สังคมไทยทุกวันนี้เปิดกว้างกับเรื่อง “ชายรักชาย” มากแค่ไหนกันนะ?
สังคมไทยทุกวันนี้เปิดกว้างกับเรื่อง “ชายรักชาย” มากแค่ไหนกันนะ?
สวัสดีครับ ขออนุญาตตั้งกระทู้แชร์ความคิดบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องที่อาจจะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับบางคน แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนสำหรับใครอีกหลายๆ คน นั่นก็คือ "ความรักของชายกับชาย" หรือเรียกกันตรงๆ ว่า "เกย์" นั่นแหละครับ
ผมโตมากับยุคที่คำว่า “ตุ๊ด” “แต๋ว” ถูกเอาไว้ล้อกันในโรงเรียน เป็นคำด่าที่ทำให้เด็กผู้ชายบางคนต้องหลบซ่อนความรู้สึกของตัวเองไว้ลึกๆ ยิ่งถ้าเกิดมาในต่างจังหวัด สังคมเล็กๆ คนรู้จักกันหมดแบบที่เดินไปไหนก็มีคนจับตามอง มันยิ่งยากที่จะ “เป็นตัวของตัวเอง” ได้อย่างเต็มที่
แต่พอมาถึงยุคนี้ ต้องยอมรับว่าสังคมไทยเปิดกว้างขึ้นเยอะนะครับ อย่างน้อยคนก็ไม่ตกใจกับภาพผู้ชายจับมือกัน เดินคู่กัน หรือแม้แต่คู่รักชายรักชายที่ใช้ชีวิตร่วมกัน บางคนเปิดหน้าเปิดตาบนโซเชียล มีงานมีอาชีพมั่นคง คนรอบข้างก็ซัพพอร์ตดี อย่างดารา ยูทูบเบอร์ หรือแม้แต่คนทั่วไปในที่ทำงานหลายๆ ที่ ก็มีพื้นที่ให้กับ LGBTQ+ มากขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม ผมว่าสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปมากที่สุดไม่ใช่แค่ “ภายนอก” แต่คือ “ทัศนคติของคนรอบตัว” บางครอบครัวยังยอมรับไม่ได้ บางคนยังต้องแอบใช้ชีวิตซ่อนๆ อยู่ หลายคนโดนกดดันให้แต่งงานกับเพศตรงข้ามเพื่อ “รักษาหน้าครอบครัว” หรือ “ไม่ให้พ่อแม่เสียใจ” ทั้งที่ความรักมันเป็นเรื่องของคนสองคน ไม่ใช่เรื่องของใครอื่นเลย
การเปิดกว้างในเมืองหลวงกับต่างจังหวัดก็ยังไม่เท่ากันนะครับ ยิ่งถ้าเป็นผู้ชายที่ดู "แมน" หรือมีภาพลักษณ์ที่คนทั่วไปคาดหวัง บางทีการออกมาเปิดเผยตัวตนก็ยังมีแรงเสียดทานอยู่พอสมควร
ส่วนตัวผมดีใจที่สังคมไทยเดินหน้ามาไกล แต่ก็ยังอยากให้ไปได้ไกลกว่านี้อีก หรือแม้แต่การยอมรับในครอบครัวและสังคมในระดับลึก ไม่ใช่แค่ “รับได้ แต่ไม่ต้องโชว์ออกมามาก” แบบที่หลายคนเคยได้ยิน
สุดท้ายนี้ผมเชื่อว่า "ความรักที่แท้จริง" ไม่ว่าจะเกิดกับเพศไหนก็ควรถูกมองด้วยความเข้าใจ มากกว่าความกลัวหรืออคติ อยากให้ทุกคนได้เป็นตัวเองในแบบที่มีความสุข โดยไม่ต้องปิดบังอะไรอีกแล้วครับ
ใครมีประสบการณ์หรือความเห็นยังไง มาแชร์กันได้นะครับ เราอาจจะได้มุมมองใหม่ๆ จากกันและกัน
#ชายรักชาย #LGBTQไทย #สังคมเปิดกว้างหรือยัง #ความรักไม่ผิดเพศ #เกย์ไทย #แชร์ประสบการณ์

















