เกิดเหตุสังหารหมู่ชาวคริสเตียนในคองโกโดยไอซิส
เกิดเหตุความรุนแรงร้ายแรง ในภูมิภาคลูเบโร ทางตะวันออก ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก โดยกองกำลังพันธมิตรประชาธิปไตย ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธที่เชื่อมโยงกับกลุ่มรัฐอิสลาม [ไอซิส] ได้บุกเข้าไปในโบสถ์ของชุมชน ก่อนจับกุมชาวคริสเตียนประมาณ 70 คน ด้วยการมัดมือไพล่หลัง ก่อนตัดหัวอย่างโหดเหี้ยม...
เป้าหมายของ กองกำลังพันธมิตรประชาธิปไตย คือ การเปลี่ยนแปลงชุมชนคริสเตียน ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกตะวันออกเฉียงเหนือ ให้กลายเป็นรัฐอิสลาม และ บังคับให้คริสเตียนในท้องถิ่น ปฏิบัติตามประเพณีอิสลามสุดโต่ง
เหตุการณ์นองเลือดดังกล่าว ทำให้เกิดความตื่นตระหนกในพื้นที่ ส่งผลให้คริสเตียนจำนวนมาก ทำการอพยพออกจากพื้นที่ เพื่อไปหาที่หลบภัยชั่วคราว...
ผู้อำนวยการโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่ง ที่อยู่บริเวณใกล้เคียง กล่าวว่า "เนื่องจากสถานการณ์ด้านความปลอดภัย มีความรุนแรงมากขึ้นอย่างรวดเร็ว โบสถ์ โรงเรียน และ ศูนย์การแพทย์ในท้องถิ่น จึงถูกปิดให้บริการ" และ "ที่น่าเศร้าใจยิ่งกว่านั้น คือ ครอบครัวของผู้เสียชีวิตหลายราย ไม่สามารถจัดพิธีฝังศพให้กับคนที่พวกเขารักได้ หลังจากเกิดเหตุเนื่องจากสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง"
ผู้อาวุโสของคริสตจักร CECA20 กล่าวว่า "เราไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร หรือ จะอธิษฐานอย่างไร เราเบื่อหน่ายกับการสังหารหมู่นี้"
องค์กรระหว่างประเทศ Open Doors ได้ออกมากล่าวประณามอย่างรุนแร งต่อความรุนแรงต่อพลเรือน และ เรียกร้องให้รัฐบาลและองค์กรระหว่างประเทศ ให้ความสำคัญกับการปกป้องพลเรือน ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกทางตะวันออก เป็นอันดับแรก
ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ขององค์กรระหว่างประเทศ Open Doors "จอห์น ซามูเอล" กล่าวว่า "ผู้ก่อเหตุรุนแรงดังกล่าว มักจะไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ"
เลขาธิการแห่งรัฐฮังการี "ทริสตัน อัซเบจ" ที่ดูแลความช่วยเหลือคริสเตียนที่ถูกข่มเหง โพสต์บน X ว่า "ผมรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์นี้มาก!!" และ "ผมคิดว่าพวกเขาคงต้องการ สงครามศาสนา..."

















