ฉาวสนั่น! นทท.จีนถ่ายคลิปสุดเสียวกลางพัทยา อ้างแค่สะสมคอลเลกชัน
สุดฉาวกลางเมืองพัทยา! รวบคู่รักนักท่องเที่ยวชาวจีน เล่นรักกลางถนน อ้างเป็น “คอลเล็กชั่นส่วนตัว” ไม่รู้ผิดกฎหมายไทย
กลายเป็นข่าวฉาวที่สั่นสะเทือนเมืองท่องเที่ยวชื่อดังของไทยอย่างพัทยาไปทั่วโลกออนไลน์ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ร่วมกับตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้เข้าจับกุมคู่รักนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่ก่อเหตุไม่เหมาะสมกลางพื้นที่สาธารณะอย่างถนนพัทยาใต้ ท่ามกลางสายตาประชาชนและนักท่องเที่ยวที่สัญจรไปมาอย่างไม่คาดฝัน
โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ถูกเปิดเผยหลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับการแจ้งเบาะแสจาก "การ์ดอาสา" ซึ่งผ่านการอบรมตามโครงการ "ชุมชนท่องเที่ยวเข้มแข็ง" (S.T.C.) ว่ามีชาวต่างชาติชายหญิงคู่หนึ่ง กำลังกระทำการลามกอนาจารบนทางเท้า ติดกับถนนสายหลักของพัทยาใต้ ซึ่งเป็นย่านที่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่านอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว
เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้ง จึงรีบประสานกำลังเข้าตรวจสอบทันที และสามารถติดตามตัวผู้กระทำผิดได้อย่างรวดเร็ว โดยทราบชื่อภายหลังว่าเป็น Mr. Zhihang วัย 67 ปี และ Miss Tingting วัย 35 ปี สองนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งทั้งสองยอมรับสารภาพแบบหมดเปลือกระหว่างการสอบสวนว่าพวกเขาเป็น “คู่รัก” และที่น่าตกใจยิ่งกว่า คือการเปิดเผยว่า Mr. Zhihang มีอาชีพเป็นช่างภาพอิสระ โดยเขาชื่นชอบการถ่ายภาพเปลือยหรือภาพเชิงศิลปะในแนวเซ็กซี่ตามสถานที่สำคัญทั่วโลก
จากคำให้การของ Mr. Zhihang เขายอมรับว่าตนได้เดินทางไปมาแล้วหลายประเทศ และมีพฤติกรรมเช่นนี้มาโดยตลอด เขาชอบถ่ายภาพแนว "เซ็กซี่เร้าใจในที่สาธารณะ" และสะสมไว้เป็นคอลเล็กชั่นส่วนตัว โดยเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเพียงงานศิลปะรูปแบบหนึ่ง และไม่ได้คิดว่าผิดกฎหมายในประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยยืนยันชัดเจนว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นความผิดตามกฎหมายไทยในข้อหา กระทำการอนาจารในที่สาธารณะ และได้ดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม โดยเบื้องต้นทั้งคู่ถูกตั้งข้อหากระทำการอนาจารในที่สาธารณะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 388 ซึ่งระบุว่า "ผู้ใดกระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท" แต่หากการกระทำล่วงละเมิดจริยธรรมและศีลธรรมอันดีของประชาชนเพิ่มเติม ก็อาจพิจารณาโทษหนักขึ้นตามลำดับ
ด้าน Miss Tingting ก็ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เธอเองรู้สึกไม่ทราบข้อกฎหมายในเมืองไทยเช่นเดียวกัน และยอมรับว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการตัดสินใจที่ไม่เหมาะสม แต่ก็ยืนยันว่าทั้งคู่ไม่มีเจตนาลบหลู่กฎหมายหรือสร้างความเสื่อมเสียต่อประเทศแต่อย่างใด
หลังการสอบสวนเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการปรับ และจัดทำประวัติเพื่อบันทึกข้อมูลไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งนำตัวส่งดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งเหตุการณ์นี้กลายเป็นอุทาหรณ์สำคัญถึงนักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางมาเยือนไทย ว่าความไม่รู้กฎหมายท้องถิ่น ไม่สามารถนำมาใช้เป็นข้ออ้างเพื่อหลีกเลี่ยงความผิดได้
เสียงสะท้อนจากชาวโซเชียล
ทันทีที่ข่าวนี้แพร่กระจายออกไปในโลกออนไลน์ ก็ได้รับความสนใจอย่างท่วมท้น ทั้งจากชาวไทยและชาวต่างชาติ หลายคนแสดงความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า พฤติกรรมของทั้งคู่นั้นไม่เพียงแต่เป็นการละเมิดกฎหมาย แต่ยังถือเป็นการไม่ให้เกียรติสถานที่และวัฒนธรรมไทยอีกด้วย โดยเฉพาะพัทยา ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญระดับนานาชาติ
บางคอมเมนต์ในโซเชียลระบุว่า
“ศิลปะไม่ใช่ข้ออ้างสำหรับการอนาจารในที่สาธารณะ”
“พัทยาไม่ใช่สตูดิโอถ่ายแบบนะครับ”
“แย่ที่สุดเลย ทำให้ภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยวเสียหาย”
ในขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งก็ให้ความเห็นในเชิงเตือนสติว่า ควรมีการประชาสัมพันธ์กฎระเบียบของไทยให้ชัดเจนยิ่งขึ้นสำหรับนักท่องเที่ยว เพื่อป้องกันเหตุการณ์ในลักษณะนี้ไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีกในอนาคต
บทเรียนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
กรณีนี้เป็นบทเรียนสำคัญที่สะท้อนให้เห็นว่าการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบนั้น ไม่ได้หมายความเพียงแค่การรักษาสิ่งแวดล้อมหรือเคารพวัฒนธรรมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่นอย่างเคร่งครัดด้วย เพราะแม้ในบางประเทศการถ่ายภาพเปลือยในที่สาธารณะอาจไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย แต่สำหรับประเทศไทยแล้ว การกระทำเช่นนี้ถือว่าละเมิดกฎหมายชัดเจน
ประเทศไทยมีวัฒนธรรมอันดีงามและภาพลักษณ์ที่ดีในสายตานักท่องเที่ยวทั่วโลก การเคารพกฎหมายท้องถิ่นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ทั้งเพื่อความสงบเรียบร้อยของสังคม และเพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคต
สรุป
จากเหตุการณ์นี้ เป็นเครื่องเตือนใจแก่นักท่องเที่ยวทั่วโลกว่า ทุกการกระทำในต่างแดนควรมีความระมัดระวัง ศึกษากฎระเบียบท้องถิ่นให้ถี่ถ้วนก่อนเสมอ เพราะความไม่รู้ไม่ใช่ข้ออ้างให้รอดพ้นจากความผิด และที่สำคัญที่สุดคือ การเคารพต่อวัฒนธรรมของประเทศที่เราไปเยือน คือมารยาทสากลที่ควรปฏิบัติทุกครั้ง
วิกฤติ! เนปาลสั่งเคอร์ฟิวส์ทั่วประเทศ เตือนงดออกนอกบ้าน สนบ.ปิดชั่วคราว
นัท นิสามณี อัพเดทหน้า แต่คนมองหลัง
สัตว์ป่าไม่เคยเป็นสัตว์เลี้ยง
อ.ธรณ์ แสดงความเสียใจ เหยื่อถูกสิงโตขย้ำดับ ย้ำไม่ควรฆ่าสัตว์เพราะทำตามสัญชาตญาณ
สุดเศร้า! ครอบครัวเปิดใจคำสัญญาสุดท้ายของ “พี่เจียน” ก่อนถูกสิงโตทำร้ายเสียชีวิต
วอนผู้สูงวัย เลิกเล่นคลิปสลัดผ้า CIB ชี้เสี่ยงผิดกฎหมาย-ภัยออนไลน์
เตือนภัยญี่ปุ่น! แก๊งมิจฉาชีพอ้างลบไวรัส หลอกเหยื่อแก้ผ้า


