ชีวิตพลิกผันของ มาริลิน มอนโร จากเด็กหญิงยากจน สู่ไอคอนโลก
มาริลิน มอนโร หรือชื่อจริง นอร์มา จีน เติบโตมาในวัยเด็กที่ยากลำบาก มีพ่อ และแม่ก็ไม่สามารถเลี้ยงดูเธอได้ ทำให้เธอต้องอยู่ภายใต้การดูแลของครอบครัวอุปถัมภ์หลายครั้ง จนกระทั่งอายุ 16 ปี เธอแต่งงาน แต่ชีวิตก็พลิกผันอีกครั้งเมื่อสามีถูกส่งไปรบในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้นอร์มา จีนต้องทำงานในโรงงานผลิตอาวุธ ที่นั่นเธอถูกช่างภาพสงครามชักชวนเข้าสู่วงการถ่ายแบบ และด้วยลุคสาวผมบลอนด์ที่ถูกสร้างขึ้น ทำให้เธอเริ่มเป็นที่รู้จักและได้เซ็นสัญญากับ Twenty Century Fox เปลี่ยนชื่อเป็น มาริลิน มอนโร
แม้ชีวิตการงานจะเริ่มสดใส แต่ชีวิตส่วนตัวของเธอก็ยังคงผันผวน เธอหย่าร้างกับสามีคนแรก และแม้จะพยายามสร้างชื่อเสียงในฮอลลีวูด แต่ก็ต้องเผชิญกับด้านมืดของวงการ และรู้สึกถูกด้อยค่า อย่างไรก็ตาม มาริลินเป็นคนใฝ่รู้และตั้งใจพัฒนาตัวเองด้านการแสดงอย่างมาก จนกระทั่งยุคทองของเธอมาถึงในช่วงปี 1949-1952 เมื่อเธอกลับมาทำงานกับ Twenty Century Fox และโด่งดังจากภาพลักษณ์สาวผมบลอนด์เซ็กซี่ มีผลงานที่เป็นที่จดจำมากมาย เช่น "Niagara" และ "Gentlemen Prefer Blondes"
ภาพจำอันโด่งดังของเธอคือฉากกระโปรงพลิ้วจากเรื่อง "The Seven Year Itch" และการร้องเพลงอวยพรวันเกิดสุดเซ็กซี่ให้ประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี ซึ่งชุดที่เธอใส่ในวันนั้นกลายเป็นชุดที่มีมูลค่าการประมูลสูงสุดในประวัติศาสตร์
แต่เบื้องหลังความสำเร็จ มาริลินต้องเผชิญกับปัญหาทางจิตใจและการใช้ยา และเสียชีวิตอย่างกะทันหันในวันที่ 5 สิงหาคม 1962 ตำรวจสรุปว่าเป็นการใช้ยาเกินขนาด แต่คำให้การของคนใกล้ชิดและทฤษฎีสมคบคิดต่างๆ เกี่ยวกับการตายของเธอก็ยังคงเป็นปริศนาที่ถกเถียงกันมาจนถึงทุกวันนี้
ถึงแม้เวลาจะผ่านไปกว่า 60 ปี มาริลิน มอนโร ยังคงเป็นที่จดจำในฐานะไอคอนฮอลลีวูด เธอเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้กับระบบสตูดิโอที่กดขี่ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงมากมาย ความงาม ความสามารถ และเรื่องราวชีวิตที่น่าสนใจของเธอ ทำให้เธอยังคงเป็นตำนานที่ผู้คนทั่วโลกพูดถึงและยกย่องมาจนถึงปัจจุบัน






















