หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

อ้อมกอด กอดกันวันละ 8 ครั้ง ชาร์จพลังบวก ช่วยเยียวยาโรคภัย

โพสท์โดย sompeansomped

 

การกอด คือ การแสดงความรักเป็นภาษากายที่ใช้ในการทักทายและบอกลาที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย การกอดสามารถเรียก “พลัง” ในขณะที่ร่างกายเรากำลังหมดแรง รู้สึกเหนื่อย ท้อแท้ หรือเศร้าใจ การได้กอดดี ๆ จากคนที่เรารักจะทำให้เรารู้สึกเหมือนได้ชาร์จแบตให้เต็มอีกครั้ง

 

นักจิตบำบัด Virginia Satir กล่าวว่า “มนุษย์เราต้องการ 4 กอดต่อวันเพื่อความอยู่รอด เราต้องการ 8 กอดต่อวันสำหรับการบำรุงรักษา เราต้องการการกอด 12 ครั้งต่อวันเพื่อการเติบโต”

 

 

การกอดที่ได้ผลสำหรับการบำบัดโรคนั้น ระบุว่าต้องกอดกันเป็นเวลานาน 20 วินาทีขึ้นไป เพื่อให้ฮอร์โมนออกซิโทซิน (oxytocin) ในร่างกายถูกปลดปล่อยพลังบวกออกมาที่ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันและลดความเครียด โดยสมองส่วนไฮโปทาลามัส (Hypothalamus) จะผลิตสารเคมีที่เรียกว่า ออกซิโทซิน (Oxytocin) หรือฮอร์โมนแห่งความรัก ซึ่งปล่อยออกมาจากต่อมใต้สมอง ทำให้รู้สึกอบอุ่น รู้สึกดี

 

 

นอกจากนี้ยังกระตุ้นการทำงานของฮีโมโกลบิน ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเม็ดเลือดแดง ทำให้ลำเลียงออกซิเจนไปยังเซลล์ต่าง ๆ ทั่วร่างกายได้ดีขึ้น ส่งผลให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า แข็งแรง สุขภาพดี ช่วยรักษาภาวะซึมเศร้า และลดความเครียดได้

 

สำหรับผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพจะมีการหลั่งฮอร์โมนแห่งความเครียดออกมามาก เพราะผู้ป่วยมักคิดว่าตัวเองโดดเดี่ยว เมื่อฮอร์โมนหลั่งออกมามากเท่าไรก็จะยิ่งทำลายระบบภูมิคุ้มกันทำให้สุขภาพแย่ลงเท่านั้น ดังนั้นการกอดจึงเป็นหนึ่งวิธีที่ช่วยลดอาการทางจิตใจเหล่านี้ได้

 

 

ประโยชน์ของการกอดเราควรจะกอดกันให้ได้ 8 ครั้ง เพื่อส่งพลังบวกไปรักษาโรคต่าง ๆ ดังนี้

1.ลดอาการซึมเศร้า เมื่อเรากอดกัน ร่างกายจะหลั่ง “เซโรโทนิน” Serotonin หรือ “ฮอร์โมนรู้สึกดี” เมื่อเซโรโทนินไหลเวียนไปตามร่างกาย จะรู้สึกผ่อนคลายและเกิดความมั่นใจมากขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งพายาแก้ซึมเศร้า

 

2.ลดความเครียด นักวิจัยบางคนเชื่อว่าการกอดและการสัมผัสระหว่างบุคคลอื่น ๆ สามารถเพิ่มฮอร์โมนออกซิโทซิน oxytocin เพียงแค่กอดกันทุกวัน ทำให้สมองสามารถผลิตสารเคมีเพื่อการผ่อนคลาย ช่วยให้รู้สึกปลอดภัยมากขึ้น

 

 

3.ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง การศึกษาชิ้นหนึ่ง พบว่า คนที่ถูกกอด และรู้สึกว่าได้รับความรัก ความอบอุ่น ส่งผลให้อาการเจ็บป่วยที่รุนแรงบรรเทาลง

 

4.การกอดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ใหญ่ การสัมผัสทางกายและการกอด สามารถต่อสู้กับความรู้สึกเหงาที่เกิดขึ้นเมื่อคนเราอายุมากขึ้น

 

5.การกอดทำให้หลับสบาย การกอดที่มีปฏิสัมพันธ์กับการนอนหลับสบาย พิสูจน์ได้จากการได้กอดคู่รัก ในขณะนอนหลับที่ถ่ายทอดความอบอุ่นให้กันและกัน ทำให้หลับสบายได้ตลอดทั้งคืน ขณะที่กอดกันร่างกายจะปล่อยสารเซโรโทนิน(Serotonin) เป็นสารชีวเคมีชนิดหนึ่งที่ร่างกายสร้างขึ้น มีคุณสมบัติต่อระบบประสาท ทำให้สงบและร่างกายสามารถเข้าสู่การนอนหลับพักผ่อนได้มากขึ้น

 

 

