"หลวงพ่อสุริยันต์" ลั่นพร้อมชี้แจง! ปมวัดป่าวังน้ำเย็นถูกโยงฟอกเงิน
“หลวงพ่อสุริยันต์” แห่งวัดป่าวังน้ำเย็น ยืนยันพร้อมให้ตรวจสอบ หลังถูกกล่าวหาว่าเป็นแหล่งฟอกเงินจากเว็บพนัน – ย้ำชัดวัดมีแต่ความดี ไม่มีที่ว่างสำหรับความบาป
จากกรณีที่เพจชื่อดังอย่าง CSI LA ได้ออกมาโพสต์ข้อมูลผ่านทางโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “วัดป่าวังน้ำเย็น จังหวัดมหาสารคาม เป็นอีกหนึ่งสถานที่น่าสงสัย อาจถูกใช้เป็นแหล่งฟอกเงินจากเว็บพนัน โดยมีการพาดพิงถึงนักการเมืองกลุ่ม 'วัยรุ่นสร้างตัว' จากจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมทั้งมีการโยงพฤติกรรมรองเจ้าอาวาสหนุ่มในเชิงเสื่อมเสีย” นำไปสู่การตั้งคำถามในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวางว่า วัดแห่งนี้มีความเกี่ยวข้องกับกระแสเงินผิดกฎหมายจริงหรือไม่?
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวในพื้นที่ได้เดินทางไปยังวัดป่าวังน้ำเย็น หรือชื่อทางการว่า วัดพุทธวนาราม ตั้งอยู่ที่ตำบลเกิ้ง อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงจาก พระราชวชิรปัญญาภรณ์ หรือหลวงพ่อสุริยันต์ โฆสปัญโญ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานสงฆ์ของวัดแห่งนี้
หลวงพ่อสุริยันต์: “วัดคือสถานที่แห่งบุญ ไม่ใช่สถานที่ของคนบาป”
หลวงพ่อสุริยันต์ได้กล่าวอย่างตรงไปตรงมา พร้อมแสดงความมั่นใจในความบริสุทธิ์ของวัด โดยระบุว่า ข่าวที่ออกมานั้นไม่มีผลกระทบต่อวัดหรือศรัทธาของประชาชนแต่อย่างใด เพราะคนที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนา ย่อมมาด้วยใจบริสุทธิ์ ไม่ใช่ด้วยเจตนาแอบแฝง
“คนบาปที่ไหนจะมาทำบุญ? ถ้าใจยังบาป จะมาทำบุญทำไมล่ะ? มันเป็นไปไม่ได้” หลวงพ่อกล่าว พร้อมย้ำว่า “คนมีศรัทธาจึงมาทำบุญ ส่วนคนที่ไม่มีศรัทธา เขาก็ไม่มาอยู่แล้ว”
พระอาจารย์ยังยกคำสอนเชิงเปรียบเทียบว่า “อย่าไปมองอีมองฉี่ อย่าดูของสกปรก เพราะมันจะทำให้ใจขุ่นมัว จงมองธรรมะ มองสิ่งดีงาม ความดีเท่านั้นที่จะนำพาเราไปสู่สิ่งที่สูงส่ง”
พร้อมให้ตรวจสอบ แต่ขอให้เข้าใจปัญหาที่แท้จริง
ในขณะที่หลายคนอาจตั้งคำถามว่า “วัดจะมีเงินมากมายถึงขนาดเป็นพันล้านได้อย่างไร?” หลวงพ่อสุริยันต์ตอบอย่างชัดเจนว่า “เงินทั้งหมดที่วัดมี มาจากศรัทธาของญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาที่นำมาบริจาคเพื่อใช้ในกิจกรรมทางศาสนาและการช่วยเหลือสังคม เช่น การจัดซื้อรถพยาบาลให้กับโรงพยาบาลในจังหวัดมหาสารคาม”
