หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ความรักกับความทุกข์

เนื้อหาโดย machete007

 

ความรัก กับ ความทุกข์ คำสองคำนี้ เมื่อกล่าวขึ้นมา มักจะเป็นบริบทของความรักในเชิงชู้สาวเสียมาก สำหรับทัศนะของพุทธศาสนา ได้กล่าวไว้ว่า “ทุกการยึดติดถือมั่น มีค่าเป็นความทุกข์อยู่เสมอ” ผู้เขียนแปลใหม่อีกว่า “ที่ใดมีกอด ที่นั่นมีกัด” ทุกการครอบครองมีค่าเป็นการขาดอิสรภาพ

 

ในทัศนะของมนุษย์ ทุกครั้งที่เราครอบครองสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เรามักจะภูมิใจว่าฉันเป็นเจ้าของของสิ่งนั้นเรียบร้อยแล้ว เช่น ฉันมีรถเบนซ์สักคันหนึ่ง ฉันมีบ้านสักหลังหนึ่ง ฉันมีแฟนสักคนหนึ่ง เราก็คิดว่า เอาละ เราเป็นเจ้าของรถ เจ้าของบ้าน เจ้าของแฟนสาว หารู้ไม่ว่า ทันทีที่เรายอมรับเอาสิ่งเหล่านั้นว่าเป็นของของเรา เราก็ตกเป็นทาสของสิ่งเหล่านั้นเรียบร้อยแล้ว

 

จอดรถเบนซ์ไว้นอกบ้าน ฝนตกเราก็เป็นห่วงจนนอนไม่หลับ มีบ้านหนึ่งหลัง น้ำประปารั่ว ปลวกขึ้นบ้าน เราก็ใช้ชีวิตไม่มีความสุขแล้ว มีแฟนสักคนหนึ่ง ส่งข้อความในมือถือไปหาเขา แต่เขาหายไปตั้ง 3 วันแล้ว ชีวิตเราก็ไม่รื่นรมย์แล้ว เห็นหรือยังว่า เราครอบครองเขาหรือว่าเราตกเป็นทาสของเขา

ดังนั้น “ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์” จึงเป็นสัจธรรมสากลที่ถูกต้องที่สุด ทางพุทธศาสนาได้กล่าวไว้ตั้งแต่ 2,500 กว่าปีมาแล้ว ซึ่งเป็นความจริงที่ไม่ต้องเปลี่ยนแปลง แต่ทำไมมนุษย์โดยมากจึงมักจะบอกว่า ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีสุข เพราะเขายังไม่ได้เรียนรู้ความรักตั้งแต่ต้นสายถึงปลายทาง

 

ทุกครั้งที่มีความรักควรเผื่อใจไว้สำหรับการอกหักที่อาจจะเกิดขึ้นได้เสมอ คนที่บอกว่า “ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีสุข” โดยมากมักจะเริ่มต้นแค่รู้จักความรักช่วงโปรโมชั่น จึงพูดประโยคอย่างนี้กันทั้งนั้น พอเริ่มเรียนรู้ที่จะรักไปสักพักหนึ่ง ถ้าสังเกตอย่างละเมียดละไม ก็จะเห็นว่า มันเริ่มสุข ๆ ทุกข์ ๆ ปนกันมาโดยตลอด หลังจากนั้น เมื่อหลวมตัวแต่งงานไป วันเวลาส่วนใหญ่เป็นเรื่องของความทุกข์มากกว่าความสุข

 

ฉะนั้น ความสุขซึ่งเกิดจากการมีความรักเชิงชู้สาวนั้นแท้ที่จริงก็คือความทุกข์ที่รอเวลาอยู่นั่นเอง มันคือความสุข แต่แท้ที่จริงคือเจ้าความทุกข์ที่รอเวลาแสดงตัว คนหนุ่มคนสาวจำนวนมากไม่รู้ ก็เลยคิดว่าความรักนั้นช่างหอมหวานเหลือเกิน จริงอยู่ความรักเป็นความหอมหวาน แต่เป็นความหอมหวานของเนื้อทุเรียนซึ่งมีเปลือกที่แสนขรุขระ

 

