หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ตำนาน"มะเมี๊ยะ"โศกนาฎกรรมความรักของเจ้าชายล้านนา

เนื้อหาโดย LSalween2024

ดือนกุมภาพันธุ์ เป็นเดือนแห่งความรัก ซึ่งตามความเข้าใจของคนทั่วไปแล้ว ความรักนี้ก็คือความรักในเชิงชู้สาว เป็นความรักแบบเป็นแฟนกันฉันท์สามีภรรยา คู่รัก ไมได้เป็นความรักแบบทั่วๆ ไป ซึ่งแน่นอนว่าความรักนั้นย่อมมีทั้งสมหวังและผิดหวังเป็นธรรมดา ใครสมหวังได้เป็นคนรักครองคู่และรักกันจนแก่เฒ่าก็มีความสุข แต่ก็มีอีกหลายคู่ด้วยเช่นกันที่แม้จะรักกันปานจะกลืน ก็มีอุปสรรคมาขวางกั้นไม่สามารถอยู่ครองคู่กันได้อย่างที่ใจปรารถนา อย่างเช่น ตำนานความรักของเจ้าชายผู้สูงศักดิ์กับหญิงสาวพม่าแม่ค้าคนธรรมดาที่ชื่อ “มะเมี๊ยะ”  จนกลายเป็นตำนานความรักอมตะของชาวล้านนาที่ถูกเล่าขานมาจนถึงปัจจุบัน

ตำนานความรัก “มะเมี๊ยะ”เกิดขึ้นเมื่อประมาณปี 2441 หรือราวๆ 127 ปีก่อน โดยเจ้าน้อยสุขเกษม ซึ่งเป็นลูกของเจ้าแก้วนวรัฐอุปราชนครเชียงใหม่ ตอนที่เจ้าน้อยสุขเกษมอายุได้ 15 ปี ก็ถูกส่งไปเรียนที่โรงเรียนเซนต์แพทริก เป็นโรงเรียนคาทอลิกที่เมืองมะละแหม่ง หว่างที่ศึกษาอยู่ในเมืองมะละแหม่งนั้น เจ้าน้อยสุขเกษมได้พบรักกับหญิงสาวพม่าชาวบ้านธรรมดานางหนึ่งที่มีหน้าสะสวยเหมือนเดือนส่องแสง โดยเธอนั้นมีอาชีพเป็นแม่ค้าขายบุหรี่ ทั้งคู่มีโอกาสเจอกันบ่อยครั้งจนถึงขั้นมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งเมื่อพ่อแม่ฝ่ายหญิงรับรู้ก็ลงเอยด้วยกันให้ครองคู่ฉันท์สามีภรรยา แต่หลังจากอยู่กินกันได้ 5 ปีเจ้าน้อยสุขเกษมก็สำเร็จการศึกษาและจะต้องกลับเมืองเชียงใหม่ ซึ่งตอนที่เจ้าชายกลับมานั้น ก็แอบพามะเมี๊ยะโดยปลอมตัวเป็นชายมาอยู่กินด้วยเงียบ ๆ ที่นครเชียงใหม่ โดยตอนแรกนั้นเจ้าชายก็ให้คนสนิทปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ แต่สุดท้ายเรื่องนี้ก็ไม่สามารถปิดเป็นความลับต่อไปได้ ความรักของทั้งคู่ก็เลยจบลงด้วยเหตุผลเชื้อชาติและทางการเมือง เพราะมะเมี๊ยะนั้น แม้จะเป็นคนพม่าก็จริง แต่ว่าถือสัญชาติอังกฤษ อีกทั้งตอนนั้นประเทศอังกฤษกำลังมีปัญหากับนครเชียงใหม่เพื่อหวังแทรกแซงและครองนครหวังผลยึดไม้สักที่ตอนนั้นเชียงใหม่มีไม้สักทองเยอะมาก ๆ หากทั้งสองได้ครองรักกันต่อไปอังกฤษก็จะใช้จุดเนี้ยมาเป็นการแทรกแซงเข้ายึดเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเรื่องนี้ก็อาจจะทำให้สยามไม่พอใจเป็นอัน ด้วยเหตุนี้เจ้าแก้วนวรัฐและแม่เจ้าจามมรีจึงเรียกเจ้าน้อยสุขเกษมมาพบและยื่นคำขาดให้เลิกกันกับมะเมี๊ยะ

