“บิลลี่ โอแกน” สะกิดแรง! นักร้องหญิงยุคนี้ โชว์เกินพอดี ส่อแววเปลือยเรื่องเพศ
บิลลี่ โอแกน โพสต์เปิดมุมมองวงการเพลงยุคใหม่ หลังเห็นนักร้องหญิงโชว์เนื้อหนัง-เต้นยั่วยวน ชี้สมัยนี้ดูฟรี ไม่ต้องเสียเงินเหมือนอดีต
โลกของวงการบันเทิงกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และหนึ่งในประเด็นที่ถูกพูดถึงอยู่บ่อยครั้งคือ "การแสดงออกของนักร้องหญิง" ที่ในยุคนี้หลายคนมองว่าเต็มไปด้วยความเปิดเผย โจ่งแจ้ง และมีเนื้อหาทางเพศชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ล่าสุด "บิลลี่ โอแกน" อดีตร็อกเกอร์ชื่อดังแห่งยุค 90 ได้ออกมาแสดงความเห็นถึงเรื่องนี้ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Billy Ogan สะท้อนมุมมองของคนจากคนรุ่นก่อนที่เฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของสังคมบันเทิงไทยมาหลายสิบปี
"ยุคนี้มันเป็นยุคของการเปิดเผยเนื้อหนังมังสาของนักร้องหญิง" – บิลลี่เปิดใจผ่านโพสต์สุดตรง
ในโพสต์ที่บิลลี่เขียน เขาได้เปรียบเทียบโลกของศิลปินหญิงในอดีตกับปัจจุบันอย่างตรงไปตรงมา โดยเน้นถึงการที่นักร้องหญิงยุคนี้จำนวนมากเลือกที่จะแสดงออกผ่านเสื้อผ้าและท่าเต้นที่เซ็กซี่ บางรายถึงขั้นสื่อสารเรื่องเพศอย่างจงใจบนเวทีโดยไม่มีความลังเล ซึ่งบิลลี่มองว่าสิ่งเหล่านี้ถือเป็น "ปรากฏการณ์" ที่ไม่เคยเกิดขึ้นอย่างโจ่งแจ้งขนาดนี้มาก่อน
"ยุคนี้มันเป็นยุคของการเปิดเผยเนื้อหนังมังสาของนักร้องหญิง เป็นยุคที่โจ่งแจ้งที่สุด รวมไปถึงการเต้นที่แสดงออกถึงเรื่องเพศอย่างไม่เคยมีมาก่อน"
แม้เจ้าตัวจะบอกว่าไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นหรือ "เฮ" เหมือนกับบางคน แต่เขาก็ไม่ตำหนิและยอมรับว่าสังคมเปลี่ยนไป พร้อมทั้งแนะนำให้คนที่ไม่ชอบ “ก็แค่เฉยไว้” เพราะการแสดงความคิดเห็นในโลกออนไลน์ยุคนี้อาจทำให้กลายเป็นเป้าโจมตีได้ง่าย ๆ
“ใครชอบก็มีเฮ ใครไม่ชอบก็เฉยไว้ อย่าไปออกความเห็น เดี๋ยวทัวร์ลง” – คือประโยคที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรม "cancel culture" ที่กำลังระบาดในโลกโซเชียลอย่างชัดเจน
สมัยก่อนต้องเสียเงินดูโชว์วาบหวิว แต่สมัยนี้ดูฟรี – บิลลี่มองว่านี่คือพัฒนาการของโลก
หนึ่งในประโยคที่ชาวเน็ตพากันพูดถึงมากที่สุดในโพสต์ของบิลลี่คือการเปรียบเทียบความต่างของอดีตและปัจจุบันอย่างชัดเจน เขาเล่าว่าสมัยก่อนนั้น หากใครต้องการชมการแสดงที่มีเนื้อหาวาบหวิวหรือยั่วยวนทางเพศ จำเป็นต้องเสียเงินเข้าไปดูในสถานที่เฉพาะ เช่น ย่านพัฒน์พงษ์ แต่ในปัจจุบันสิ่งเหล่านี้กลับกลายเป็นเรื่องปกติที่สามารถเห็นได้ฟรีบนเวทีหรือแม้กระทั่งในรายการโทรทัศน์และโซเชียลมีเดีย
“สมัยก่อนต้องเสียเงินไปดูที่พัฒน์พงษ์ แต่สมัยนี้ดูฟรี ก็ดีเหมือนกันเว้ย โลกนี้มันก็วนเวียนอยู่เท่านี้”
ประโยคนี้สร้างเสียงหัวเราะให้กับชาวเน็ตจำนวนมาก ขณะเดียวกันก็กลายเป็นหัวข้อที่ผู้คนตั้งคำถามว่า “เราควรปล่อยให้ศิลปินหรือคนดังนำเสนอเนื้อหาทางเพศอย่างเปิดเผยได้หรือไม่?” หรือเราควรมีขอบเขตในการรักษาศีลธรรมวัฒนธรรมของสังคม?
