โศกนาฏกรรมแห่งการตัดกลีบสมอง (Lobotomy) การรักษาโรคทางจิตเวชในสมัยโบราณ
ในยุคที่ความเข้าใจโรคทางจิตเวชยังจำกัด การรักษาจึงดูป่าเถื่อนและไร้ประสิทธิภาพ จอห์น ฟูลตัน พบว่าการตัดสมองส่วนหน้าในลิงที่ก้าวร้าว ทำให้ลิงสงบลง อันโตนิโอ เอกาส โมนิส นำแนวคิดนี้มาใช้รักษาผู้ป่วยจิตเวช โดยการผ่าตัดทำลายใยประสาทในสมองส่วนหน้า และได้รับรางวัลโนเบลจากผลงานนี้
วอลเตอร์ ฟรีแมน นายแพทย์ชาวอเมริกันเล็งเห็นโอกาสในการแก้ปัญหาสถานสงเคราะห์ที่ล้นเกิน เขาพัฒนาวิธีการตัดกลีบสมองผ่านกระบอกตา (Transorbital Lobotomy) โดยใช้เครื่องมือคล้ายที่แซะน้ำแข็ง แทงผ่านเบ้าตาเข้าไปทำลายสมองส่วนหน้า วิธีการนี้รวดเร็วและง่าย ทำให้ฟรีแมนสามารถทำการผ่าตัดจำนวนมากนอกห้องผ่าตัด และได้รับการสนับสนุนจากสื่อในช่วงแรก
อย่างไรก็ตาม ผลเสียของการตัดกลีบสมองเริ่มปรากฏชัดเจน ผู้ป่วยจำนวนมากเสียชีวิต พิการ หรือกลายเป็นผู้ที่ไม่ตอบสนอง สูญเสียความเป็นมนุษย์ นายแพทย์เจมส์ วัตส์ คู่หูของฟรีแมน และแม้แต่นายแพทย์โมนิส ต่างวิพากษ์วิจารณ์วิธีการที่รุนแรงนี้
ในช่วงทศวรรษ 1950 หลายประเทศเริ่มสั่งห้ามการตัดกลีบสมอง การค้นพบยารักษาจิตเวชอย่างคลอโปรมาซีน ทำให้ความนิยมของการผ่าตัดลดลงอย่างรวดเร็ว ในที่สุด การตัดกลีบสมองก็ถูกยกเลิกไป
เรื่องราวของการตัดกลีบสมองเป็นบทเรียนสำคัญในประวัติศาสตร์การแพทย์ สะท้อนถึงความสิ้นหวังในการรักษาโรคที่ไม่เข้าใจ การขาดความรอบคอบและจริยธรรมทางการแพทย์ที่เข้มงวด นำไปสู่โศกนาฏกรรมและการสูญเสียความเป็นมนุษย์ของผู้ป่วยจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้หญิงและกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศที่ถูกตีตราว่าเป็นผู้ป่วยทางจิตเวชในยุคนั้น เหตุการณ์นี้เตือนให้ตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษา การทำความเข้าใจโรคอย่างถ่องแท้ และการให้ความสำคัญกับคุณค่าความเป็นมนุษย์ของผู้ป่วยในการรักษาทุกรูปแบบ

















