พี่สาวจับพิรุธก่อนเผาร่าง! ปมน้องชายรับงานเอ็นฯ ตกแพดับปริศนา
กระจ่างหรือยัง? พี่สาวเปิดใจวินาทีเจอพิรุธก่อนเผาร่างน้องชาย หลังรับงานเอนฯ แล้วเสียชีวิตปริศนาบนแพ จ.กาญจนบุรี ชี้อาจโดนบังคับใช้ยา ก่อนกลายเป็นศพ!
เรื่องราวชวนสะเทือนใจและเต็มไปด้วยคำถามยังไม่ได้รับคำตอบ เมื่อครอบครัวของ “นายพงศธร” วัย 27 ปี ออกมาเปิดเผยถึงความไม่ชอบมาพากลในคดีการเสียชีวิตของเขา หลังรับงาน “เอนเตอร์เทน” แล้วกลายเป็นศพลอยอยู่ในอ่างเก็บน้ำแห่งหนึ่งในอำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 และเวลาผ่านไปเกือบ 3 เดือนแล้ว แต่กลับยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ จากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ครอบครัว โดยเฉพาะ “นางสาวตุ๊กตา” พี่สาวของผู้เสียชีวิต เริ่มตั้งคำถามกับความยุติธรรม และเชื่อว่าคดีนี้อาจมีการอำพรางความจริงบางอย่างที่ไม่สามารถมองข้ามได้
จุดเริ่มต้นของคำว่า “ผิดสังเกต”
นางสาวตุ๊กตาเล่าว่า หลังทราบข่าวการเสียชีวิตของน้องชายครอบครัวก็ยังไม่ติดใจในตอนแรก คิดว่าอาจเป็นอุบัติเหตุ แต่เมื่อได้รับข้อมูลจาก "นายมิว" เพื่อนคนสนิทที่เดินทางไปกับผู้ตายในวันเกิดเหตุ ความจริงบางอย่างก็เริ่มถูกเปิดเผย
นายมิวสารภาพว่า ในวันเกิดเหตุมีการ “บังคับ” ให้น้องชายของเธอฉีดสารเสพติด ซึ่งคาดว่าเป็น “ยาไอซ์” เข้าร่างกาย โดยการกระทำนี้มีบุคคลหนึ่งที่มีพฤติกรรมใกล้เคียง LGBTQ เข้ามาเกี่ยวข้อง และเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์บนแพวันนั้นด้วย
ข้อมูลจากนายมิวทำให้ครอบครัวเริ่มตั้งคำถามว่า ถ้านี่คือการฉีดยาโดยบังคับ นี่ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่นี่คือ “การฆ่าโดยเจตนาอำพราง”
รอยเข็ม - พิรุธที่เห็นกับตา
หนึ่งในจุดสำคัญที่ยิ่งทำให้ครอบครัวเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดา คือช่วงก่อนทำพิธีเผาศพ พี่สาวพบว่า บริเวณแขนข้างขวาของน้องชายมีรอยเข็มฉีดยา และแขนข้างขวาทั้งแขนมีสีดำคล้ำผิดปกติ ผิดกับแขนซ้ายที่ยังดูปกติและไม่มีรอยใด ๆ
รอยเข็มนี้คือสิ่งที่ชัดเจนว่า “ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นกับร่างกายของน้องชายก่อนจะเสียชีวิต” ซึ่งตัดความเป็นไปได้ของการเสียชีวิตจากการจมน้ำเพียงอย่างเดียว เพราะการเสียชีวิตแบบธรรมชาติไม่สามารถสร้างรอยเข็มฉีดยาเช่นนี้ได้
