อีกมุมจาก “พระโย” อดีตคนรัก LGBT ยอมรับมีจุดที่รับไม่ได้
“วิมานหนามในชีวิตจริง” เรื่องราวความรักสุดเศร้าของคู่รัก LGBT กับการสูญเสียที่ไม่มีวันหวนกลับ
ในยุคที่สังคมเริ่มเปิดกว้างและยอมรับความหลากหลายทางเพศมากขึ้น คู่รัก LGBT หลายคู่เริ่มกล้าที่จะแสดงความรักและร่วมกันสร้างอนาคตอย่างมั่นคง แต่บางครั้ง ความรักก็ไม่ได้สวยงามอย่างที่ฝันไว้ และเรื่องราวของคู่รัก LGBT คู่หนึ่งที่เคยร่วมกันสร้างธุรกิจร้านกาแฟหรูมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท กำลังกลายเป็นที่พูดถึงไปทั่วทั้งสังคมออนไลน์ หลังจากเกิดโศกนาฏกรรมที่ไม่มีใครคาดคิดขึ้น
เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 ชาวเน็ตต่างพากันช็อกกับข่าวเศร้าเมื่อหนึ่งในคู่รัก ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งร้านกาแฟดัง ได้ตัดสินใจจบชีวิตตนเองภายในรถยนต์ที่จอดอยู่หน้าร้านกาแฟที่เคยร่วมสร้างกันมากับอดีตคนรัก โดยทิ้งไว้เพียงจดหมายลา พร้อมโพสต์ “มหากาพย์ 11 EP” บอกเล่าเรื่องราวความรัก ความผิดหวัง และความเจ็บปวดที่สะสมมานานนับปี
โพสต์ที่มีเนื้อหาเจาะลึกถึงความสัมพันธ์ที่ล้มเหลว ถูกแชร์ต่ออย่างรวดเร็วในโลกโซเชียล พร้อมพาดหัวสะเทือนใจว่า “วิมานหนามในชีวิตจริง” บ้างก็กล่าวว่าเป็น “รักแท้ที่แพ้ความจริง” ขณะที่หลายคนแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิต และรู้สึกหดหู่กับบทสรุปของความสัมพันธ์ที่ครั้งหนึ่งเคยงดงาม
จากความฝันสู่ความเจ็บปวด
เรื่องราวเริ่มต้นจากความรักของคนสองคนที่มีเป้าหมายเดียวกัน คือการสร้างธุรกิจร่วมกันและวาดฝันถึงชีวิตคู่ที่มั่นคง ทั้งคู่ตัดสินใจลงทุนสร้างร้านกาแฟระดับพรีเมียม ด้วยมูลค่ารวมกว่า 30 ล้านบาท ทั้งด้านสถานที่ การตกแต่ง และการบริหารธุรกิจ โดยมีเป้าหมายชัดเจนว่าจะสร้างแบรนด์ให้เติบโตในตลาดระดับบน
แต่เมื่อความรักเริ่มร้าว ความขัดแย้งก็เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างช้า ๆ จนกลายเป็นรอยร้าวขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถประสานได้อีกต่อไป ฝ่ายหนึ่งกล่าวหาว่าอีกฝ่าย “นอกใจ” ขณะที่อีกฝ่ายกล่าวหาว่าถูกกดขี่ และต้องทนอยู่กับความรุนแรงทางอารมณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง
“พระโย” อดีตคนรัก เปิดใจหลังบวช
ภายหลังเหตุการณ์เศร้า “พระโย” อดีตคนรักของผู้เสียชีวิต ซึ่งเพิ่งเข้าพิธีอุปสมบทเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้ออกมาเปิดใจผ่านสื่อ โดยยืนยันว่า สาเหตุของการเลิกรานั้นมาจากการจับได้ว่าอีกฝ่าย “นอกใจ” ก่อน พร้อมแสดงหลักฐานว่าอีกฝ่ายมีพฤติกรรมที่ทำให้ความสัมพันธ์ยากจะดำเนินต่อไป
พระโยเปิดเผยว่า ฝ่ายผู้เสียชีวิตเคยมีพฤติกรรมอารมณ์รุนแรงจนส่งผลกระทบต่อครอบครัว รวมถึงธุรกิจร้านกาแฟที่ร่วมกันสร้าง อีกทั้งยังยืนยันว่าโพสต์ “มหากาพย์ 11 EP” ที่ผู้เสียชีวิตเขียนก่อนเสียชีวิต มีหลายประเด็นที่ไม่ตรงกับความจริง
