโดยตรงกับคนก่อเหตุ เชื่อว่าลูกสาวถูกลูกหลง ส่วนอาการล่าสุด แพทย์ให้ครอบครัวทำใจ ส่วนทางคดีครอบครัวฝากตำรวจเร่งรัดติดตามจับกุมคนก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็ว
ล่าสุดช่วงบ่ายวันเดียวกัน พ.ต.ท.ก่อเกียรติ ทองนุ่น รอง ผกก สส.สภ.พระพรหม นำกำลังตำรวจสืบสวน เข้าจับกุมคนก่อเหตุ 2 ราย ทราบชื่อ ด.ช.ต้า อายุ 14 ปี มือยิง และ ด.ช.โดม อายุ 13 ปี คนขี่ เป็นนักเรียนระดับมัธยมต้นโรงเรียนแห่งหนึ่ง อ.พระพรหม
พร้อมอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ที่ใช้ก่อเหตุ
จากการสอบสวนผู้ต้องหา รับสารภาพว่า เป็นคนก่อเหตุจริง แต่อ้างว่าไม่ได้ตั้งใจยิงหวังเอาชีวิต แต่ยิงเพื่อข่มขู่เท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้เคยมีเรื่องกับนายกาย แฟนหนุ่มคนเจ็บ ตอนนี้สำนึกผิดแล้ว อยากขอโทษคนเจ็บและครอบครัวคนเจ็บ ทางตำรวจจึงคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมประสานทีมสหวิชาชีพสอบสวนเพิ่มเติมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

