ทางพุทธศาสนากล่าวว่า “ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีโศก ที่ใดมีโศก ที่นั่นก็มีภัย ที่ใดไร้รักไร้โศก ที่นั่นก็พ้นโศกพ้นภัย” ฉะนั้น ถ้าใครรักแล้วจะปฏิเสธทุกข์ ไม่มีทาง ถ้าเรามีโศกก็หมายความว่า เรายึดติด แล้วจะปฏิเสธความเศร้าที่จะตามมา ไม่มีทาง ทุกคนที่เริ่มมีความรัก ขอให้เรียนรู้กติกาของความรักเอาไว้เลยว่า “ความรักมีความทุกข์เป็นของแถม” เหมือนกับเราหยิบเหรียญกษาปณ์ขึ้นมา 1 เหรียญด้านที่ปรากฏต่อเราคือด้านหัว และด้านตรงกันข้าม ก็คือด้านก้อย เช่นเดียวกัน เมื่อเรายกหน้ามือขึ้นมาพินิจ หลังมือก็ติดมาพร้อมๆ กัน ความรักกับความทุกข์จึงเป็นของคู่กันมาตั้งแต่ต้นจนจบ

 

แต่การที่คนส่วนใหญ่มองไม่เห็นก็เพราะเขายังถูกความรักบังตา เหมือนกับที่รัชกาลที่ 6 ทรงพระราชนิพนธ์เอาไว้ในบทละครพูดคำฉันท์เรื่อง “มัทนะพาธา” ความตอนหนึ่งว่า

ความรักเหมือนโรคา บันดาลตาให้มืดมน

ไม่ยินและไม่ยล

อุปสรรคใดใด

ความรักเหมือนโคถึก กำลังคึกผิขังไว้

ก็โลดจากคอกไป

บ ยอมอยู่ ณ ที่ขัง

ถึงหากจะผูกไว้

ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง

ก็ดึงไปด้วยกำลัง

บ หวนคิดถึงเจ็บกาย”

 

นี่เป็นสัจธรรมที่อยู่ในกวีนิพนธ์ คนมีความรักนั้นมีกำลังนับร้อยเท่านับพันเท่าเพื่อจะโลดแล่นโจนทะยานออกไป บางครั้งโจนทะยานออกไปจากอกพ่ออกแม่เพื่อที่จะได้มาค้นพบในภายหลังว่า คนที่รักเราแท้ที่สุดก็คือพ่อแม่นั่นเอง

 

ฉะนั้น ทุกครั้งที่เราเริ่มต้นที่จะมีความรัก สิ่งหนึ่งซึ่งควรจะต้องมาคู่กันกับการมีความรักก็คือ จะต้องมีความเข้าใจในธรรมชาติของความรัก เมื่อความรักเปลี่ยนแปลงไปไม่เหมือนเดิม ขอให้ถือว่านี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ถึงขนาดชีวิตจะไปต่อไม่ได้

 

ขอให้รู้ไว้เถิดว่า แท้ที่จริงชีวิตยังไปต่อได้สบาย ความรักเป็นเพียง “ส่วนหนึ่ง” ของชีวิต ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต เราอาจสูญเสียคนที่เรารักไป แต่ไม่ได้หมายความว่าเราได้สูญเสียความสามารถที่จะรัก

 

ปรีชาญาณแห่งการเข้าใจโลก

 

ความรักเกิดขึ้นมาเพื่อมอบปรีชาญาณแห่งการเข้าใจโลกเข้าใจชีวิตให้แก่เรา ดังนั้น ขอให้มองความรักครั้งที่ผ่านมาด้วยสายตาแห่งความขอบคุณ หากใครที่กำลังอกหักหรือผิดหวังในความรัก ขอแนะนำให้ทำใจ อย่าทำร้ายตัวเอง เพราะถ้าเผลอทำร้ายตัวเอง เราจะเสียใจว่า ตัวเองนี่โง่มาก บนโลกนี้ 100 คนที่เคยมีความรัก 95 คนต่างก็

เคยอกหัก ให้ทำใจว่า การอกหักเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการมีความรัก ที่เขาทุกข์เพราะเขาคิดว่ารักแล้วต้องสมหวังช่วงที่อกหักนี้ให้หาอะไรทำไปพลางๆ ก่อนเถิด อย่าปล่อยให้ใจฟุ้งซ่านมากนัก

 

น้ำที่หกจากแก้วออกไปแล้วนั้น อย่าพยายามกอบมาใส่แก้วอีกเลย ถึงทำได้ คุณภาพก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปควรมองไปข้างหน้า พร้อมๆ กับเรียนรู้ว่า ศักยภาพที่จะรักยังคงอยู่กับเรา และโลกนี้มีคนอีกมากมาย คนที่ใช่ที่สุด อาจไม่ใช่คนของวันวาน แต่อาจเป็นคนของวันนี้ หรือวันพรุ่งนี้ก็เป็นได้

 

อย่าผูกชีวิตไว้กับคนเพียงคนเดียว เพราะชีวิตมีคุณค่ายิ่งใหญ่กว่านั้นอย่างประมาณไม่ได้ในความเป็นจริง เคยมีคนที่ต้องเดินหันหลังให้กับคนที่รักกันตั้งมากมาย ที่ได้มาค้นพบในภายหลังว่า เขาสามารถมีชีวิตที่ดีกว่าเดิมได้อย่างสุดพิเศษ