ท่านยังกล่าวด้วยอารมณ์ขันว่า “ถ้าอยากมาตรวจสอบวัด ก็เชิญมาได้เลย วัดไม่เคยปิดกั้น แต่ถ้าจะมาจริงๆ อย่าลืมช่วยมาช่วยกันใช้หนี้ด้วย เพราะวัดเองก็มีปัญหาเรื่องโครงสร้าง เช่น หลังคาวัดรั่ว เหมือนบ้านคนทั่วไป”
ไม่มีใครหนีความจริงได้ – ความดีคือเกราะป้องกัน
หลวงพ่อสุริยันต์เน้นย้ำว่า การกล่าวหาโดยไม่มีมูลนั้นถือเป็นการสร้างกรรม อีกทั้งยังสะท้อนถึงสังคมปัจจุบันที่ใครก็สามารถพิมพ์ พูด หรือใส่ร้ายใครได้ง่ายๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือโดยไม่พิจารณาความจริง
“สมัยนี้เป็นยุคโทรศัพท์ อยากกด อยากด่า อยากพิมพ์อะไรก็ทำได้หมด แต่ความจริงก็คือความจริง ไม่มีใครหนีมันพ้น ช้างตายทั้งตัว เอาใบบัวปิดก็ไม่มิด” ท่านเปรียบเทียบให้เห็นถึงความเป็นจริงที่ไม่อาจปิดบังได้
หลวงพ่อยังกล่าวถึงหลักการพื้นฐานของการเป็นชาวพุทธว่า “เราต้องเคารพในพระพุทธศาสนาและความเป็นจริง อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใครจากคำพูดหรือภาพในโซเชียล เพราะทุกสิ่งยังไม่มีใครสามารถชี้ชัดได้ 100%”
ชี้คนดีไม่ทอดทิ้งความดี – วัดที่ดีจะไม่ข้องเกี่ยวกับความชั่ว
“คนดีไม่ทอดทิ้งความดี และความดีไม่ทอดทิ้งคนดี” เป็นอีกหนึ่งข้อความสำคัญที่หลวงพ่อกล่าวอย่างหนักแน่น
หลวงพ่อกล่าวเพิ่มเติมว่า “ไม่มีวัดไหนหรอกที่อยากเอาตัวเองไปข้องเกี่ยวกับสิ่งไม่ดี ถ้าไม่มีความดี วัดนี้ก็คงไม่ได้มาไกลถึงจุดนี้ ทุกวันนี้ญาติโยมยังมาทำบุญเหมือนเดิม ไม่มีใครหายไป เพราะเขาเชื่อในสิ่งที่ตนเองเห็นและสัมผัสได้ด้วยตัวเอง”
สิ่งหนึ่งที่พระอาจารย์สุริยันต์พูดไว้อย่างน่าสนใจคือ “ปากคน ความคิดคน เปลี่ยนได้ตลอดเวลา บางคนคิดให้พระเป็นพระอรหันต์ก็ได้ หรือจะคิดให้พระเป็นคนชั่วก็ยังได้ ทั้งหมดคือความคิด เราไปห้ามไม่ได้” จึงอยากให้สังคมใช้วิจารณญาณและพิจารณาข้อมูลอย่างมีสติ
“เรามีหน้าที่ทำความดี ถ้าไม่ทำกับวัด ก็ทำกับโรงเรียน โรงพยาบาล ช่วยเหลือผู้ยากไร้ มันก็คือบุญทั้งนั้น”
วัดยังยืนหยัด วัดยังเปิดรับ และวัดยังคงทำความดี
จากคำให้สัมภาษณ์ทั้งหมด จะเห็นได้ชัดเจนว่าหลวงพ่อสุริยันต์และวัดป่าวังน้ำเย็นยังคงดำเนินกิจกรรมตามปกติ พร้อมเปิดให้มีการตรวจสอบจากหน่วยงานรัฐหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยไม่มีความกังวล
ท่านยังฝากถึงประชาชนทุกคนว่า ขอให้ใช้สติในการรับข่าวสาร อย่าตัดสินจากข้อมูลเพียงด้านเดียว อย่าให้ข่าวปลอม ข่าวลือ หรือการกล่าวหา ทำลายความดีที่ถูกสั่งสมไว้ยาวนาน
“จงดูสิ่งที่งาม อย่ามัวมองสิ่งอุจาดตา จงมองธรรมะ ความดี ที่จะนำพาเราไปข้างหน้า และอย่าท้อถอยกับคำพูดของคนที่ไม่รู้จักเรา” – พระราชวชิรปัญญาภรณ์























