ดราม่าแม่ลูก! ลูกสาวรับไม่ได้ แม่ใช้ภาพไปจีบพระ จนเกือบมีชีวิตคู่

"ลูกสาวสุดทน ประกาศตัดขาดแม่! แฉพฤติกรรมหลอกลวง ใช้ภาพหลานลวงพระจนเกือบสึกมาอยู่ด้วย"

กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง เมื่อลูกสาวรายหนึ่งออกมาโพสต์ภาพคู่กับแม่แท้ๆ ของตัวเอง พร้อมข้อความที่ทำให้ชาวเน็ตต้องตกตะลึง เพราะเธอประกาศตัดขาดความสัมพันธ์แม่ลูกอย่างสิ้นเชิง โดยให้เหตุผลว่าผู้เป็นแม่ได้นำรูปถ่ายของเธอ รวมถึงของลูกๆ ซึ่งเป็นหลานแท้ๆ ไปใช้ในการแอบอ้างหลอกลวงผู้อื่นมาหลายครั้ง จนครั้งนี้เธอไม่อาจทนได้อีกต่อไป พร้อมยืนยันจะดำเนินคดีทางกฎหมายกับแม่ของตัวเองให้ถึงที่สุด

เรื่องราวนี้ได้รับความสนใจจากสังคมทันที และถูกนำไปพูดคุยอย่างละเอียดในรายการ "โหนกระแส" รายการดังที่ดำเนินรายการโดย หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ซึ่งได้เชิญผู้เสียหายตัวจริงที่ชื่อว่า "คุณเดียว" มานั่งเปิดใจถึงเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยตัวเอง

ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่คือพฤติกรรมซ้ำซาก

คุณเดียวเล่าว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แม่ของเธอกระทำพฤติกรรมในลักษณะนี้ เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันเกิดขึ้นมาหลายครั้ง โดยเฉพาะการที่แม่แอบนำภาพส่วนตัวของเธอ รวมถึงของลูกทั้งสองคนไปใช้ตั้งเป็นรูปโปรไฟล์ในโซเชียลมีเดียต่างๆ เพื่อใช้ในการพูดคุยกับผู้ชายหลายคนในเชิงชู้สาว

แม่ของเธอมักจะวางอุบายให้ดูเหมือนเป็นหญิงสาวโสดมีลูกติด ใช้ภาพของลูกจริงๆ เป็นองค์ประกอบในเรื่องราว ก่อนจะค่อยๆ หยิบยื่นความใกล้ชิดแล้วขอยืมเงิน ขอความช่วยเหลือต่างๆ จากชายเหล่านั้น ซึ่งบางรายก็หลงเชื่อและโอนเงินช่วยเหลือให้ไม่น้อย

สิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้น คือการที่แม่ของเธอเคยใช้ภาพของหลานไปหลอกพระสงฆ์ โดยอ้างให้ช่วยรับเป็นลูกบุญธรรม เพื่อขอเงินค่าดูแลเด็ก และบางครั้งยังมีการขอของขวัญหรือสิ่งของ เช่น กีตาร์ โดยอ้างว่า “หลานชายคนโตอยากเล่นดนตรี” ซึ่งคุณเดียวกล่าวว่า สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นโดยที่เธอไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนเลยแม้แต่นิดเดียว

จุดแตกหัก: หลอกพระจนเกือบสึก

จุดที่ทำให้เธอถึงกับหมดความอดทนและต้องออกมาประกาศตัดขาดความสัมพันธ์แม่ลูกอย่างเด็ดขาด คือเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นในช่วงที่เธอประสบอุบัติเหตุร้ายแรงจากการถูกรถชนจนต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล

ในขณะที่เธอกำลังเจ็บหนักและพักรักษาตัวอยู่ กลับพบว่าแม่ของเธอนำภาพของเธอที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ในสภาพอ่อนแอไปใช้ในการหลอกพระรูปหนึ่ง โดยปลอมตัวเป็นเธอ ใช้ภาพของลูกสาวเป็นโปรไฟล์และแอบอ้างว่าเป็นผู้หญิงที่กำลังเจ็บป่วย ต้องการความช่วยเหลือ

พระรูปดังกล่าวหลงเชื่ออย่างสนิทใจ ไม่เพียงแต่โอนเงินช่วยเหลือให้หลายครั้ง แต่ยังส่งของขวัญและขนมต่างๆ มาให้ลูกของคุณเดียวอีกด้วย ซึ่งที่อยู่ผู้รับในพัสดุล้วนถูกจ่าหน้าถึงชื่อของคุณเดียว จนทำให้เธอเริ่มรู้สึกสงสัย