นอกจากนี้ ยังมีความพยายามที่จะบอกว่าผู้เสียชีวิต “ดูดบุหรี่ไฟฟ้า” ก่อนจะหายตัวไป ซึ่งครอบครัวมองว่าเป็นคำอธิบายที่เบาบางเกินไปเมื่อเทียบกับภาพที่เห็นตรงหน้า
เพื่อนอีกคนที่ “เงียบผิดปกติ”
ในเหตุการณ์นี้ มีอีกหนึ่งเพื่อนที่อยู่ร่วมทริปด้วยกัน ชื่อ “นายรินทร์” ซึ่งพฤติกรรมของเขาทำให้เกิดความสงสัยไม่น้อย เพราะตั้งแต่วันที่น้องชายเสียชีวิต เขาไม่เคยออกมาชี้แจงหรือพูดคุยกับครอบครัวเลย นอกจากมาแสดงความเสียใจในงานศพเพียงคืนเดียว และบอกแค่ว่า “ไปเที่ยวพักผ่อนกัน 3 คน” ก่อนที่น้องชายจะหายตัวไป
ท่าทีเช่นนี้ของนายรินทร์ทำให้ครอบครัวเริ่มตั้งข้อสงสัยว่า เขาอาจรู้ความจริงบางอย่าง หรืออาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่กลับเลือกที่จะ “เงียบ” และไม่ร่วมมือกับครอบครัวเลย
ตำรวจช่วยใคร? คำถามที่ยังไร้คำตอบ
อีกประเด็นที่ร้อนแรงไม่แพ้กันคือ ข้อมูลจากนายมิวที่อ้างว่า มีตำรวจบางนายให้ความช่วยเหลือนายรินทร์ในการ “แก้ไข” ผลตรวจยาเสพติด และพยายามไม่ให้คดีดำเนินไปในทิศทางที่กระทบต่อบุคคลบางคน
หากสิ่งที่นายมิวพูดเป็นความจริง นี่คือประเด็นที่ร้ายแรงและอาจบ่งบอกถึง “การบิดเบือนคดี” ที่ครอบครัวผู้ตายไม่มีทางต่อสู้ได้เลยหากไม่มีแรงสนับสนุนจากสังคมและสื่อมวลชน
สิ่งที่ครอบครัวรู้อยู่เสมอคือน้องชายทำงาน “เด็กเอนฯ” จริง แต่เป็นในลักษณะการเอนเตอร์เทน เปิดเพลง สร้างความสนุก ไม่มีเรื่องเพศหรือยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้องเลย ซึ่งการที่มีข้อมูลว่า เขาถูกฉีดยาไอซ์เข้าเส้นจนเสียชีวิตนั้นทำให้พี่สาวรู้สึก “ช็อก” และไม่อยากเชื่อว่าน้องชายต้องเจอจุดจบเช่นนี้
จากความฝันที่อยากหารายได้จากงานเอนฯ อย่างสุจริต กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความตายที่เต็มไปด้วยปริศนา
เสียงเรียกร้องจากครอบครัว
นางสาวตุ๊กตา กล่าวทั้งน้ำตาว่า หากนายรินทร์บริสุทธิ์จริง เธออยากให้เขาออกมาพูดความจริง ไม่ใช่ปล่อยให้ครอบครัวต้องเจ็บปวดและงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ฝ่ายเดียว
“เรายังไม่ได้รับความยุติธรรม ไม่ใช่แค่เรื่องคดี แต่คือเรื่องความจริงที่ถูกปกปิด” – คำพูดนี้ของพี่สาว คือสิ่งที่สะท้อนความรู้สึกของหลายครอบครัวที่ต้องเสียคนที่รักไป โดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจริง ๆ กับชีวิตของพวกเขา