หนึ่งในประเด็นใหญ่ที่พระโยปฏิเสธคือ ข้อกล่าวหาว่ามีการกู้เงินกว่า 22 ล้านบาทเพื่อนำมาลงทุนร้านกาแฟ พระโยยืนยันว่าไม่มีการกู้เงินจำนวนดังกล่าว อีกทั้งยังเปิดเผยว่าเคยถูกฝ่ายผู้เสียชีวิตขอให้เซ็นเอกสารยอมรับหนี้ 19 ล้านบาท แต่ตนไม่ยอมเซ็น เพราะรู้ว่าข้อมูลนั้นไม่ตรงกับความจริง
จุดแตกหัก: ยาเสพติดและเพศสัมพันธ์
อีกหนึ่งประเด็นที่สะเทือนใจและกลายเป็น “จุดแตกหัก” ของความสัมพันธ์นี้ คือกรณีที่พระโยอ้างว่ามีการเสพยาเสพติดและมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งเขายืนยันว่ามีทั้งเอกสารและข้อความแชทเป็นหลักฐาน เรื่องนี้กลายเป็นชนวนความขัดแย้งที่ยากจะให้อภัย และจบลงด้วยการตัดสินใจแยกทางกันอย่างเด็ดขาด
เสียงจากสังคม: ความรักควรเยียวยา ไม่ใช่ทำร้าย
หลังข่าวการเสียชีวิตแพร่ออกไป เสียงสะท้อนจากสังคมเต็มไปด้วยความหดหู่ หลายคนตั้งคำถามว่า ทำไมความรักที่ควรเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับกันและกัน จึงกลายเป็นพื้นที่แห่งความเจ็บปวดและจบลงด้วยความตาย?
ผู้คนพากันวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของทั้งสองฝ่าย บ้างก็โทษฝ่ายที่ยังมีชีวิตอยู่ว่า “หนีปัญหา” บ้างก็กล่าวว่าเรื่องนี้ไม่มีใครถูกหรือผิดอย่างแท้จริง เพราะต่างฝ่ายต่างก็มีเหตุผลและบาดแผลของตนเอง
บางส่วนในโลกโซเชียลยังได้ตั้งคำถามถึงระบบสนับสนุนด้านสุขภาพจิตของผู้ที่อยู่ในความสัมพันธ์ที่มีความรุนแรง และการขาดแหล่งพึ่งพิงเมื่อเกิดความขัดแย้งในชีวิตคู่ โดยเฉพาะในกลุ่มความหลากหลายทางเพศที่ยังคงเผชิญกับการตีตราและการขาดพื้นที่ปลอดภัยในสังคม
บทเรียนจาก “วิมานหนามในชีวิตจริง”
เรื่องราวความรักครั้งนี้ไม่ใช่เพียงเรื่องของคนสองคน แต่มันสะท้อนถึงปัญหาหลายประการในสังคม ทั้งในด้านความสัมพันธ์ ความไว้วางใจ สุขภาพจิต การจัดการความขัดแย้ง รวมถึงภาวะกดดันทางสังคมต่อคู่รักเพศเดียวกันที่ยังคงถูกมองด้วยสายตาไม่เป็นมิตรในหลายบริบท
นี่จึงไม่ใช่แค่เรื่อง “รักๆ เลิกๆ” ของคู่รักธรรมดา แต่คือเรื่องที่ควรทำให้เราตระหนักว่า ทุกชีวิตมีคุณค่า และทุกความสัมพันธ์ควรได้รับการสนับสนุนให้เดินไปข้างหน้าอย่างมีสติ ไม่ใช่จบลงด้วยความเศร้า
“วิมานหนามในชีวิตจริง” คือบทเรียนที่เต็มไปด้วยรอยแผล และคำถามมากมายที่ยังไม่มีคำตอบ เรื่องราวของความรักที่เริ่มต้นจากความฝันอันสวยงาม แต่กลับจบลงด้วยน้ำตาและความสูญเสียอย่างไม่มีวันย้อนคืน
หากคุณหรือคนรอบข้างกำลังเผชิญกับความเครียด ซึมเศร้า หรือความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ โปรดอย่ารอให้ทุกอย่างสายเกินไป หนทางสู่การเยียวยายังมีอยู่เสมอ และความช่วยเหลืออยู่ใกล้กว่าที่คุณคิด
เปิดประวัติ “อีฟ กาญจนา สถาวร” ผู้นำหญิงหัวใจอาสา จากทีมงาน สู่ ประธานมูลนิธิกันจอมพลัง ช่วยสู้
ธนาคารกรุงไทย แจ้งข่าว! ประกาศยุติให้บริการ แอปพลิเคชันเป๋าตุง
หนุ่ม “เขมร” ถือป้ายประณามไทย กลางเมืองหลวงแคนาดา แต่ไร้คนสนใจ!