โซดอมกับกอมโมรา กับสังคมยุคใหม่ – การเปรียบเปรยที่จิกกัดแต่ลึกซึ้ง
บิลลี่ยังได้เปรียบเทียบสังคมยุคใหม่กับเมืองในตำนานพระคัมภีร์อย่าง “โซดอมและกอมโมรา” ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองที่ศีลธรรมตกต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ และจบลงด้วยการถูกทำลายล้างโดยพระเจ้า บิลลี่ใช้ภาพเปรียบเปรยนี้เพื่อสื่อให้เห็นว่า มนุษย์เรานั้นมีพฤติกรรมซ้ำรอยเดิม แม้เวลาจะเปลี่ยนผ่านไปก็ตาม
“สมัยอดีต เมืองโซดอมกอมโมรา ก็เคยถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ ว่าเป็นเมืองที่ศีลธรรมตกต่ำที่สุด แต่ตอนนี้ถูกลบสถิติไปแล้ว”
แม้จะเป็นการพูดในเชิงขำขัน แต่หลายคนมองว่าบิลลี่กำลังสื่อสารถึงความกังวลเกี่ยวกับทิศทางของสังคมโลกที่เน้นความบันเทิง ความเปิดเผย และเซ็กส์มากกว่าคุณค่าทางจิตใจหรือคุณธรรม
ศิลปินหญิงกับอิสรภาพในการแสดงออก – ประเด็นที่ถกเถียงไม่มีวันจบ
แม้ว่าการแต่งตัวหรือการเต้นของศิลปินหญิงยุคใหม่จะดูเหมือนเป็นการแสดงออกถึง “เสรีภาพในศิลปะ” หรือการ “empowerment” ของผู้หญิง แต่ก็ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่มองว่าสิ่งเหล่านี้กำลังเบี่ยงเบนความสนใจจากศิลปะดั้งเดิม เช่น เสียงร้อง ความสามารถในการแต่งเพลง หรือการแสดงสด
บางคนมองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นการ “ขายเรือนร่าง” มากกว่าการ “ขายศิลปะ” และอาจส่งผลกระทบต่อเด็กและเยาวชนที่เติบโตมาในยุคดิจิทัล ที่การเข้าถึงคอนเทนต์เรตแรงเป็นไปอย่างง่ายดายและไร้ขีดจำกัด
บิลลี่ โอแกน – ศิลปินรุ่นใหญ่ที่ยังไม่เคยหยุดสังเกตสังคม
แม้จะห่างหายจากวงการเพลงไปนาน แต่บิลลี่ โอแกน ยังคงเป็นหนึ่งในศิลปินที่มีบทบาทในการวิพากษ์วิจารณ์สังคมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง วัฒนธรรม หรือพฤติกรรมของคนดัง ซึ่งมุมมองของเขาในครั้งนี้ก็ได้จุดประเด็นสนทนาในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง
ในยุคที่โลกกำลังหมุนไปอย่างรวดเร็ว ความคิดเห็นของคนรุ่นก่อนอย่างบิลลี่ก็เป็นกระจกสะท้อนอีกด้าน ที่ทำให้เราต้องย้อนคิดว่า “เรากำลังมุ่งหน้าไปทางไหน?” และ “เรายอมรับสิ่งใหม่เพียงเพราะมันเป็นกระแส หรือเพราะเราเห็นคุณค่าที่แท้จริงในสิ่งนั้น?”
อ้างอิงจาก: ขอบคุณภาพจาก เฟซบุ๊กBilly Ogan

















