แก้วเก็บอุณหภูมิ 5 เครื่องดื่ม ที่ไม่ควรใส่ในแก้วเก็บอุณหภูมิ อาจเสี่ยงเป็นพิษ ข้อเท็จจริง และคำแนะนำ

 

แก้วเก็บอุณหภูมิ คือ  อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับเก็บรักษาอุณหภูมิของเครื่องดื่ม ทำให้เครื่องดื่ม หรือ อาหารคงความเย็นได้นานขึ้น แก้วเก็บอุณหภูมิมีรูปทรงที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับบริษัทผู้ผลิต เพื่อให้เครื่องดื่มคงความเย็น และคงรสชาติตลอดเวลาที่ใช้

 

 

ประโยชน์ของ แก้วเก็บอุณหภูมิ

1.การรักษาความเย็น  ช่วยรักษาความเย็นของเครื่องดื่มได้นานขึ้น ทำให้สามารถเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มที่เย็นสดชื่นตลอดวัน

 

2.ให้ความสะดวกสบาย  ช่วยให้ไม่ต้องใส่น้ำแข็ง หรือแช่เครื่องดื่มในถังน้ำแข็งเพื่อให้เครื่องดื่มเย็น ช่วยประหยัดเวลาเป็นอย่างมาก

 

 

3.สวยงามและน่าใช้งาน แก้วเก็บอุณหภูมิให้ความสวยงาม และน่าสนใจในการเสิร์ฟเครื่องดื่ม อย่างเช่น สามารถใส่น้ำผลไม้ หรือน้ำผักในแก้วเก็บความเย็น เพื่อเพิ่มความสดชื่น และสวยงามให้กับเครื่องดื่ม

 

4.ลดการเกิดความสูญเสียรสชาติ  ช่วยลดการสูญเสียรสชาติของเครื่องดื่มที่ไม่ได้ถูกบริโภคในทันที

 

 

การเลือกใช้แก้วเก็บอุณหภูมิ

1.วัสดุที่ใช้  ควรเลือกแก้วเก็บความเย็นที่ทำจากวัสดุที่มีความทนทาน และไม่ส่งผลต่อรสชาติของเครื่องดื่ม หรืออาหาร อย่างเช่น สแตนเลส

 

2.ฟังก์ชั่นพิเศษ  ควรเลือกแก้วเก็บความเย็นที่มีฟังก์ชั่นพิเศษที่ตอบสนองต่อความต้องการ อย่างเช่น ช่องระบายอากาศหรือฝาที่มีที่เปิด-ปิดสนิท สามารถป้องกันการรั่วของความเย็น

 

 

3.ขนาดและความจุ ควรเลือกแก้วเก็บอุณหภูมิที่มีขนาด และความจุที่เหมาะสมกับความต้องการ อย่างเช่น แก้วขนาดเล็กสำหรับใช้ในบ้าน หรือในรถยนต์  แก้วขนาดใหญ่สำหรับใช้ในงานเลี้ยง

 

4.การดูแลรักษา ควรเลือกแก้วเก็บอุณหภูมิที่ง่ายต่อการดูแลรักษา อย่างเช่น แก้วที่สามารถล้าง หรือใส่ลงในเครื่องล้างจานได้

 

5.ราคา  ควรพิจารณางบประมาณเมื่อเลือกแก้วเก็บความเย็น  เลือกแก้วที่มีคุณภาพ และราคาที่เหมาะสมกับความต้องการ และความพึงพอใจ

 

 

5 เครื่องดื่ม ที่ไม่ควรใส่ในแก้วเก็บอุณหภูมิ อาจเสี่ยงเป็นพิษ

1.นม  นมที่อยู่ในแก้วเก็บอุณหภูมิเป็นเวลานาน อาจกลายเป็นแหล่งเพาะแบคทีเรียได้

 

