ชายรักชายในยุคนี้…ยังต้องหลบซ่อนอยู่ไหม?
ผมเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่เกิดมาในยุคที่คำว่า “ชายรักชาย” เคยเป็นเรื่องที่คนจำนวนมากไม่เข้าใจ หรือถึงขั้นไม่ยอมรับเลยก็ว่าได้ ช่วงวัยรุ่นของผมเต็มไปด้วยความกลัว ความกังวล ว่าถ้าคนรู้ว่าเราไม่ได้ชอบผู้หญิงเหมือนคนส่วนใหญ่ เราจะยังมีที่ยืนในสังคมไหม? เราจะโดนล้อ โดนรังเกียจ หรือโดนผลักไสออกจากครอบครัวหรือเปล่า?
วันนี้เวลาผ่านไปหลายสิบปี ผมมองดูสังคมรอบตัวแล้วก็รู้สึกว่ามันเปลี่ยนไปมาก มีซีรีส์วายให้ดู มีคู่รักชายรักชายออกสื่อ มีคนดังมากมายกล้าเปิดเผยตัวตน แต่คำถามหนึ่งที่ผุดขึ้นในใจผมก็คือ...
"ชายรักชายในยุคนี้ ยังต้องหลบซ่อนอยู่ไหม?"
คำตอบที่ผมได้จากการสังเกตและพูดคุยกับคนรอบตัวคือ...
"ยังมีอยู่ครับ"
แม้จะมีพื้นที่ให้เราได้หายใจมากขึ้น ได้เป็นตัวเองมากขึ้น แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ต้องหลบ ต้องเก็บ ต้องใช้ชีวิตแบบระวังตัว ไม่ใช่เพราะเขาไม่อยากเปิดเผย แต่เพราะครอบครัวไม่ยอมรับ ที่ทำงานมีบรรยากาศเหยียดหยาม หรือสังคมรอบตัวยังใช้คำว่า "ผิดธรรมชาติ" มาทำร้ายจิตใจคน
ในโลกออนไลน์ เราอาจเห็นภาพความรักที่เปิดเผยและสวยงาม แต่นอกจอ ยังมีหลายชีวิตที่ต้องใช้ความกล้าอย่างมหาศาลเพื่อจะบอกใครสักคนว่า “ผมรักผู้ชายครับ” และคำพูดนั้นก็ยังอาจเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล ทั้งดีขึ้น หรือเลวร้ายลง ขึ้นอยู่กับว่าเขาอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหน
ผมไม่ได้อยากให้ทุกคนต้องมาเปิดตัว แต่ผมแค่อยากบอกว่า
“การที่ใครสักคนจะกล้ารักในแบบที่เขาเป็นได้ มันไม่ควรต้องแลกกับความกลัว ความอับอาย หรือการถูกตัดขาดจากครอบครัว”
และผมหวังว่า... วันหนึ่ง ชายรักชายจะไม่ต้อง "กล้า" ที่จะเป็นตัวเองอีกต่อไป
แต่จะสามารถ "เป็น" ได้อย่างธรรมชาติ โดยไม่ต้องมีคำว่าหลบซ่อนอยู่ในใจเลย
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ
ใครมีประสบการณ์หรือมุมมองอะไร มาแลกเปลี่ยนกันได้นะครับ
เราทุกคนต่างต้องการพื้นที่ปลอดภัยและความเข้าใจเหมือนกัน
#ชายรักชาย #LGBTQ #ชีวิตจริงไม่ใช่แค่ซีรีส์ #รักคือรัก #ความหลากหลายทางเพศ #เป็นตัวเองได้ไม่ต้องขอโทษ