เจ้าน้อยเกษมก็ไม่อาจที่จะขัดคำสั่งห้ามของพ่อแม่ได้ จำต้องตัดใจและพาส่งคืนมะเมี๊ยะกลับประเทศพม่าไป โดยเตรียมขบวนช้างส่งคืนอย่างสมเกียรติ์ โดยก่อนที่ทั้งคู่จะพรากพลาดจากกัน มะเมี๊ยะก็ก้มลงกราบที่เท้าเจ้าน้อยสุขเกษมแล้ว โดยใช้ผมยาว ๆ ของนางเช็ดถูตรงเท้าของเจ้าน้อยสุขเกษมเป็นการยืนยันว่าชาตินี้จะไม่มีชายอื่นใดนอกจากเจ้าชาย ส่วนเจ้าน้อยสุขเกษมก็ให้สัญญากับมะเมี๊ยะว่าจะสะสางเรื่องราวของตนเองให้สำเร็จก่อน มะเมี๊ยะเฝ้ารอการกลับมาของเจ้าน้อยสุขเกษมจนเวลาล่วงเลยไป 3 เดือนจนครบกำหนดที่เจ้าน้อยสุขเกษมรับปากไว้ แต่ไม่มีวี่แววว่าเจ้าชายจะกลับมา มะเมี๊ยะจึงตัดสินใจเดินเข้าทางธรรมโดยไปบวชเป็นชี เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจที่มีต่อเจ้าน้อยเกษม

"เจ้าบัวนวล" อดีตคู่หมั้นตอนที่เจ้าชายไปเรียนที่มะละแหม่ง

ส่วนเจ้าน้อยสุขเกษมก็ถูกเจ้าดารารัศมีเรียกตัวไปราชการที่กรุงเทพ ได้รับยศเป็นนายร้อยตรีเจ้าอุตรการโกศลและได้แต่งงานกับเจ้าบัวชุม สาวในตำหนักของพระราชชายา เจ้าดารารัศมีนั่นเอง เมื่อมะเมี้ยะทราบข่าวเจ้าน้อบสุขเกษมแต่งงานก็เดินทางรอมแรมมาหาเพื่อต้องการถอนคำสาบานที่ได้ให้ไว้ต่อกัน เพื่อไม่ให้เจ้าชายรับกรรมตามคำสาบาน แต่เจ้าชายไม่กล้าออกมาพบเพราะตัวเองผิดคำสัญญาและสงสารมะเมี๊ยะ แต่ได้ส่งท้าวบุญสูงนำเงิน 800 บาทมอบให้แม่ชีมะเมี๊ยะเพื่อทำบุญและถอดแหวนทับทิมประจำตัวให้มะเมี๊ยะไปด้วย การที่ทั้งคู่เจอกันที่ประตูหายยา ในวันที่มะเมี๊ยะกลับมะละแหม่ง จึงเป็นวันสุดท้ายที่ทั้งคู่ได้พบกัน สำหรับเจ้าน้อยเกษมนั้นก็ตรอมใจ ดื่มสุราดับกลุ้มตลอดเวลา พอหลังจากแต่งงานได้เพียง 6 ปี ก็ถึงแก่ความตายด้วยพิษสุราในวัยเพียง 33 ปี ส่วนมะเมี๊ยะนั้นครองเพสเป็นชีจนถึงสิ้นอายุขัยในวัย 75 ปี เมื่อปีพ.ศ.2505

เรื่องราวความรักของเจ้าน้อยสุขเกษมกับมะเมี๊ยะ จึงเป็นตำนานความรักที่ถูกเล่าขานผ่านมาอย่างเนิ่นนานนับ100 กว่าปี และอดีตนักร้องนักแต่งเพลงคนล้านนาผู้ล่วงลับอย่างคุณจรัล มะโนเพชร ได้แต่งเพลงชื่อ “มะเมี๊ยะ”และขับร้องโดยคุณสุนทนรี เวชานนท์ จนโด่งดังมากเมื่อปี 2520 จะบอกว่าเพลงเพราะมากและเศร้ามากด้วยเช่นกัน ใครที่ยังไม่ได้ฟัง ไปหาฟังกันนะครับ