ข้อเท็จจริง  นมที่ถูกเก็บที่อุณหภูมิอุ่นเป็นเวลานาน (มากกว่า 2 ชั่วโมง) อาจเกิดการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย อย่างเช่น Bacillus cereus ได้ แก้วเก็บอุณหภูมิไม่ได้ทำให้นมเป็นพิษ แต่ควรบริโภคภายในเวลาที่เหมาะสม

 

คำแนะนำ  ควรใช้แก้วที่สามารถเก็บอุณหภูมิเย็นได้ดี และควรไม่ทิ้งไว้นานเกิน 2 ชั่วโมง 

 

 

2.ยาสมุนไพร, ยาจีนแผนโบราณ  สารประกอบในยาสมุนไพรอาจทำปฏิกิริยากับสแตนเลส และทำให้เกิดสารพิษ

 

ข้อเท็จจริง  สแตนเลสที่ใช้ผลิตแก้วเก็บอุณหภูมิ มักเป็นเกรด 304 หรือ 316 ซึ่งเป็นโลหะที่มีความเสถียรสูง และไม่ทำปฏิกิริยากับกรดหรือด่างในระดับที่เป็นอันตราย หากเป็นแก้วที่ทำจากโลหะเกรดต่ำ อาจมีสารปนเปื้อนหรือเกิดปฏิกิริยาได้

 

คำแนะนำ  ควรเลือกใช้ แก้วเก็บอุณหภูมิที่ได้มาตรฐานและผ่านการรับรอง หากต้องการเก็บสมุนไพรเป็นเวลานาน ควรใช้ขวดแก้ว หรือภาชนะเซรามิกแทน

 

 

3.เครื่องดื่มที่เป็นกรด น้ำผลไม้, โซดา, กาแฟ กรดในเครื่องดื่มสามารถกัดกร่อนสแตนเลส และปล่อยโลหะหนักออกมา

 

ข้อเท็จจริง สแตนเลสเกรด 304 หรือ 316 ทนต่อกรดอ่อน อย่างเช่น น้ำผลไม้ หรือ กาแฟ โดยไม่ปล่อยโลหะหนัก หากใช้แก้วที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือปล่อยให้เครื่องดื่มกรดสูงอยู่ในแก้วนาน อาจมีการกัดกร่อนเกิดขึ้น

 

คำแนะนำ  หากต้องการใส่เครื่องดื่มที่เป็นกรดในแก้วเก็บอุณหภูมิ ควรเลือกแก้วที่มีมาตรฐานสแตนเลสเกรดอาหาร

 

 

4.น้ำเกลือ  น้ำเกลือสามารถกัดกร่อนสแตนเลส และทำให้เกิดการปล่อยโลหะหนัก

 

ข้อเท็จจริง  น้ำเกลือมีโอกาสทำให้โลหะเกิดการกัดกร่อน โดยเฉพาะหากแช่ทิ้งไว้นานหลายชั่วโมง แต่การใช้ระยะเวลาสั้น ๆ ไม่ส่งผลต่อสุขภาพ

 

คำแนะนำ  หลีกเลี่ยงการแช่น้ำเกลือในแก้วเก็บอุณหภูมิเป็นเวลานาน

 

 

5.ชาเข้มข้น ชาที่อยู่ในแก้วเก็บอุณหภูมินานเกินไปอาจเสียรสชาติ และก่อให้เกิดสารพิษ

 

ข้อเท็จจริง ชาที่แช่ไว้นาน อาจเสียรสชาติและมีการเปลี่ยนแปลงของสารบางชนิด แต่ไม่ได้ก่อให้เกิดสารพิษ กรดแทนนิกในชาอาจทำให้เกิดคราบบนผิวแก้ว แต่ไม่มีหลักฐานว่าทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ

 

คำแนะนำ  ไม่ควรแช่ชาไว้ในแก้วเก็บอุณหภูมิเป็นเวลานานเกิน 6-8 ชั่วโมง