เจ๊เอ๋ เปิดใจ! กัน จอมพลัง ไม่ใช่พ่อ GU เผยมุมจริงจากคนลงพื้นที่
“ฝรั่งขยาดกัมพูชา” ยูทูบเบอร์สาวเปิดใจ หลังเจอของจริงไม่ตรงปก — เต็มไปด้วยขยะ แหล่งสกปรก และมาเฟียคุมพื้นที่
“อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล” จวกกองทัพไร้ศักยภาพ! จัดหาส้วมให้แนวหน้ายังทำไม่ได้ ต้องให้ลูกน้องไปขอมูลนิธิช่วยแทน
หลงรักในความอร่อยของข้าวสาลี เม็ดสวยนุ่มลิ้น (อินเดีย)
สูตรทำส้าอั่วเองง่ายๆ กลิ่นหอมพริกตะไคร้แรงถึงใจแบบเหนือแท้!
ผู้ว่านนทบุรีได้แจ้งความเกี่ยวกับกรณี "ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง" ที่มีการปลอมลายเซ็นเพื่อจัดตั้งมูลนิธิ
ก่อนเดินทางลงไปยังแม่น้ำคงคาชมวิถีชีวิต อย่าได้เผลอไปขอถ่ายรูโยคี ต้องยื่นรูปีให้ห้าร้อยรูปี (อินเดีย)
ปิดน้ำตกแม่กระดังลา หลังหนุ่ม 23 ปีพลัดตก
ทรัมป์ประกาศโจมตีแคนาดา ยุติการเจรจาการค้าทั้งหมด
เจ๊เอ๋ เปิดใจ! กัน จอมพลัง ไม่ใช่พ่อ GU เผยมุมจริงจากคนลงพื้นที่
เปิดประวัติ “อีฟ กาญจนา สถาวร” ผู้นำหญิงหัวใจอาสา จากทีมงาน สู่ ประธานมูลนิธิกันจอมพลัง ช่วยสู้
หนุ่ม “เขมร” ถือป้ายประณามไทย กลางเมืองหลวงแคนาดา แต่ไร้คนสนใจ!
สูตรทำส้าอั่วเองง่ายๆ กลิ่นหอมพริกตะไคร้แรงถึงใจแบบเหนือแท้!
“ฝรั่ง”ถอดรหัสภาษาที่คนไทยใช้เรียกชาวตะวันตกเฉกเช่นผลไม้
หลงรักในความอร่อยของข้าวสาลี เม็ดสวยนุ่มลิ้น (อินเดีย)
เปิดวาร์ปหนุ่มลูกครึ่งเกาหลีสุดหล่อทำดีในประเทศไทย
ขาเดียวก็เฟี้ยวได้ พ่อค้าลอตเตอรี่ ขี่ จยย. โชว์ผาดโผนยกขาโชว์ก่อนจะล้มกลิ้งกลางถนน นึกว่าโชว์บีบอย
“อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล” จวกกองทัพไร้ศักยภาพ! จัดหาส้วมให้แนวหน้ายังทำไม่ได้ ต้องให้ลูกน้องไปขอมูลนิธิช่วยแทน
ปิดน้ำตกแม่กระดังลา หลังหนุ่ม 23 ปีพลัดตก



