เกินไปหรือเปล่า? เอวาหน้าเหวอ เจอเซียนหรั่งโชว์ตูดกลางกล้องแบบไม่ทันตั้งตัว
“เซียนหรั่ง” เจอดราม่า หลังพา “เอวา ปวรวรรณ” ลงคลิปไลฟ์สไตล์ติดดิน แต่จุดพีกกลายเป็นเรื่องให้คนวิจารณ์สนั่น
กลายเป็นดราม่าร้อนในโลกออนไลน์ เมื่อยูทูบเบอร์สายวิถีชาวบ้านอย่าง “เซียนหรั่ง” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เซียน STUDIO” ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอล่าสุดในช่องยูทูบของตน ตอนที่มีชื่อว่า “วิถีชีวิตแบบมะลายยายอยาก | ตอน ซื้อผักปอดทอดแหกับสาวเอวา” โดยมีแขกรับเชิญสุดพิเศษคือ “เอวา ปวรวรรณ วีระภุชงค์” ทายาทนักธุรกิจหมื่นล้าน และยังเป็นยูทูบเบอร์-นักแสดงสาวที่หลายคนชื่นชอบจากบุคลิกที่น่ารักเป็นกันเอง
ในคลิปดังกล่าว เซียนหรั่งได้พาเอวาไปสัมผัสกับวิถีชีวิตเรียบง่ายแบบลูกทุ่งชนบท ตั้งแต่การไปตลาดซื้อผักพื้นบ้าน ไปจนถึงกิจกรรมที่หลายคนอาจไม่เคยทำมาก่อนอย่างการ “ทอดแห” หาปลาในหนองน้ำแบบติดดิน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เซียนหรั่งมักทำเป็นประจำ และถือเป็นเอกลักษณ์ของช่องนี้
กิจกรรมทั้งหมดดูเหมือนจะเป็นไปอย่างสนุกสนาน และเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ โดยเอวาเองก็มีท่าทีให้ความร่วมมือดีมาก พร้อมเรียนรู้วิถีชีวิตแบบใหม่ที่ไม่คุ้นเคย แต่สิ่งที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนของคลิป และทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในโลกโซเชียล ก็คือเหตุการณ์ในช่วงท้ายคลิปที่ทีมงานของเซียนหรั่งมีการ “แกล้ง” เอวาด้วยมุกที่หลายคนมองว่าเกินไป
จุดพีกดราม่า: “พนมมือสิ เดี๋ยวเจอโลมา”
ในช่วงหนึ่งของรายการ ขณะที่เอวากำลังยืนอยู่ริมหนองน้ำพร้อมทำกิจกรรมทอดแห ทีมงานได้พูดขึ้นว่า “เคยเจอโลมามั้ย?” เอวาก็ตอบอย่างน่ารักว่า “เคยค่ะ เคยเจอที่ออสเตรเลีย” ซึ่งก็ดูเหมือนจะเป็นการพูดคุยทั่วไป แต่ต่อจากนั้นทีมงานกลับพูดต่อว่า “ที่นี่ก็มีนะ พนมมือสิๆ เดี๋ยวเจอ” และเอวาเองก็ยกมือขึ้นพนมตามอย่างเชื่อฟังและนึกขำ
แต่ทันใดนั้นเอง หนึ่งในทีมงานที่อยู่ในน้ำก็ได้ดำตัวลงใต้น้ำ และโผล่ขึ้นมาในลักษณะเลียนแบบโลมาหรือสัตว์น้ำ ด้วยความตั้งใจแกล้งให้ตกใจ และแน่นอนว่าเอวาเองที่ไม่คาดคิดว่าจะมี “เซอร์ไพรส์” แบบนี้ ถึงกับสะดุ้งสุดตัว มีสีหน้าตกใจ และรีบบอกว่า “ไม่เอาแล้ว ไม่อยากดูแล้ว”
แม้ว่าฉากนั้นจะจบไปอย่างรวดเร็ว และดูเหมือนจะเป็นเพียงการหยอกล้อกันขำๆ ตามสไตล์รายการ แต่เมื่อคลิปถูกตัดออกเผยแพร่สู่สาธารณะกลับกลายเป็นว่า คนดูจำนวนไม่น้อยโดยเฉพาะใน TikTok และ Twitter มองว่า “เป็นการแกล้งที่เกินพอดี” และ “ไม่ให้เกียรติแขกรับเชิญ” โดยเฉพาะเมื่อแขกรับเชิญเป็นผู้หญิง และเป็นคนที่มีบุคลิกอ่อนโยน อายง่ายแบบเอวา
ชาวเน็ตวิจารณ์: เล่นแรงเกินไปหรือเปล่า? ควรเคารพแขกรับเชิญมากกว่านี้
หลังจากที่คลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกไปบน YouTube แล้วถูกตัดช่วงไฮไลต์ไปเผยแพร่ใน TikTok เพื่อโปรโมตและสร้างกระแส มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นหลากหลาย หลายเสียงบอกว่า:
“ดูแล้วสงสารน้องเอวาเลย เห็นสีหน้าตอนตกใจแล้วรู้สึกเลยว่าเขาไม่ได้สนุกไปด้วย”
“เล่นอะไรต้องดูคนด้วย น้องเป็นคนขี้เขินขี้อายแบบนั้น ไม่ควรแกล้งแรงแบบนี้”
“แค่อยากให้คิดถึงจิตใจแขกรับเชิญด้วย ไม่ใช่แค่ทำให้คลิปสนุกหรือเรียกยอดวิวอย่างเดียว”
“คลิปแบบนี้น่าจะตัดช่วงนี้ออกหรือปรับโทนให้เบากว่านี้”
ในขณะเดียวกันก็มีบางคนที่มองว่าเป็นการหยอกล้อกันขำๆ แบบรายการพื้นบ้าน ไม่มีเจตนาร้าย และเอวาเองก็ไม่ได้ติดใจอะไร โดยหลังคลิปจบ เอวาก็ได้เข้ามาคอมเมนต์ในช่องว่า:
“เป็นวันที่ได้ประสบการณ์ใหม่ และสนุกมากเลย ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนนะคะ แต่ตอนปลาโลมาคือ...หนูไม่คิดว่าจะทำจริงๆ ค่ะ ตอนแรกคิดว่าจะจับปลาตัวใหญ่ให้ 5555”
ซึ่งคอมเมนต์นี้ก็เป็นน้ำเสียงขำๆ ไม่มีการตำหนิใดๆ แต่ก็ยังไม่สามารถดับไฟดราม่าในโลกออนไลน์ได้ เพราะหลายคนยืนยันว่า “แม้แขกรับเชิญจะไม่ว่า แต่คนดูยังมีสิทธิ์รู้สึกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่เหมาะสม”
ความเห็นจากนักจิตวิทยา: อารมณ์ขันกับการเคารพผู้อื่นต้องไปด้วยกัน
นักจิตวิทยาบางรายได้ออกมาแสดงความเห็นผ่านเพจต่างๆ ว่า การสร้างคอนเทนต์เพื่อความบันเทิงสามารถทำได้ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของการ “ให้เกียรติ” โดยเฉพาะเมื่อมีแขกรับเชิญที่ไม่ได้รู้จักกับทีมงานมาก่อน หรือมีนิสัยไม่ถนัดกับการโดนเซอร์ไพรส์แรงๆ การแสดงออกของเอวาอย่างตกใจและรีบบอกว่า “ไม่เอาแล้ว” แสดงให้เห็นว่าเธอรู้สึกไม่สบายใจในขณะนั้น แม้จะเข้าใจได้ว่าทีมงานไม่มีเจตนาร้าย แต่ก็ควรระวังในการวางสคริปต์หรือการแกล้งกันต่อหน้ากล้อง
“เซียนหรั่ง” ควรออกมาชี้แจงหรือไม่?
ในขณะนี้ทีมงานของเซียนหรั่งยังไม่มีการออกมาชี้แจงหรือกล่าวถึงดราม่าที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด แม้กระแสวิจารณ์จะยังคงมีอย่างต่อเนื่อง แต่แฟนคลับของช่องก็ยังคงให้กำลังใจและบอกว่า “นี่คือเสน่ห์ของช่องที่ไม่ปรุงแต่ง” อย่างไรก็ตาม หลายคนก็แนะนำว่า การยอมรับคำวิจารณ์ และใช้เป็นโอกาสพัฒนาคอนเทนต์ให้เหมาะสมกับยุคสมัยก็เป็นสิ่งที่ควรทำ
เส้นบางๆ ระหว่างความสนุกและความเหมาะสม
กรณีนี้ถือเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของความเปราะบางในการทำคอนเทนต์ยุคปัจจุบัน ที่แม้จะไม่มีเจตนาร้าย แต่หากไม่ระวัง ก็อาจกลายเป็นดราม่าได้ในพริบตา โดยเฉพาะเมื่อต้องทำงานร่วมกับแขกรับเชิญที่มีบุคลิกเฉพาะตัว หรือกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย
สุดท้ายไม่ว่าใครจะอยู่ฝ่ายไหน ทุกฝ่ายล้วนควรรับฟังกันและกัน ทั้งผู้ชมที่แสดงความเห็นอย่างสุภาพ ผู้ผลิตคอนเทนต์ที่รับผิดชอบต่อเนื้อหา และแขกรับเชิญที่เปิดใจกับประสบการณ์ใหม่ๆ อย่างเอวา
หวังว่ากรณีนี้จะเป็นอีกบทเรียนให้วงการคอนเทนต์ออนไลน์ก้าวเดินต่อไปอย่างสร้างสรรค์ และ “เคารพ” ทุกคนที่อยู่ทั้งหน้าและหลังกล้องอย่างเท่าเทียม