 

การอกหักจึงเป็นสิ่งดีๆ ที่ควรเรียนรู้เอาไว้ คนที่ทำให้เราอกหักก็ไม่ใช่คนเลวอะไร ควรขอบใจเขาด้วยซ้ำที่ได้ช่วยมอบบทเรียนอันทรงคุณค่าให้เราได้เรียนรู้ ชีวิตคนเรานั้นหากไม่ได้เรียนรู้ ก็จะเป็นชีวิตที่ขาดภูมิต้านทานความทุกข์ ไม่มีวุฒิภาวะในการดำเนินชีวิต ชีวิตที่ปราศจากบทเรียน จะเป็นชีวิตที่เปราะบางไม่ต่างอะไรกับแก้ว ที่ตกง่าย ก็แตกง่าย

 

แต่ชีวิตของใครก็ตามที่ได้ผ่านบทเรียนมามากมาย ชีวิตเช่นนั้นจะมีภูมิต้านทานชีวิตสูง มีความเข้าใจทักษะการดำรงชีวิตเป็นเลิศ มีศักยภาพในการเผชิญความสุข ความทุกข์ด้วยดวงใจอันสงบ 

 

ความรักเกิดขึ้นมาเพื่อมอบปริญญาแห่งการเข้าใจโลก เข้าใจชีวิตให้แก่เรา ดังนั้น ขอให้มองความรัก  ครั้งที่ผ่านมา ด้วยสายตาแห่งความขอบคุณ จากนั้นควรลุกขึ้นมาทำงาน ดำเนินชีวิตต่อไป ไม่ต้องฟูมฟายมากมายหนัก รอให้ผ่านวันเวลาไปช่วงหนึ่ง แล้วเราจะพบว่าชีวิตได้เติบโตขึ้นมากมายจากประสบการณ์คราวนี้ และจากนี้ต่อไปจะไม่มีอะไรให้ต้องกลัวอีกแล้ว  คนนั้นเมื่อมีประสบการณ์มาครั้งหนึ่ง ก็จะเกิดการเรียนรู้ครั้งสำคัญ  ขอให้มองว่า เรากำลังเรียนรู้บทเรียนที่สำคัญ  ที่สุดในชีวิตบทหนึ่ง ไม่ว่าจะทุกข์ จะสุขอย่างไร ก็ก้มหน้าเรียนรู้ไป แล้ววันหนึ่งข้างหน้าเราจะพบว่าอกหักนั้นไม่ทุกข์ถึงตาย แต่ทำให้เราเติบใหญ่ขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แบบต่างหาก

 

สำหรับคู่สามีภรรยา ถ้าเราไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตคู่หรือรักกันมาตั้งห้าหกปี แล้วสุดท้ายก็เลิกกัน หรือแต่งกันมา 10 ปีแล้วสุดท้ายก็เลิกกัน คนที่เจ็บปวดจากความไม่สมหวังในความรัก จากการใช้ชีวิตคู่ ควรจะมองออกไปให้กว้างว่า ขาดเขาแล้วเราไม่ตาย เพราะก่อนจะมีเขาเรายังอยู่มาได้ เมื่อกลับไปไม่มีเขาอีกครั้งหนึ่ง เราก็กลับไปยืนอยู่ ณ จุดเดิม เราก็ต้องอยู่ต่อไปให้ได้ แล้วอย่าทำร้ายชีวิต อย่าทำร้ายตัวเอง  แต่ให้นึกว่า การที่เราเกิดเป็นคน แล้วไม่ได้ทุกอย่างดังใจหวังนั้น มันเป็นบทเรียนขั้นหนึ่งของชีวิต เป็นบันไดขั้นหนึ่งของชีวิตที่เราจะต้องก้าวขึ้นไปเรื่อยๆ"

 

บทเรียนที่ยากและง่าย

 

ทุกคนที่มีความรัก ควรภาวนาคาถากันน้ำตาไหลที่ว่า“ไม่แน่ ไม่ได้ดั่งใจ ไม่มีอะไรสมบูรณ์” เอาไว้เสมอในชีวิตของมนุษย์เรานั้น มีบทเรียนอยู่สองบทเรียน

 

หนึ่ง บทเรียนที่ยาก และสอง บทเรียนที่ง่าย

 

บทเรียนที่ง่าย ก็คือทำอะไรก็สมหวังไปเสียทุกอย่าง พอสมหวังไปเสียทุกอย่าง มนุษย์มักจะหลงตัวเอง พอหลงตัวเอง นั่นคือต้นทางของความผิดพลาด