เนื้อหาโดย: LSalween2024
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
LSalween2024's profile


โพสท์โดย: LSalween2024
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ถล่มอุโมงค์ลับ เนิน 350 ทัพฟ้าส่ง F-16 เสิร์ฟไข่ 6 รอบติดย้อนวันวาน “ศูนย์อาหารมาบุญครอง พ.ศ. 2535” ต้นแบบฟู้ดคอร์ทไทย จากคูปองเงินสด สู่ยุคสแกนจ่ายในปลายนิ้วประธานสมาคม ตามไปตำหนินักกีฬา ถึงกับร้องไห้โฮ ในซีเกมส์ครั้งที่ 33ไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญแฉเรือทุนไทยขายน้ำมันให้เขมร อดีต สว ประกาศ เตือน ทัพเรือสั่ง 'จมเรือ' ได้ทันที เพราะประกาศกฎอัยการศึกไวรัลสุดน่ารัก! 💖 “เจนิส” วิ่งหน้าตื่นขึ้นเวทีในชุดขาว รับรางวัลระดับเอเชีย ก่อนโชว์พูดจีนกลางคล่องคลังเขมรเกลี้ยง ฮุนเซน ขอเงินเดือนเอกชน 5% อ้างช่วยชาติเลขเด็ด "เจ้าแม่ตะเคียน" งวดวันที่ 2 มกราคม 69 มาแล้ว!..เลขไหนเข้าวิน ส่องเลย!ประธานกรรมการสิทธิฯ เขมร เย้ยกองทัพไทย ต้องพึ่งเครื่องบินรบ ถ้าไม่มี F-16 ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้เขมร ‎โค้งสุดท้ายก่อนสิ้นปี! คลังเร่งประชาชนใช้สิทธิ “คนละครึ่งพลัส” ภายใน 19 ธ.ค. นี้ หนุนร้านค้าชุมชนรับเงินเพิ่ม 2,000 บาท กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากทั่วประเทศไขความลับสุขภาพหญิง: เซ็กซ์บ่อยทำช่องคลอดหลวมจริงหรือ?"ผื่นไข่มุก" ตุ่มนูนลึกลับบนน้องชายที่หมอเฉลยว่าเป็นแค่ของขวัญจากธรรมชาติ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
คลังเขมรเกลี้ยง ฮุนเซน ขอเงินเดือนเอกชน 5% อ้างช่วยชาติไขความลับสุขภาพหญิง: เซ็กซ์บ่อยทำช่องคลอดหลวมจริงหรือ?เที่ยววัดกู้ นนทบุรี แวะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายที่สายมูห้ามพลาด"ผื่นไข่มุก" ตุ่มนูนลึกลับบนน้องชายที่หมอเฉลยว่าเป็นแค่ของขวัญจากธรรมชาติย้อนวันวาน “ศูนย์อาหารมาบุญครอง พ.ศ. 2535” ต้นแบบฟู้ดคอร์ทไทย จากคูปองเงินสด สู่ยุคสแกนจ่ายในปลายนิ้วเลขเด็ด "แม่นมาก ขั้นเทพ" งวดวันที่ 2 มกราคม 69 มาแล้ว!..คอหวยส่องด่วน!!
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
ถอดบทเรียนโศกนาฏกรรมบางนา-ตราด "สะพานลอยไทย แข็งแรงแค่ไหน ?"ความสุขของการเดินทางคือที่พัก เพราะเอนกายได้พักเมื่ออถึงกาลพักกายาเปิดเคล็ดลับงานบ้านที่หลายคนมองข้าม ขจัดคราบดำขอบซิลิโคน คืนความสะอาดห้องน้ำ โดยไม่ต้องขูด ไม่ต้องรื้อเปลี่ยนใหม่ช่องอากาศที่สวยงามและสีสันสวยงาม วิวและขอบด้านปราสาทเขาพระวิหาร นั่งรับลม
ตั้งกระทู้ใหม่