กรณีของนายพงศธรไม่ใช่เรื่องไกลตัว และไม่ควรถูกปล่อยให้เลือนหายไปพร้อมกับกองเถ้าถ่านของศพ เพราะมันมีทั้งปมสงสัย ร่องรอยของการใช้ความรุนแรง การอำพราง และอาจรวมถึงการช่วยเหลือจากบุคคลที่มีอำนาจ
ถึงเวลาแล้วที่สังคมต้องช่วยกันตั้งคำถามและผลักดันให้คดีนี้ได้รับความยุติธรรม เพราะหากปล่อยให้จบลงแบบเงียบ ๆ วันหนึ่งใครก็อาจตกเป็นเหยื่อในลักษณะเดียวกันโดยไม่มีใครลุกขึ้นมาปกป้อง
สิ่งของที่ไม่ควรใส่ ไม่ควรซัก ในเครื่องซักผ้า
ไม่สลด!! คู่กรณี เมาชน อ๊อฟ ธนกฤต
หวยแม่จําเนียร 10 เลขเด็ดขายดียอดนิยมงวดวันที่ 16 ธันวาคม 2568
โดรนพลีชีพหลักแสนจากรัสเซีย แพ้ทาง “ตะข่ายหลักร้อย” ฝีมือไทย! ทหารรับจ้างในเขมรถึงกับอุทาน Amazing Thailand
เขมรยิงแผ่ว หลังโดนไทยตัดระบบอาวุธ เส้นทางส่งกำลัง
อวสานตั๋วผี "ขายรถจำนำทอง" กว้านซื้อบัตรคอนเสิร์ต เจ๊งเหยียบ 1 ล้าน
สถานทูตไทยทั่วโลก เปิด "สมรภูมิโซเชียล" ขย้ำ ฮุน เซน
บิ๊กเล็ก ยันชัด จีนไม่ขอคืนจรวด GAM-102 ของเขมร ที่ไทยยึดมาได้
ประธานสมาคม ตามไปตำหนินักกีฬา ถึงกับร้องไห้โฮ ในซีเกมส์ครั้งที่ 33
ปิดฉากโปรเพลเยอร์: ประวัติและบทเรียนของ "Tokyogurl" หลังดราม่าถูกแบนตลอดชีวิตจากวงการ RoV
นายกสมาคมกีฬาอีสปอร์ตประกาศ! ถอนทีม RoV หญิงไทยยกชุดออกจากซีเกมส์ 2025 ย้ำจุดยืน "เคารพกติกา"
ลำไย ตอบสถานะ บอส เอวหวาน หลังมีภาพ ร่วมทริปญี่ปุ่น
นายกสมาคมกีฬาอีสปอร์ตประกาศ! ถอนทีม RoV หญิงไทยยกชุดออกจากซีเกมส์ 2025 ย้ำจุดยืน "เคารพกติกา"
เขมรยิงแผ่ว หลังโดนไทยตัดระบบอาวุธ เส้นทางส่งกำลัง
ดาราดัง "จอร์จ คลูนีย์" จะไม่รับบท "จูบผู้หญิง" ในภาพยนตร์อีกต่อไปแล้ว!!
ซึรียส์รวมภาพข้อคิดดีๆ ให้กำลังใจ ตลกๆ ฮาๆ ประจำวันนี้เด้อครับเด้อ
ใจสลาย! ดราม่า "Tokyogurl" ลามหนัก สมาคมฯ ประกาศ "ถอนทีม RoV หญิง" ไทยยกชุดจากซีเกมส์
กัมพูชาสาปแช่งไทย “ตกนรก 32 ชั้น” เหตุทำลายปราสาทตาควาย สมบัติของพระเจ้าเขมร
บางจากยันชัด ขายน้ำมันให้ลาว "ไม่ได้ใช้ผิดวัตถุประสงค์" มี GPS ตามรถทุกคัน ตรวจสอบได้หมด
นายกสมาคมกีฬาอีสปอร์ตประกาศ! ถอนทีม RoV หญิงไทยยกชุดออกจากซีเกมส์ 2025 ย้ำจุดยืน "เคารพกติกา"
เขมรยิงแผ่ว หลังโดนไทยตัดระบบอาวุธ เส้นทางส่งกำลัง
ดาราดัง "จอร์จ คลูนีย์" จะไม่รับบท "จูบผู้หญิง" ในภาพยนตร์อีกต่อไปแล้ว!!