 

ส่วนบทเรียนที่ยาก มักจะช่วยขัดเกลาฝึกปรือเราให้เข้มแข็ง เหมือนคนบางคนที่เกิดมายากจนจึงเรียนรู้ที่จะต่อสู้และเมื่อพยายามต่อสู้ในที่สุดก็ประสบความสำเร็จเป็นคนมั่งคั่งพรั่งพร้อมได้

คนจำนวนมากที่สามารถสร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาได้ แล้วกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ของโลกนั้นเพราะคนเหล่านั้นไม่ปฏิเสธบทเรียนที่ยาก แต่ถือว่าบทเรียนที่ยากของชีวิต เปรียบเสมือนหินลองทอง หรือเปรียบเสมือนหินลับมีดที่ขัดสีฉวีวรรณหรือบางที่เปรียบเสมือนกระดาษทรายที่ทำหน้าที่ขัดให้ชีวิตของเรานั้นผุดผ่องแวววาวทอประกายเจิดจรัสงดงามยิ่งขึ้น

 

ฉะนั้น การที่เราล้มเหลวในเรื่องความรักในเรื่องชีวิตคู่ก็ขอให้ถือว่าความล้มเหลวนั้นคือบทเรียนแสนยากที่เป็นบันไดขั้นหนึ่งซึ่งเราต้องก้าวข้ามไป พอเราก้าวข้ามไปได้ ชีวิตของเราก็จะมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ผู้รู้ท่านหนึ่งบอกว่า “ชีวิตที่ไม่ผ่านการต่อสู้เป็นชีวิตที่ไม่ควรค่าแก่การยกย่อง” เรามีหน้าที่สู้ชีวิต มีหน้าที่ก้าวข้ามความยากลำบาก ไม่ได้มีหน้าที่มาจมปลักอยู่กับความยากลำบากแล้วก็ทําร้ายทําลายตัวเอง ทุกครั้งที่เจอบทเรียนที่แสนยาก บอกตัวเองว่า เราต้องก้าวข้ามมันไป ไม่ใช่ไปฝังตัวเองอยู่แค่ตรงนั้น

 

บทเรียนยากๆ ทั้งหลายก็เปรียบเสมือนขั้นบันได

 

บันไดทุกขั้น เรามีหน้าที่ต้องก้าวผ่านขั้นบันไดเหล่านั้นไปไม่ใช่เอาแต่นั่งจุ้มปุ๊กอยู่ตรงบันไดแล้วบอกว่า พอแล้วสําหรับชีวิตฉัน

 

อ้างอิง : ก้าวไปให้ถึงรักแท้ (LOVE) ว.วชิรเมธี

เนื้อหาโดย: machete007
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
machete007's profile


โพสท์โดย: machete007
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
รถยนต์แบรนด์ไทย ที่ประสบความสำเร็จและมียอดขายมากที่สุดเลขเด็ด "แม่จำเนียรล็อตเตอรี่" มาแล้ว! งวดวันที่ 16 กรกฎาคม 68..คอหวยส่องด่วน!เปิดสถิติหวย 16 กรกฎาคม ย้อนหลัง 10 ปี — มีเลขเบิ้ลให้ลุ้นจริงหรือ?สิบเลขขายดี แม่จำเนียร งวด 16/7/68วงการต่อสู้สั่นสะเทือน Azealia BanksโวยConor McGregor ส่งรูปของลับคุกคามเลขเด็ด เลขมาเเรง เลขดัง "รวมหวยเด็ดสำนักดัง vol.29" งวดวันที่ 16 กรกฎาคม 2568รวมเลขเด็ดงวด 16 ก.ค. 2568 จากทุกสำนักในโซเชียล ใครสายมูห้ามพลาด!
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เดือดหน้าปราสาทตาเมือนธม! หญิงเขมรชี้หน้าด่าทหารไทย กล่าวหาล้ำแดน จุดชนวนเหตุวุ่นวายลือ !! ติดเชื้อ HIV ถึง 11 คน! ทำเอาคนจีนทั้งประเทศแตกตื่นภาพยนตร์แอนิเมชันของไทย ที่ทำรายได้สูงที่สุดตลอดกาล
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ทั่วไป
การมองโลกในแง่ดีที่ถูกวิธีงานแปลก รายได้ดี แค่นั่งอ่านหนังสืออย่างเดียว..ทำเอาโซเชียลพากันฮือฮาทายนิสัยจาก ‘สีผม’ ที่ชอบ สามารถบอกบุคลิก ตัวตนที่เป็นกินของหวาน ๆ ทำให้สมองแล่น รู้ข้อดีและข้อเสียของการบริโภคน้ำตาล
ตั้งกระทู้ใหม่