ชายรักร่วมเพศ 2 คนถูกเฆี่ยนกว่า 150 ครั้งต่อหน้าชาวบ้านเพราะมีเพศสัมพันธ์กัน
ผู้คนจำนวนมากได้เห็นการเฆี่ยนตีที่ห้องโถงในสวนสาธารณะ Bustanussalatin ของเมืองบันดาอาเจะห์ นับเป็นครั้งที่สี่แล้วที่อาเจะห์ ซึ่งเป็นจังหวัดเดียวในอินโดนีเซียที่บังคับใช้กฎหมายชารีอะห์ ได้เฆี่ยนตีผู้คนที่ถือรักร่วมเพศ นับตั้งแต่กฎหมายอิสลามถูกบังคับใช้ในปี 2549 โดยรัฐบาลยอมให้ยุติการกบฏแบ่งแยกดินแดนที่ดำเนินมายาวนาน
นักศึกษาชาย 2 คนวัย 24 และ 18 ปี ถูกจับกุมในเดือนพฤศจิกายน หลังจากมีผู้สงสัยว่าพวกเขาเป็นเกย์ และบุกเข้าไปในห้องเช่า จากนั้นก็จับได้ว่าพวกเขากำลังเปลือยกายและกอดกัน ก่อนจะนำตัวไปที่ตำรวจชารีอะห์
ศาลชารีอะห์ตัดสินให้ทั้ง 2 คนรับโทษเฆี่ยน 85 และ 80 ครั้ง ตามลำดับ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ 5 นายซึ่งสวมชุดคลุมและหมวกคลุมได้เฆี่ยนตีที่หลังของพวกเขา หลังจากถูกเฆี่ยนไปแล้ว 20 ครั้งพวกเขาจะได้พักเพื่อดื่มน้ำและรับการรักษาบาดแผล สุดท้ายทั้งคู่ถูกเฆี่ยน 82 และ 77 ครั้ง หลังจากได้รับการอภัยโทษจากการถูกจำคุก โดยหนึ่งในชาย 2 คนต้องถูกหามออกไป เนื่องจากเขาอ่อนแรงเกินกว่าจะขยับตัวได้หลังจากถูกเฆี่ยนครั้งสุดท้าย
ในอาเจะห์อนุญาตให้เฆี่ยนตีได้มากถึง 100 ครั้งสำหรับความผิดทางศีลธรรม รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างเกย์และการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่ไม่ได้สมรส การเฆี่ยนตีถือเป็นการลงโทษในอาเจะห์สำหรับการเล่นการพนัน การดื่มแอลกอฮอล์ ผู้หญิงที่ สวมเสื้อผ้ารัดรูป และผู้ชายที่ไม่ไปละหมาดวันศุกร์อีกด้วย
ที่มา:Associated Press

