สืบจนรู้ความจริง ช็อกกับสิ่งที่พบ

คุณเดียวเล่าว่า วันหนึ่งมีพัสดุชิ้นใหญ่ส่งมาถึงบ้าน เป็นกล่องใส่กีตาร์ที่จ่าหน้าถึงชื่อของเธอโดยตรง แต่ชื่อผู้ส่งกลับถูกฉีกทิ้งอย่างมีพิรุธ ทำให้เธอตัดสินใจสืบต่อจนทราบว่าพระรูปดังกล่าวเป็นผู้สั่งซื้อกีตาร์ชิ้นนั้นให้บุตรบุญธรรม ซึ่งพระเข้าใจว่าคือลูกชายของคุณเดียว

เมื่อเธอติดต่อไปยังร้านขายกีตาร์ ก็ได้รับข้อความแชทที่พระเคยคุยกับทางร้าน โดยในแชทมีข้อความชัดเจนว่าพระตั้งใจจะส่งกีตาร์ให้ลูกของหญิงสาวที่ตนพูดคุยอยู่ ซึ่งพระเข้าใจมาตลอดว่าเป็นคุณเดียว และหลงรักจนถึงขั้นคิดจะลาสิกขามาอยู่ด้วยกัน

“พระรูปนี้หลงรักแม่ของหนูที่ปลอมเป็นหนู หัวปักหัวป่ามาก คุยกันมานานจนพระเข้าใจจริงๆ ว่าคุยกับหนู ทั้งที่หนูไม่เคยรู้เลยว่าเขาคุยอะไรกัน และพระกำลังจะลาสิกขามาอยู่ด้วย” คุณเดียวกล่าวอย่างเจ็บปวด

ไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่กระทบความรู้สึกและชีวิตของคนบริสุทธิ์

เธอยืนยันว่าการกระทำของแม่ไม่ใช่แค่เรื่องของการหลอกเอาเงิน แต่เป็นการกระทำที่กระทบกระเทือนจิตใจและชีวิตของหลายคน ทั้งลูกๆ ของเธอที่ถูกเอาภาพไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งพระที่ต้องเสียศรัทธา ทั้งผู้ชายหลายรายที่ถูกหลอก ทั้งหมดล้วนไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย

เธอย้ำว่า ที่ออกมาพูดวันนี้ไม่ใช่เพราะต้องการแฉแม่ แต่เพราะอยากให้เรื่องนี้เป็นบทเรียนกับทุกคน โดยเฉพาะคนที่หลงเชื่อในโลกออนไลน์อย่างง่ายดาย เพราะบางครั้งสิ่งที่เราเห็นในโซเชียลอาจไม่ใช่เรื่องจริงเลย

ยืนยันจะดำเนินคดี ไม่ยอมอภัยอีกต่อไป

แม้จะเป็นแม่ลูกกัน แต่คุณเดียวกล่าวอย่างหนักแน่นว่า ครั้งนี้เธอจะไม่ยอมให้อภัยอีกแล้ว เพราะพฤติกรรมของแม่เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น และไม่ควรมีใครต้องตกเป็นเหยื่อซ้ำอีก

“หนูเคยให้อภัยแม่หลายครั้งแล้ว แต่แม่ก็ยังทำซ้ำๆ ไม่รู้สึกผิดหรือสำนึก ครั้งนี้หนูจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อให้แม่หยุดพฤติกรรมแบบนี้เสียที” เธอกล่าวอย่างเด็ดขาด

เรื่องราวของคุณเดียวและแม่ของเธออาจฟังดูเหมือนเรื่องดราม่าในละครน้ำเน่า แต่กลับเป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในยุคที่ใครๆ ก็ใช้โซเชียลมีเดียในการสร้างตัวตนใหม่ หลอกลวงผู้อื่น หรือแม้กระทั่งบิดเบือนชีวิตของคนอื่นเพื่อประโยชน์ส่วนตัว

สิ่งสำคัญที่สังคมควรตระหนักคือ “การยืมภาพผู้อื่นไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต” เป็นเรื่องผิดกฎหมาย และอาจนำไปสู่คดีอาญาได้ โดยเฉพาะในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวง ฉ้อโกง หรือสร้างความเสียหายให้แก่ผู้อื่น

นอกจากนี้ยังเป็นบทเรียนเตือนใจให้ผู้ใช้งานโซเชียลทั้งหลายระวังตัว และอย่าหลงเชื่อเพียงแค่สิ่งที่เห็นบนหน้าจอ เพราะเบื้องหลังรูปภาพสวยงามอาจแฝงไปด้วยความจริงที่เจ็บปวดของใครบางคนก็เป็นได้