6.การกอดสามารถทำให้มีสติและสมาธิ ท่านอาจารย์ Thich Nhat Hanh พระอาจารย์แห่งนิกายเซน ได้ทำการทดลองการทำสมาธิด้วยการกอด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำมาใช้เพิ่มการรับรู้และการอยู่ร่วมกันของมนุษย์ ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่าการกอดจะเพิ่มความสุขและการทำสมาธิแบบง่าย ๆ ในการรวมสติกับฮอร์โมนออกซิโทซินที่มีประสิทธิภาพ

 

 

7.การกอดสามารถลดความกลัวได้  การศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างความกลัว และความภาคภูมิใจในตนเองโดยเชื่อมโยงระหว่างการสัมผัสของมนุษย์ด้วยการกอด พบว่า ผู้เข้าร่วมทดลองมีแนวโน้มเรื่องความวิตกกังวลน้อยลงต่อการเสียชีวิตเมื่อถูกสัมผัสเบา ๆ หรือกอด

 

8.การกอดอาจทำให้ความดันโลหิตลดลง  มหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนาได้ทำการศึกษากับผู้หญิง 59 คน พบผลลัพธ์ที่น่าสนใจว่า ผู้หญิงที่ได้กอดกับคู่รักนาน 20 วินาที จะมีความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจลดลงในระหว่างการทดสอบ

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
sompeansomped's profile


โพสท์โดย: sompeansomped
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ถล่มอุโมงค์ลับ เนิน 350 ทัพฟ้าส่ง F-16 เสิร์ฟไข่ 6 รอบติดคลังเขมรเกลี้ยง ฮุนเซน ขอเงินเดือนเอกชน 5% อ้างช่วยชาติประธานสมาคม ตามไปตำหนินักกีฬา ถึงกับร้องไห้โฮ ในซีเกมส์ครั้งที่ 33🎓 สาวเนิร์ดจากรั้วมหา'ลัยดังญี่ปุ่น สู่เส้นทาง AV เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังความต้องการ 'สุดโต่ง' 💥ประธานกรรมการสิทธิฯ เขมร เย้ยกองทัพไทย ต้องพึ่งเครื่องบินรบ ถ้าไม่มี F-16 ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้เขมร ‎ย้อนวันวาน “ศูนย์อาหารมาบุญครอง พ.ศ. 2535” ต้นแบบฟู้ดคอร์ทไทย จากคูปองเงินสด สู่ยุคสแกนจ่ายในปลายนิ้วไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญแฉเรือทุนไทยขายน้ำมันให้เขมร อดีต สว ประกาศ เตือน ทัพเรือสั่ง 'จมเรือ' ได้ทันที เพราะประกาศกฎอัยการศึกไวรัลสุดน่ารัก! 💖 “เจนิส” วิ่งหน้าตื่นขึ้นเวทีในชุดขาว รับรางวัลระดับเอเชีย ก่อนโชว์พูดจีนกลางคล่องเลขเด็ด "เจ้าแม่ตะเคียน" งวดวันที่ 2 มกราคม 69 มาแล้ว!..เลขไหนเข้าวิน ส่องเลย!ผลตรวจทางการแพทย์สวนทางคำอ้าง: Tokyogurl กับบทสรุปความจริงเบื้องหลังพฤติกรรม "เล่นทิพย์ฟีดแตกอีกแล้ว!! “โธ่เอ๊ย” กลับมาทวงบัลลังก์ไวรัลแบบไม่ต้องพัก
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
คลังเขมรเกลี้ยง ฮุนเซน ขอเงินเดือนเอกชน 5% อ้างช่วยชาติไขความลับสุขภาพหญิง: เซ็กซ์บ่อยทำช่องคลอดหลวมจริงหรือ?เที่ยววัดกู้ นนทบุรี แวะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายที่สายมูห้ามพลาด"ผื่นไข่มุก" ตุ่มนูนลึกลับบนน้องชายที่หมอเฉลยว่าเป็นแค่ของขวัญจากธรรมชาติย้อนวันวาน “ศูนย์อาหารมาบุญครอง พ.ศ. 2535” ต้นแบบฟู้ดคอร์ทไทย จากคูปองเงินสด สู่ยุคสแกนจ่ายในปลายนิ้วเลขเด็ด "แม่นมาก ขั้นเทพ" งวดวันที่ 2 มกราคม 69 มาแล้ว!..คอหวยส่องด่วน!!
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ทั่วไป
ความสำเร็จวัดกันที่กระบวนการ สไตล์สมองไหล"ไทย" ทักษะภาษาอังกฤษต่ำมาก รั้งรองโหล่สูงกว่าแค่"กัมพูชา"เดินวันละ 3,000 ก้าว ลดความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ที่มาของ สต็อกโฮล์ม ซินโดรม Stockholm Syndrome อาการของคนที่เป็นเหยื่อ รู้สึกเห็นอกเห็นใจคนร้าย หลังจากใช้เวลาอยู่ด้วยกันระยะหนึ่ง แม้กระทั่งเหยื่อของความรุนแรงในครอบครัว
ตั้งกระทู้ใหม่